หน้าแรก
สมาชิก
ใบบุญ
สมุด
ผู้สูงอายุ
อาหารของผู้ป่วยที...
ใบบุญ
นางสาว บุญ ชฎาศิลป์
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
อาหารของผู้ป่วยที่ต้องให้อาหารทางสาย
เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แม่เข้าโรงพยาบาลและ แม่เป็นผู้ป่วยที่ต้องให้อาหารทางสาย โดยจะต่อสายเข้าไปทางจมูก มีเทปติดไว้ที่จมูก สายนี้ยาวไปถึงกระเพาะอาหาร
แม่จะจำไม่ค่อยได้ว่าต้องให้อาหารทางสายยาง จึงถามหาว่าแม่ยังไม่ได้กินข้าวอยู่บ่อยๆ และถามหาอาหารที่ชอบรับประทาน เช่น ข้าวหอมมะลิ กาแฟเย็น
ตามที่ไปเรียนรู้จากนักโภชนาการที่งานโภชนาการของโรงพยาบาลศรีนครินทร์ เค้าจะถามรายละเอียด และคำนวณเป็นสูตรออกมาว่าผู้ป่วยต้องได้รับอาหารสูตรไหน ปริมาณเท่าไร
ท่านกรุณาให้ความรู้มาว่า อาหารที่ให้ทางสายมี 2 ชนิด คือ
1 อาหารทางการแพทย์และ
2 อาหารที่เจ้าหน้าที่ในงานโภชนาการหรือเราประกอบขึ้นมา โดยปั่นและแบ่งใส่ภาชนะตามปริมาณที่ผู้ป่วยแต่ละท่านต้องได้รับในแต่ละมื้อ
วันที่ไปพบนักโภชนาการ เค้าจะจดสูตรและบอกวิธีการปรุงและเก็บอาหารให้เราทราบ
เมื่อแม่ออกจากโรงพยาบาล
ทางโรงพยาบาลให้อาหารมาจำนวน 4 ขวด เป็นของเหลวสีครีมๆ เป็นอาหารทางการแพทย์ โดยพยาบาลบอกว่าต้องให้อาหาร วันละ 4 มื้อ คือ
มื้อเช้า 6.00 น
มื้อเที่ยง เวลา 12.00 น.
มื้อเย็น เวลา 18.00 น.
มื้อดึก เวลา 24.00 น.
หมายความว่าต้องให้อาหารกลางดึกด้วย
หัวหน้าพยาบาลกรุณาบอกว่ามื้อดึกเวลา 22.00 น. ก็ได้
ผู้เขียนคิดเอาเองว่าคงต้องไปปรับเวลานิดหน่อยเองละมัง
อาหารที่เป็นขวดต้องแช่ตู้เย็น ประมาณ 5 องศาเซลเซียส
เมื่อแม่ออกจากโรงพยาบาลมาอยู่บ้าน ผู้เขียนต้องให้อาหารทางสายตามที่ได้รับการสอนวิธีการให้
อาหารจากถุง ถุงดังกล่าวจะคล้ายกระเพาะมีสายต่อยาวและต้องต่อเข้ากับสายที่เข้าทางจมูกของผู้ป่วย มีที่สำหรับปรับการหยดของอาหาร เจ้าหน้าที่ที่โรงพยาบาลสอนว่า
- จะต้องไม่ให้หยดเร็วเกินไป เพราะอาจจะทำให้ผู้ป่วยสำลักได้
- ก่อนให้อาหาร ให้พับสายยางด้านที่จะต้องสอดใส่กับถุง ก่อนเอาไซริ่งสำหรับให้อาหารสอดเข้าไป การพับเพื่อไม่ให้ลมเข้าท้องผู้ป่วย
- คลำดูที่บริเวณท้องด้านซ้ายของผู้ป่วย แล้วดูดและผ่อนไซริ้ง และลองฟังดูว่ามีเสียงคล้ายลมออกไหม ถ้ามี แสดงว่า สายอยู่ที่กระเพราะ จึงจะพร้อมที่จะให้อาหารได้ การทำเช่นนี้ เพื่อแน่ใจว่าปลายสายอยู่ในกระเพราะ ไม่ได้หลุดออกจากกระเพราะ ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยสำลักได้
- หลังจากนั้นจึงเริ่มให้อาหารที่เตรียมใส่ในถุงได้
- เมื่ออาหารหมดแล้ว ต้องบดยาและให้ยาทางสายยาง
- ต้องทำความสะอาด คือ ล้างถุงใส่อาหารและผึ่งแดดไว้เพื่อฆ่าเชื้อโรค และต้มน้ำร้อนเพื่อลวกไซริ้งสำหรับให้อาหาร
ปรากฎว่าช่วงแรกๆที่ลงมือทำจริงนั้น จะยังไม่ค่อยมั่นใจ แต่ก็พอจะทำไปเรื่อยๆก็ผ่านไปได้ดีพอสมควร
หลังจากนั้น เมื่ออาหารที่ได้จากโรงพยาบาลรอบแรกหมดลง ผู้เขียนต้องไปโรงพยาบาลเพื่อซื้ออาหารของผู้ป่วยที่ต้องให้อาหารทางสายและรับอาหารที่งานโภชนาการ ในครั้งแรกที่ไปรับอาหารจากงานโภชนาการนั้น นักโภชนาการกรุณารีบจัดอาหารให้ เพราะทราบว่าอาหารที่ได้รับไปก่อนหน้านี้หมดแล้ว เมื่อได้รับอาหารเป็นขวด 4 ขวด ขวดอาหารยังอุ่นๆ จึงได้ถามนักโภชนาการว่าต้องอุ่นด้วยเหรอ เค้าตอบว่าใช่
ผู้เขียนอุทานออกมาอย่างตกใจ ว่า ต๊ายตาย ไม่รู้เลยว่าต้องอุ่น ผู้เขียนบอกเค้าว่าที่ให้อาหารแม่ไป ไม่ได้อุ่นเลย เค้ารีบถามว่าแล้วแม่เป็นอะไรไหม
โชคดีนะเนี่ยที่แม่ไม่ท้องเสีย
ครั้งนั้น ผู้เขียนเพิ่งทราบว่าเค้าต้องอุ่นอาหารก่อนให้ผู้ป่วยด้วย เอ แล้ววิธีการอุ่นที่เราทำมันถูกไหมเนี่ย วิธีที่ทำการอุ่น คือ เอาน้ำอุ่นหรือร้อนหล่อนอกขวดอาหาร ให้อาหารอุ่น
เรื่องเหล่านี้ ล้วนเป็นเรื่องให้เรียนรู้หลากหลายเรื่องในการดูแลผู้ป่วยค่ะ
เขียนใน
GotoKnow
โดย
ใบบุญ
ใน
ผู้สูงอายุ
คำสำคัญ (Tags):
#การให้อาหารทางสาย
หมายเลขบันทึก: 545152
เขียนเมื่อ 10 สิงหาคม 2013 15:33 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 26 ธันวาคม 2013 08:02 น. (
)
สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
ใบบุญ
สมุด
ผู้สูงอายุ
อาหารของผู้ป่วยที...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท