วันนี้ในคาบเรียน Clinical Reasoning ดิฉันได้มีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับการบันทึกการรักษาทางกิจกรรมบำบัดแบบใหม่ ภายใต้การให้เหตุผลทางคลินิกแบบมีผู้รับบริการเป็นศูนย์กลาง (Client centered Clinical Reasoning) สามารถสรุปข้อมูลของผู้รับบริการและบันทึกได้ 2 รูปแบบ ดังนี้
กรณีศึกษา: ผู้รับบริการชื่อ นาย W (นามสมมติ) อายุ 47 ปี วินิจฉัยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง
1. การบันทึกแบบ ABCD
A = Audience คือข้อมูลที่ผู้รับบริการได้รับจากผู้บำบัด สำหรับคุณW นั้น ได้รับข้อมูลจากผู้บำบัดในสามเรื่อง ประกอบด้วย
- รับรู้เกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของนักกิจกรรมบำบัด ว่าจะมาฟื้นฟูกิจกรรมการดำเนินชีวิตในด้านการทำกิจวัตรประจำวันและการทำงาน โดยมีกิจกรรมที่มีเป้าหมายเป็นสื่อในการรักษา เช่น กิจกรรมเช็ดโต๊ะ กิจกรรมหมุนนอต เป็นต้น
- รับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสมอง ลำดับขั้นของการดำเนินไปของโรค
- รับรู้ผลการประเมินทั้งการประเมินแรกรับ และการประเมินเพื่อดูความก้าวหน้าในการรักษา มีการรายงานผลให้ผู้รับบริการทราบอย่างสม่ำเสมอ
B = Behavior พฤติกรรมของผู้รับบริการที่เป็นอุปสรรคต่อการทำกิจกรรมการดำเนินชีวิต ประกอบด้วย 2 ด้าน คือ
- พฤติกรรมทางกาย คือผู้รับบริการมักจะรีบทำกิจกรรม จนทำให้ไม่ตรงตามเป้าหมายของการรักษา เช่น กิจกรรมยืนใส่ peg ไม้ทรงกระบอก ต้องการให้ผู้รับบริการเหยียดศอกให้สุด แต่ผู้รับบริการจะรีบทำให้เสร็จ และใช้การเอียงตัวทดแทนการเหยียดศอก ดิฉันแก้ปัญหานี้ด้วยการกำหนดจุดยืนของผู้รับบริการ และจัดให้ตะกร้าใส่ peg ไม้อยู่ไกลออกไป นอกจากนี้ควร feedback ขณะทำกิจกรรมเลย ให้เห็นถึงข้อดีและข้อเสียที่เกิดขึ้นในสถานการณ์นั้นๆ
- พฤติกรรมทางจิต คือผู้รับบริการจะมีความเชื่อที่ว่ายิ่งฝึกอย่างหนัก จะยิ่งหายเร็วขึ้น ผู้รับบริการจะฝึกหักโหมจนเกินไป ซึ่งในข้อนี้ผู้บำบัดได้มีการชี้แจ้งให้เห็นถึงข้อเสียแล้ว นั้นคือการฝึกหนักเกินไปอาจทำให้เหนื่อยมาก ความดันขึ้นสูง และทำให้เกร็งมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ควรเปลี่ยนความเชื่อของผู้รับบริการด้วยการให้ความรู้ที่ถูกต้อง
C = Condition คือภาวะหรือโรคของผู้รับบริการ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้รับบริการไม่สามารถทำงานได้ ประกอบด้วย
- Stroke Rt. Hemiplegia
- Limit ROM of Rt. arm
- Mild spastic of Rt. arm
- Fair sitting balance
- Poor of hand function
- อ่อนแรงข้างขวา แต่สามารถขยับมือได้เล็กน้อย
D = Degree หมายถึงระดับความรุนแรงของโรค ซึ่งผู้รับบริการอยู่ใน recovery stage หรือขั้นการฟื้นฟู ซึ่งเป็นขั้นสุดท้ายของการดำเนินโรคหลอดเลือดสมอง เริ่มเคลื่อนไหวแขนและมือแบบแยกข้อต่อได้เล็กน้อย
Measurable goal หรือเป้าหมายในการรักษาทางกิจกรรมบำบัด คือให้ผู้รับบริการสามารถกลับไปประกอบอาชีพเดิมได้
2. การบันทึกแบบ FEAST
F = Function/ Occupational area คือกิจกรรมการดำเนินชีวิตด้านใดที่เป็นปัญหา สำหรับคุณW นั้นมีปัญหา 3 ด้าน ได้แก่
- Activity of Daily Living ไม่สามารถทำกิจกรรมการดูแลตนเอง เช่น อาบน้ำ แต่งตัว ทานอาหาร การเคลื่อนย้ายตัว เป็นต้น
- Work ไม่สามารถทำงานค้าขายร้ายของชำได้เหมือนเดิม
- Leisure ไม่สามารถตีแบดมินตันที่เป็นกิจกรรมโปรดได้
E = Expectation สิ่งที่ผู้บำบัดคาดหวังให้เกิด เป็นผลจากการรักษาทางกิจกรรมบำบัด คือคาดหวังให้ผู้รับบริการสามารถกลับไปประกอบอาชีพเดิมได้
A = Action หรือความสามารถของผู้รับบริการในการทำกิจกรรมการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน
- Activity of Daily Living: Independent with supervision
- Work: Dependent
- Leisure: Dependent
S = Specific condition ปัญหาสำคัญที่มีในผู้รับบริการรายนี้ คือ Mild spastic of Rt. Arm มีเกร็ง, Fair sitting balance ปัญหาด้านการทรงตัว, Poor of hand function อ่อนแรงข้างขวา แต่สามารถขยับมือได้เล็กน้อย
T = Time line คือขอบเขตเวลาที่วางแผนไว้สำหรับการฟื้นฟู ในรายนี้คือให้ผู้รับบริการสามารถกลับไปประกอบอาชีพเดิมได้ใน 3 เดือน
จะสังเกตได้ว่าการบันทึกแต่ละแบบจะแตกต่างกัน แต่ยังคงให้ความสำคัญกับการให้ผู้รับบริการเป็นศูนย์กลาง นอกจากนี้ควรมีการประเมินทักษะการทำงาน เพื่อให้ทราบความสามารถและรู้ถึงแนวโน้มของการกลับไปทำงานของคุณW ซึ่งเป็นประโยชน์ในการวางแผนและให้การรักษาทางกิจกรรมบำบัด.
ไม่มีความเห็น