.
ภาพที่ 1: ลานน้ำแข็งที่ศูนย์รอกกี้เฟลเลอร์ สหรัฐฯ
.
.
ภาพที่ 2: ลานสเก๊ตน้ำแข็งในห้างสรรพสินค้า SM มอลล์ ออฟ เอเชีย, ฟิลิปปินส์
.
.
ภาพที่ 3: ลานน้ำแข็งแบบถอดประกอบ-ย้ายที่ได้ ใกล้คอสตา บราวา สเปน
.
.
.
กฎหมายสหรัฐฯ บังคับให้ศูนย์ฝึกกีฬา หรือสโมสรฟิตเนส (ออกกำลัง) มีเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจไว้เผื่อมีเหตุการณ์หัวใจหยุดเต้น (cardiac arrest)
.
ข้อดีพิเศษของเจ้าเครื่องนี้ คือ อัตโนมัติ (เกือบ) หมด
.
เพียงทาเจล วางแผ่นสัมผัสไปที่หน้าอกให้ถูกตำแหน่ง (มีรูปประกอบพร้อม), เปิดเครื่อง... เครื่องมันจะทำการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ วิเคราะห์เจาะลึก วินิจฉัยโรคแบบไฮเทค แล้วสั่งให้เราทำตาม
.
.
ภาพที่ 4: เครื่องหมายแสดงที่ตั้งเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ หรือเครื่องช็อตไฟฟ้าหัวใจ
.
.
ภาพที่ 5: เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ (AED) มีภาพพร้อมคำอธิบายเป็นเสียงภาษาอังกฤษ, ปะแผ่นขั้วไฟฟ้า 2 แผ่นไว้ที่หน้าอกด้านบนทางขวา กับด้านล่างทางซ้ายดังภาพ
.
เครื่องจะสั่งให้เราทำตาม คือ ให้กดปุ่มช็อตไฟฟ้า ซึ่งต้องบอกคนรอบข้างไปถอยไป ไม่สัมผัสตัวคนไข้ก่อนกดปุ่มเสมอ
.
.
ภาพที่ 6: เครื่องแบบนี้มีขายออนไลน์ (1,075 ดอลลาร์สหรัฐฯ = 33,562 บาท; 11 สค.56)
.
.
ภาพที่ 7: ตู้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจสำหรับแก้หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ (AED) ที่ญี่ปุ่น
.
.
ภาพที่ 8: ภาพการฝึกปฏิบัติการกู้ชีพ ปั๊มพ์หัวใจ ใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ(รักษาหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ / AED)
.
การศึกษาก่อนหน้านี้พบว่า ปั๊มพ์หัวใจอย่างเดียว ไม่เป่าปากผายปอด ก็ช่วยคนรอดมาแล้วหลายราย
.
ปัญหาตอนนี้ คือ เจ้าเครื่องช็อตแก้หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ (AED) ที่ว่านี้พูดภาษาไทยไม่เป็น
.
มันจะสั่งให้เราช็อต หรือกระตุ้นหัวใจให้เต้นอย่างเป็นระบบด้วยไฟฟ้าเป็นภาษาอังกฤษ
.
สารคดีต่างประเทศเล่าว่า เวลามีการแข่งขันกีฬาใหญ่ๆ จะมีการเตรียมความพร้อมหลายอย่าง
.
อย่างหนึ่ง คือ เตรียมเจ้าเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ
อีกอย่าง คือ เตรียมนักแม่นปืน หรือสไนเปอร์ไว้ เผื่อมีการก่อการร้าย หรือมีคนคลุ้มคลั่งที่พกพาอาวุธเข้าไปยิงกราด
.
ท่านว่า ถ้าไปงานใหญ่ๆ ในเมืองนอก... ห้ามพกปืนของเล่นไป แล้วทำซ่า เพราะอาจตายฟรีได้
.
การศึกษาใหม่พบว่า เหตุการณ์หัวใจหยุดเต้นพบนอกโรงยิมมากกว่า
.
ที่พบบ่อย คือ สนามเทนนิสในร่ม ลานสเก๊ตน้ำแข็ง สนามโบว์ลิง
.
.
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) รายงานว่า คนอเมริกัน 316.43 ล้านคน พบหัวใจหยุดเต้น 300,000 ราย/ปี = 1,055 คน พบหัวใจหยุดเต้น 1 คนใน 1 ปี
.
ถ้าช็อตหัวใจช้า คือ ส่วนใหญ่ไปช็อตไฟฟ้าที่โรงพยาบาล = โอกาสรอด = 10%
.
ถ้ามีเครื่องกระตุ้นอัตโนมัติใกล้ตัว และช็อตไฟฟ้าทันที (ตามที่มันสั่ง) = โอกาสรอด = 1/3 (33%)
.
สถาบันเวชศาสตร์การกีฬาอเมริกา และสมาคมโรคหัวใจอเมริกา รายงานว่า กลุ่มคนที่เสี่ยงหัวใจหยุดเต้นมากเป็นพิเศษได้แก่
.
(1). คนที่นั่งๆ นอนๆ ทั้งวัน
.
(2). คนที่ไม่ออกแรง-ออกกำลังเป็นประจำ
.
(3). ออกแรง หรือออกกำลังหนัก หักโหมทันที
.
.
ถ้าเป็นฝรั่ง หรือชาวตะวันตก มักจะพบมากในฤดูหนาว เช่น หิมะตก แล้วออกไปใช้พลั่วตักหิมะหน้าบ้าน ฯลฯ
.
การศึกษาใหม่พบว่า โอกาสพบคนไข้หัวใจหยุดเต้นในสถานที่ต่างๆ มีไม่เท่ากัน คือ 1 รายทุกๆ ระยะเวลาดังนี้
.
(1). สโมสรฟิตเนส หรือโรงยิม > 1 รายใน 42 ปี
.
(2). สนามเทนนิส > 1 รายใน 11 ปี
.
(3). สเก๊ตน้ำแข็ง > 1 รายใน 13 ปี
.
(4). สนามโบว์ลิง > 1 รายใน 27 ปี
.
.
คนที่หัวใจหยุดเต้นในสโมสรฟิตเนส หรือโรงยิมที่ได้มาตรฐานในสหรัฐฯ คือ มีการฝึกอบรม ซ้อม และสอบปฏิบัติการกู้ชีพ (CPR) ทุกปี, มีเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (AED) พร้อม มีโอกาสรอด = 83%
.
ถ้าหัวใจหยุดเต้นที่สโมสรที่ไม่พร้อม มีโอกาสรอด = 25%
.
ถ้าใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจช้า รอจนไปโรงพยาบาล มีโอกาสรอด = 10%
.
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้โอกาสรอดไม่เท่ากัน คือ "เวลา" (ยิ่งกู้ชีพหรือ CPR เร็ว ยิ่งเพิ่มโอกาสรอด)