ปกติเวลาเดินทางไปทำงานก็จะขับรถส่วนตัวไปทำงาน บางวันเบื่อขับรถก็จะเดินทางไปทำงานโดยการนั่งรถสองแถวประจำทาง ...วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่นั่งรถสองแถวไปทำงาน ...
ถึงเวลาเลิกงานก็นั่งรถสองแถวกลับบ้าน วันนั้นคนไม่ค่อยแน่นได้นั่งแบบสบายๆ...
ด้านตรงข้ามผู้เขียนมี นักศึกษาชายสถาบันแห่งหนึ่งของจังหวัดขอนแก่น นั่งมาด้วยกันสามคนแต่ละคนมีของกินติดมือขึ้นรถมาด้วยคุยกันเสียงดัง...เฮฮาตามประสาวัยรุ่น
รถสองแถววันนี้คนขับอารมณ์ดีมากเลยขับรถแบบรับลมชมวิวข้างทาง ... คนซ้ายมือควักขนมกรุบกรอบ
มาทาน คนขวาสุดมีผลไม้ (ลองกอง) พอทานขนมกรุบกรอบหมดก็ทิ้งถุงขนมลงพื้นรถ ลมก็พัดปลิวลงจากรถไปแบบเป็นเรื่องธรรมดาที่ปฎิบัติมาเป็นประจำ... เราก็ได้แต่มองแล้วก็คิดในใจว่า อ้าวทำไมทำงั้นหละ จะด้วยสายตาของเราดุหรืออย่างไรไม่ทราบได้ ทำให้เด็กคนที่ทิ้งถุงขนมหันมาสบตาเราแล้วก็หลบตาหันไปทานลองกองกับเพื่อนต่อ แต่การทานลองกอง พอแกะทานเม็ด เปลือกก็ทิ้งลงบนพื้นรถ ติดตรงที่ว่าเปลือกลองกองมันไม่ปลิวไปตามลม มันยังอยู่บนพื้นรถอยู่อย่างนั้น... เด็กๆแกะเปลือกลองกองลงบนพื้นเมื่อไหร่...ผู้เขียนก็มองตามแล้วก็กลับมามองหน้าคนทิ้งแต่มองแบบยิ้มๆ อยู่อย่างนั้นจนลองกองเริ่มพร่องลงเรื่อยๆ แต่ผู้เขียน ก็ไม่ละความพยายาม จนในที่สุดคนที่นั่งอยู่ตรงกลางใช้ศอกกระทุ้งเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆทั้งสองคน ให้หันมามองผู้เขียน ผู้เขียนก็ยิ้มให้พร้อมกับทิ้งสายตาลงไปที่เปลือกลองกองที่อยู่บนพื้นรถ... เด็กๆทั้งสามคนก็ยิ้มตอบแบบเจื่อนๆ เด็กที่ถือถุงลองกองที่ทานยังไม่หมดประมาณ 3-4 ลูก เขาเก็บลูกที่ยังไม่ทานออกจากถุงพลาสติก ให้เพื่อนคนที่นั่งตรงกลางถือไว้ แล้วเขาก็ก้มลงเก็บเปลือกลองกองที่ทิ้งลงบนพื้นรถโดยมีเพื่อนอีกสองคนช่วยกันเก็บเปลือกลองกองทั้งหมดใส่ในถุงพลาสติก แล้วก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มกับเรา ตอนนี้เรายิ้มตอบในขณะที่ในใจพูดว่า..ว่าน่ารักมากลูกได้ยินเด็กคนที่นั่งอยู่ตรงกลางคุยกับเพื่อนแบบกระซิบแต่เราก็อุตส่าห์ได้ยิน (ก็แหมห่างกันแค่นี้เอง) มึงว่าเป็นครูไหม...อีกคนตอบว่า..."กูว่าครูแน่ๆเลย มีครูเท่านั้นหละที่มองแบบนี้"...ผู้เขียนได้ยินแต่ไม่ตอบเขาหรอกค่ะ..ให้เขาคิดวิเคราะห์ไป (จะได้ฝึกการคิดวิเคราะห์ไงคะ) พอลองกองหมด คนที่นั่งตรงกลางก็ควักลูกอมจากกระเป๋าเสื้อ มาแบ่งให้เพื่อนคนละเม็ด คนซ้ายมือแกะลูกอมทานก่อนเพื่อน พอแกะลูกอมเข้าปาก กำลังจะทิ้งกระดาษห่อลูกอม คนที่อยู่ตรงกลางตะปบมือไว้ทันแล้วก็เอากระดาษห่อลูกอม ทิ้งลงในกระเป๋าเสื้อของคนที่กำลังจะทิ้ง แล้วทั้งสามคนก็หันมามองเราพร้อมกัน เราก็ส่งยิ้มพร้อมกับชูหัวแม่มือให้ ทั้งสามคนเลยหัวเราะขึ้นพร้อมกัน...เป็นเสียงหัวเราะที่ฟังแล้วไพเราะจับใจ พอถึงจุดหมายเด็กทั้งสามคนก็กดออด ...โดยไม่คาดคิด...ก่อนลงจากรถ เด็กทั้งสามยกมือไหว้ผู้เขียน ผู้เขียนรับไหว้โดยการยกมือไหว้ตอบ แล้วเด็กๆทั้งสามก็เดินลงจากรถสองแถวไปโดยไม่ลืมถือถุงเปลือกลองกองลงไปด้วย....ส่วนเรา...นั่งยิ้ม ก่อนรถจะเคลื่อนออกเด็กๆยังก้มหัวให้ผู้เขียนพร้อมกับรอยยิ้มของคนที่เป็นมิตร...นึกถึงเรื่องนี้ทีไรก็นั่งยิ้ม นึกขำตรงที่เด็กๆกระซิบถามกันว่า "มึงว่าเป็นครูไหม..." ขอบคุณวันนั้นที่ได้นั่งรถสองแถวเที่ยวนั้น ขอบคุณโชว์เฟอร์ที่ขับรถแบบที่เรียกว่าหวานเย็น...ขอบคุณความเป็นครูของตนเอง....
เราเป็นมิตรกันโดยที่ไม่ต้องพูดกันแม้แต่คำเดียว...
ชอบมากครับ...น้าอิศก็เคยเจอ...แต่เป็นลุงบนรถไฟทานอาหารเสร็จแล้วโยนถุงออกหน้าต่างน้าอิศนั่งหันหน้าตรงข้ามกะลุงก็มองแกทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่เมียแกทนโดนมองไม่ใหวแกดุลุงว่าไม่ให้ทิ้ง...
เป็นครูสังเกตง่ายนะครับ
ขอบคุณเรื่องดีๆครับ