KM00141 : คิดไปเรื่อย 32 "บุญ"


เหตุเพราะเคยมีคนที่อ้างว่าตายแล้วฟื้นเล่าว่า "เมื่อตายไปแล้ว ก็ได้กินอาหารที่ตัวเองได้ทำบุญใส่บาตรไป" หรือ "ไม่มีน้ำกินเลย เพราะไม่เคยทำบุญใส่บาตรด้วยน้ำ" ยอมรับเลยว่าแนวคิดนี้มีอิทธิพลต่อความคิดเรื่องการ "ทำบุญทำทาน" ของคนในปัจจุบันมาก ทำให้หลายคนใช้วิธีคิดแบบ "มนุษย์" กับชีวิตหลังความตาย เช่น การใส่บาตรด้วยน้ำ เพราะคิดว่าเมื่อตายไปก็ต้องกินน้ำ ใส่บาตรด้วยอาหารที่ตัวเองชอบ เพราะตายไปจะได้กินอาหารแบบนั้น ในทางพุทธศาสนานั้นสอนเรื่องของการ "ทาน" เป็นเพียงแค่เรื่องของการ "ให้" และการ "ปล่อยว่าง" ดังนั้นวัตถุประสงค์ของ "ทาน" จึงเป็นเรื่องของ "จิต" เสียมากกว่า "จิต" ที่รู้จักปล่อยวางจึงจะทำให้ "ศีล สมาธิ และปัญญา" เกิดขึ้น ซึ่ง 3 อย่างหลังนี้ถือเป็นแก่นคำสอนของพุทธศาสนา เมื่อเราเข้าใจผิดเรื่อง "ทาน" จึงไม่แปลกใจที่เราจะเห็น การถวายรถหรู สร้างกุฎฏิราคาแพง บริจาคเงินให้พระหรือวัดจำนวนมาก หากถามว่าผิดหรือไม่ ก็ตอบได้ว่า "ไม่ผิด" แต่จะได้ "บุญ" ตามที่หวังไว้หรือไม่ ตอบได้ว่า "ไม่รู้" เพราะจิตขณะ "ให้" เป็นเช่นไร ไม่มีใครทราบได้ แต่เมื่อให้ไปแล้วหากเข้าใจได้ว่ามัน "ไม่ใช่ของเราแล้ว" ก็จบ ส่วนคนรับไปจะนำไปทำอย่างไรก็เป็นเรื่องของ "กรรม" ของแต่ละบุคคล สำหรับผมแล้วเรื่องที่มีคนเล่าว่าทำบุญอะไร ใสบาตรอะไร เมื่อตายไปก็จะได้กินหรือใช้ของแบบนั้น เป็นเพียงสิ่งที่สื่อให้เห็นแค่ว่า "คนเราเมื่อทำอะไรไว้ ก็ย่อมต้องได้รับผลของสิ่งที่ทำนั้นไว้" ครับ

คำสำคัญ (Tags): #บุญ
หมายเลขบันทึก: 541099เขียนเมื่อ 1 กรกฎาคม 2013 23:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 กรกฎาคม 2013 23:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท