เมื่อมือไม่มีแผลจับต้องยาพิษ ยาพิษนั้นก็ไม่สามารถทำอันตรายได้


มองเห็น "ใครสักคน" มีทุกข์ แต่คำเตือนสติยังไร้ผล
เมื่ือใจปิด พร้อมกับความเศร้าระทมใจกับตัวเอง


อยากยกข้อเขียนส่วนหนึ่งของ "พระอาิจารย์ไพศาล วิสาโล" ดังนี้


"... สติทำให้เห็นชัดว่าคนเราทุกข์เพราะใจโดยแท้ คนอื่นหรือสิ่งอื่นนั้นเป็นส่วนประกอบเท่านั้น คำพูดหรือการกระทำของคนอื่นที่ไม่ถูกใจเรานั้นเกิดขึ้นมาได้นานหลายวันแล้ว แต่เหตุใดเรายังแค้นเคืองอยู่ หากไม่ใช่เป็นเพราะใจยังหวนคิดถึงคำพูดและการกระทำนั้น ๆ เหตุร้ายบางอย่างยังไม่เกิดขึ้นด้วยซ้ำ แต่ทำไมเราจึงกังวลจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ หากไม่ใช่เป็นเพราะเราเอาแต่หมกหมุ่นครุ่นคิดถึงมัน

ความรู้สึกนึกคิดนั้นเป็นสิ่งที่ใจปรุงแต่งขึ้นมา แต่แล้วใจก็ไปยึดติดกับสิ่งปรุงแต่ง และทึกทักว่าเป็นเรื่องจริงเรื่องจัง สุดท้ายก็ทุกข์ไปกับสิ่งที่ปรุงแต่งขึ้นมาเอง หาไม่ก็ปล่อยให้มันครอบงำจิตใจ บงการให้โศกเศร้า ร่ำไห้ คร่ำครวญ กลัดกลุ้ม น้อยใจ ฯลฯ จนร่างกายผ่ายผอม สุขภาพย่ำแย่ หรือถึงคิดสั้นทำร้ายตนเอง

เป็นเพราะเราไม่รู้ทันความคิดของตัวเอง จึงถูกความคิดนั้นทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้กระนั้นก็ยังอดไม่ได้ที่จะโทษคนอื่นว่า เป็นตัวการทำให้เราทุกข์ พระพุทธองค์ตรัสว่า "เมื่อมือไม่มีแผลจับต้องยาพิษ ยาพิษนั้นก็ไม่สามารถทำอันตรายได้" ฉันใดก็คนอื่นย่อมไม่สามารถทำให้เราทุกขได้ หากใจเราเป็นปกติ ไม่ถูกกิเลสหรือความคิดปรุงแต่งครอบงำทำร้าย


สติช่วยให้เราเห็นและรู้ทันความคิดได้ไว

ทำให้มันไ่ม่สามารถครอบงำทำร้ายจิตใจได้


เหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้ว หรือสิ่งที่ยังมาไม่ถึง จะไม่สามารถทำให้เราเป็นทุกข์ได้ หากมีสติรู้ทันความอาลัยในอดีต หรือกังวลกับอนาคต สติช่วยพาใจให้มาอยู่กับปัจจุบัน และมีความสุขในแต่ละขณะและในทุกอิริยาบถ แม้มีสิ่งไม่พึงประสงค์มากระทบ ก็รู้ทันใจที่กระเพื่อมและพาใจกลับมาสู่ความปกติได้ ทำให้ใจสงบได้แม้รอบตัวจะอึกทึกพลุกพล่าน ใจเย็นได้แม้อากาศจะรุ่มร้อนอบอ้าว ..."


"... ความยึดมั่นสำคัญหมายใน "ตัวกู ของกู" นั้นเป็นรากเหง้าแห่งความทุกข์ ตราบใดที่ยังละวางความยึดมั่นดังกล่าวไม่ได้ ก็ยังทุกข์อยู่ร่ำไป ต่อเมื่อละวางความยึดมั่นในตัวกูของกูได้ จึงจะพ้นทุกข์อย่างแท้จริง แต่ถึงแม้จะไม่สามารถละวางความยึดมั่นดังกล่าวอย่างสิ้นเชิง แต่การมีสติอยู่เป็นนิจ ย่อมช่วยให้ความยึดมั่นดังกล่าวไม่สามารถครองใจได้ต่อเนื่องจนก่อความทุกข์ไม่หยุดหย่อน ..."



เช่นนั้นแล้ว ...

หากมี "สติ" ก็จะมี "ปัญญา"

เมื่อมี "ปัญญา" ดวงตาจะเห็นธรรมได้โดยง่าย

แล้วจะรู้ว่าสิ่งใดควรคิด สิ่งใดไม่ควรคิด

สิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ

สถานการณ์ทุกอย่างจะคลี่คลายโดยง่าย


หวังใจว่า เขาจะผ่านทางมาตรงนี้

หากบุญกุศลเขายังพอมีอยู่บ้าง


บุญรักษา คนในธรรมครับ ;)...


......................................................................................................................................................................

ขอบคุณหนังสือ ...

พระไพศาล วิสาโล.  อาตมาตั้งต้น ให้โยมตั้งตัว.  กรุงเทพฯ : พีอาร์, ๒๕๕๖.


หมายเลขบันทึก: 539890เขียนเมื่อ 19 มิถุนายน 2013 22:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2013 22:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

มันยากนะคะอาจารย์.. เวลามีเหตุ.. คิดไม่ทันซะที

คงต้องฝึกอีกนานนนน

เป็นกันโดยส่วนใหญ่ครับ kunrapee ;)...

อารมณ์มาก่อนเหตุผลเสมอ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท