ประสบการณ์พัฒนาทักษะการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพของข้าพเจ้า


           


                      สิ่งที่เรียน: Mind Map


วิธีเรียน: ข้าพเจ้าได้ใช้Mind Mapในการจดบันทึก เมื่อตอนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 แรงบันดาลใจที่ทำให้ข้าพเจ้าสนใจ Mind Map ก็คือประโยชน์ของการใช้ Mind Map ในกานบันทึกที่มีมากกว่าการบันทึกเชิงเส้นแบบทั่วๆไปอย่างเห็นได้ชัดเจน สิ่งนี้จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ข้าพเจ้าอยากที่จะเรียนรู้และฝึกเขียน Mind Map ในทุกๆวันโดยข้าพเจ้าได้นำการจดบันทึกแบบ Mind Map มาใช้ในการจดบันทึกหลากหลายรูปแบบ ทั้งการจด lecture, จดสรุปบทเรียน, บันทึกชีวิตประจำวัน, กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และการตัดสินใจ

  โทนี บูซาน ผู้คิดค้น Mind Map ได้กล่าวไว้ถึงข้อเสียของการจดบันทึกเชิงเส้นทั่วๆไป และข้อดีของการจดบันทึกแบบ Mind Map โดยสรุปได้ดังนี้

          ข้อเสียของการจดบันทึกเชิงเส้นทั่วๆไป

            1.ไม่ตรงประเด็น มีทั้งใจความ และ พลความ ปะปนกัน ทำให้ต้องเสียเวลาจับใจความ

            2.จำยาก ใช้สีเดียวจำเจ เขียนติดกันเป็นพืดดูหน้าเบื่อ

            3.เสียเวลา ทั้งการบันทึก การอ่าน และการจับประเด็นหลัก

            4.ปิดกั้นการเชื่อมโยงข้อมูลของสมอง

        ข้อดีของการจดบันทึกแบบ Mind Map

           1.เขียนเฉพาะคำ keywords และมีเส้นเชื่อมโยง จึงตรงประเด็น มีความเชื่อมโยง และช่วยประหยัดเวลาในการเขียนและการอ่าน

           2.มีการใช้สีสันและภาพ เป็นการใช้สมองทั้ง 2 ข้าง ทำให้การจดจำของสมองมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

           3.กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์

           4.ทำให้สมองเห็นภาพรวมทั้งหมดของการเรียนรู้อยู่ในการดาษแผ่นเดียว ซึ่งตรงกับหลักการเรียนรู้ของสมองที่ชอบมองภาพรวมก่อนแล้วจึงค่อยเจาะลึกเนื้อหา


ผลจากการเรียนรู้: Mind Mapทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกสนุกกับการอ่านหนังสือ และทำให้ข้าพเจ้าไม่รู้สึกเบื่อที่จะต้องทบทวนบทเรียน เพราะว่ามันคือผลงานที่มีสีสันแสนสวยของข้าพเจ้าเอง เรียกได้ว่าทบทวนไปด้วยยิ้มชมผลงานตนเองไปด้วยเลยทีเดียว และข้าพเจ้ารู้สึกว่าการใช้ Mind Map ช่วยให้จำง่ายขึ้นจริงๆ ส่วนตัวชี้วัดผลการเรียนรู้ที่ชัดเจนเลยก็คือ ตั้งแต่ข้าพเจ้าเริ่มใช้ Mind Map ตอน ม. 5 ทำให้เกรดเฉลี่ย ตอน ม.5-ม.6 ดีขึ้นกว่า ตอน ม.3-ม.4  เยอะเลย


ข้อคิดที่ได้จากประสบการณ์: อย่ากลัวที่จะลองทำในสิ่งใหม่ๆ เพราะบางครั้งสิ่งใหม่ที่เราไม่กล้าทำอาจจะดีกว่าสิ่งเก่าที่เราทำจนชำนาญแล้วก็ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างฝึกฝนกันได้เสมอ


เอกสารอ้างอิง:

-บูซาน,โทนี.คัมภีร์ Mind MapBook _ _กรุงเทพฯ:ขวัญข้าว ’94,2551.360หน้า

-http://www.mindmap.in.th/

-http://www.youtube.com/watch?v=mRFn1U3jvCw

-http://www.youtube.com/watch?v=wD0YaRu8EsE

-http://www.mindmapper.com/down/Gallery.asp


ภาคผนวก

  

  

 


วัน-เดือน-ปี ที่บันทึก: 21 กรกฎาคม 2556

นาย วิชัย ไพรลือชา 563070237-9


หมายเลขบันทึก: 543123เขียนเมื่อ 21 กรกฎาคม 2013 16:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 กรกฎาคม 2013 16:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)

ทำมายแมพได่้เจ๋งมาก ว้าวว้าว เลคเชอร์เป็นมายแมพด้วยเหรอ ว้าวว้าว

คนอะไรเทพจังเลย!

mind map สวยมากค่ะ น่าอ่านสุดๆ เลิศเลอออ

mide mapping สวยมากกกกก อยากทำได้บ้างจัง

เป็นวิธีที่ช่วยให้จำง่ายขึ้นจริงๆ ดีมากๆเลย ฝึกนิสัยให้มีระบบด้วย :)

นี่แหละครับ mind map ของแท้ ตามแบบฉบับโทนี่ ปูซาน!!!

Mind Map เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยในการจำ ผมใช้มันค่อนข้างบ่อย

เเต่ทำสวยใากเลยครับ ชอบๆ :)

สุดยอดมากกกก น่าอ่านมากจ้ะ :)

ผมเคยเห็นคุณเจ lecture เป็น mindmap แล้ว เจ๋งมากๆ เลยครับ ทำแล้วน่าอ่านมาก :D

มายแมพอลังการได้อีก เจ๋งๆๆ น่าอ่านมากๆ

เป็นมายแมพที่อลังการมาก น่าอ่านขึ้นมาทันตาเห็นเลยทีเดียว

mind map สวยมากๆเลยค่า ได้ความรู้ไปเต็มๆอีกด้วย

ทำสวยมาก ๆ ขอบคุณที่แบ่งปันนะคะ

เทคนิคการเรียน เป็นระบบดีมากๆเลยครับ A ทุกวิชาชัว

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท