จากกรณีศึกษาที่กระผมได้มีโอกาสได้ให้การรักษาทางกิจกรรมบำบัดในเด็กทารกคลอดก่อนกำหนดในการกระตุ้นการดูดกลืน และในคาบเรียนผมมีโอกาสได้เรียนรู้การให้เหตุผลทางคลินนิกแบบมีผู้รับบริการเป็นศุนย์กลาง (Client Centered Clinical Reasoning) ซึงจากกรณีศึกษาข้างต้น สามารถเขียนเหตุผลทางคลินิกแบบผู้รับบริการเป็นศูนย์กลางได้ดังนี้
ABCD
FEASTมารดาของเด็กสามารถรับรู้ได้ว่า นักกิจกรรมบำบัด มีบทบาทในการกระตุ้นกลืนในเด็ก ส่งผลให้เด็กสามารถดูดกลืนได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้นักกิจกรรมบำบัด ยังมีบทบาทในการกระตุ้นพัฒนาการเด็กให้สมวัยได้อีกด้วย สำหรับกรณีศึกษานี้ยังมีสิ่งที่พบว่าเป็นปัญหาสำหรับผู้ปกครองอยู่ ได้แก่ ความเชื่อที่ไม่ถูกต้องของผู้ปกครองที่มีความเชื่อว่า การอาบน้ำให้เด็กบ่อยๆนั้นจะทำให้เด็กเติบโตได้เร็วขึ้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การเจริญเติบโตของเด็กนั้นขึ้นอยู่กับสารอาหารที่เด็กได้รับในแต่ละวัน นอกจากนี้ แม่ของเด็กยังไม่ค่อยมีความมั่นใจขณะอุ้ม่เด็ก เนื่องจากเป็นลูกคนแรก เนื่องจากเด็กคลอดก่อนกำหนดและมีภาวะขาดสารอาหารร่วมด้วย จึงต้องมีการให้อาหารทางสายยาง เพราะเด็กดูดนมได้น้อย ส่งผลให้มีร่างกายที่ค่อนข้างเล็ก มีระดับพัฒนาการที่ล่าช้ากว่าเด็กปกติ ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องได้รับการรักษาทางกิจกรรมบำบัดในการกระตุ้นการดูดกลืน และกระตุ้นพัมนาการอย่างต่อเนื่อง
เด็กจำเป็นต้องได้รับการกระตุ้นการดูดกลืน และกระตุ้นพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ปกครองมีความคาดหวังไว้ว่า อยากใหเด็กสามารถดูดนมได้มากขึ้น เพื่อจะได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อการนำไปใช่ของร่างกายและมีพัฒนาการที่สมวัย ซึ่งในปัจจุบันความสามารถของเด็กที่มี คือ สามารถดูดนมได้ในปริมาณน้อย และเด็กอายุ 3 เดือน แต่ยังไม่สามารถชันคอได้ ดังนั้นการกระตุ้นการดูดกลืนจึงควรกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ และการกระตุ้นพัฒนาการ ควรทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เด็กมีพัฒนาการที่สมวัยมากยิ่งขึ้น
ไม่มีความเห็น