ประสบการณ์การพัฒนาทักษะการเรียนรู้อย่งมีประสิทธิภาพของข้าพเจ้า

ภาษาเป็นศาสตร์ที่สำคัญต่อการดำเนินชีวิตในยุคสมัยนี้ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ซึ่งถือว่าเป็นภาษาสากลของโลก แต่เด็กไทยหลายๆคนมีปัญหาในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษเนื่องด้วยหลายๆสาเหตุ เช่น รู้สึกว่ามันยาก จำศัพท์ไม่ได้ จำไวยากรณ์ไม่ได้

แต่ผมมีเทคนิคง่ายๆที่ช่วยให้เก่งภาษาอังกฤษขึ้น โดยการดูหนังหรือฟังเพลงภาษาอังกฤษที่ตนเองชอบ เพราะการเรียนรู้ภาษาตามปกติของมนุษย์คือ การใช้จริงในชีวิตประจำวัน เมื่อใช้ไปนานๆ เราก็จะสามารถใช้ภาษาได้อย่างคล่องแคล่ว ผมจึงเลือกการดูหนังและฟังเพลงมาใช้เป็นเทคนิค เพราะนอกจากจะได้ใช้จริงแล้ว ยังเป็นการคลายเครียดรูปแบบหนึ่งอีกด้วย ทำให้การเรียนรู้ภาษาอังกฤษไม่น่าเบื่ออีกต่อไป โดยมีวิธีการดังนี้

1.ถ้าเป็นหนัง ให้ดูเป็นพากย์ไทยให้จบก่อนหนึ่งรอบ หลังจากนั้นให้ดูเป็นภาษาอังกฤษ - เพราะเมื่อดูเป็นภาษาอังกฤษ จะทำให้เราสามารถแปลประโยคได้คร่าวๆ เนื่องจากเคยดูเป็นภาษาไทยมาแล้ว และถ้าหากผู้เรียนยังไม่เก่งภาษาอังกฤษ หากดูเป็นภาษาอังกฤษเลย อาจทำให้ไม่เข้าใจ และเบื่อหน่ายต่อการดูหนัง

2. หาความหมายของคำศัพท์/แปลประโยคในเพลงหรือหนัง - วิธีนี้จะทำให้เรารู้จักกับคำศัพท์ สำนวนและไวยากรณ์

3. ลองแต่งประโยคเลียนแบบ - เนื่องจากการเรียนรู้ภาษาที่มีประสิทธิภาพคือการที่ต้องใช้จริง เราจึงต้องนำสิ่งที่ได้เรียนรู้มาปรับใช้

4.สังเกตการออกเสียงของคำต่างๆว่าเป็นอย่างไร มี stress ตรงไหน - เป็นการเรียนรู้การออกเสียง

ผลการเรียนรู้

ผมได้ใช้เทคนิคการฝึกภาษาอังกฤษนี้เป็นระยะเวลาประมาณ 3 ปี และได้ทดสอบความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ ซึ่งได้ทดสอบด้านการอ่าน เขียน และฟัง ได้ผลคะแนนอยู่ที่ช่วง 8-8.99 คะแนน ซึ่งเป็นจำนวน 0.35% จากผู้เข้าทดสอบทั้งหมด 5181 คน

ข้อคิดที่ได้จากประสบการณ์

ผมพบว่า การที่เรามีความสุขในการเรียนรู้เรื่องต่างๆ ทำให้เราสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่รู้สึกฝืนตัวเอง และสามารถสนุกไปกับมัน

ภาคผนวก

ผลการทดสอบภาษาอังกฤษของ TYES

วัน/เดือน/ปี ที่บันทึก - 20 กรกฏาคม พ.ศ. 2556

จัดทำโดย นายกิตติภัทท์ วรวสุวัส 563070007-6

เขียนใน GotoKnow โดย กิตติภัทท์ วรวสุวัส
ใน เทคนิคการเรียนภาษาอังกฤษ

คำสำคัญ (Tags): #เทคนิคการเรียน#ภาษาอังกฤษ#ฟังเพลง#ดูหนัง

หมายเลขบันทึก: 542916เขียนเมื่อ 20 กรกฎาคม 2013 13:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 กรกฎาคม 2013 10:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่าน