ลักษณะนิสัยของคน "วิตกจริต" ... [ ๑ ] ... มองโลกในแง่ร้าย



วิตกจริต


ลักษณะนิสัยของคน "วิตกจริต"


ลักษณะพื้นฐาน คือ พูดไม่หยุด ประเภทน้ำไหลไฟดับ ชอบแสดงความคิดเห็น มีคำถามเยอะแยะไปหมด เพราะสมองเต็มไปด้วยความคิด ความฟุ้งซ่าน ความสับสนวุ่นวายอลหม่าน มีความคิดหลายอันซ้อนกันอยู่ แต่มักสรุปประเด็นสำคัญหรือจัดระบบความคิดไม่ได้ อย่างไรก็ตาม คนทั่วไปมักมองว่า คนที่เป็นวิตกจริตมีัปัญญาสูง เพราะเป็นคนที่สามารถคิดได้เร็ว พูดได้เร็ว และพูดมาก ประเด็นเต็มไปหมด ฟังเผิน ๆ แล้วน่าประำทับใจยิ่ง ถ้าไม่คิดหรือวิเคราะห์อะไรมาก


วิตกจริตไม่สามารถหยุดความคิดของตัวเองได้ และไม่สามารถเลือกได้ว่าจะคิดอะไรดีในเวลาไหนและคิดทำไม การคิดมักจะย้ำคิดในทางลบ มองโลกในแง่ร้าย จับผิดผู้อื่นอยู่เสมอ มักคิดว่าโลกชั่วร้าย คนอื่นจะพยายามเอารัดเอาเปรียบตัวเองอยู่เสมอ ไม่สามารถเชื่อใจหรือไว้ใจใครได้ ว่างจากคิดในแง่ร้ายก็คิดในทางลบ เช่น อิจฉาริษยา คิดแต่สิ่งที่ไ่ม่เป็นมงคล มีความกังวลเป็นอาจิณ และความคิดดังกล่าวจะผุดขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ เปรียบเสมือนน้ำพุที่พวยพุ่งออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน ผลคือ เป็นการย้ำคิดย้ำทำในทางลบ คนที่เป็นจริตอื่น ๆ อาจไม่เข้าใจว่าคิดไปทำไม แต่ผู้เป็นวิตกจริตไม่อาจหยุดความคิด เหมือนดั่งลอยอยู่ในน้ำทะเลโดนคลื่นซัดกระชากไปด้านซ้าย กระชากไปด้านขวา หรือโถมไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งและไร้ทิศทางจนสิ้นหวัง


ปกติหน้าตาจะบึ้ง ไ่ม่ค่อยยิ้ม ไร้ความรู้สึก แต่เมื่อมีอะไรมากระทบจิตใจ จะมีอารมณ์รุนแรงและุฉุนเฉียว คำพูดจะกระแทกกระทั้นและรุนแรงเพราะจิตอยู่ในความคิด เช่น เวลาวิพากษ์วิจารณ์คนมักใช้คำพูดรุนแรงอยู่เสมอ ซึ่งทำให้คนฟังชอกช้ำ เกิดกรรมเวรอย่างไม่จบสิ้น คนทั่วไปมักไม่ค่อยชอบหน้า และมักถูกทำร้ายทางกายวาจาและใจอยู่เสมอ เพราะทุกอย่างในโลกนี้เป็น action และ reaction ทำสิ่งใดย่อมได้รับสิ่งนั้นตอบสนอง ใช้คำพูดทิ่มแทงคน ดาบนั้นย่อมคืนสนอง จึงเป็นการตอกย้ำการมองโลกว่า ชั่วร้ายมากยิ่งขึ้น และจะเป็นคนร้อนรุ่ม เนื่องจากพูดมากคิดมาก และใช้พลังงานอย่างไม่หยุดยั้งทำให้ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยของความเหนื่อยและมีสุขภาพทรุดโทรมกว่าคนปกติ


(มีต่อในบันทึกที่ ๒ ...)


.....................................................................................................................................................................


ศึกษาตาม และ ถามตัวเองว่า เราใช่จริตแบบนี้หรือไม่

เพื่อเป็นทบทวนตนเองครับ


บุญรักษา ทุกท่านครับ ;)...


ป.ล. อ่านต่อในบันทึกหน้านะครับ น่าสนใจมาก



....................................................................................................................................................................

ขอบคุณหนังสือ ...



อนุสร จันทพันธ์ และบุญชัย โกศลธนากุล.  จริต ๖ ศาสตร์ในการอ่านใจคน.  พิมพ์ครั้งที่ ๑๑.

       กรุงเทพฯ : อ้มรินทร์พรินติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง, ๒๕๔๖.


หมายเลขบันทึก: 539713เขียนเมื่อ 18 มิถุนายน 2013 16:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2013 17:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

ขอบคุณครับอาจารย์

เข้าใจผิดไปว่า คนวิตกจริต จะเป็นคน เงียบๆ เคร่งขรึม

ตอนที่1 นี้อ่านแล้วคิดว่า ผมยังโชคดี ไม่น่าจะอยู่ในเกณฑ์...

รับรู้และเรียนรู้ไปด้วยกันครับ คุณ พ.แจ่มจำรัส ;)...

ขอบคุณมากครับ ;)...

ถ้าตนเองเป็นคนแบบนี้ หรือได้อยู่ใกล้คนแบบนี้ คงเหนื่อย คงเครียดแย่นะคะ

แต่ปกติแล้ว คนๆ หนึ่ง มักจะไม่เป็นแบบใดแบบหนึ่ง 100 % จะมีหลายๆ แบบปนกันอยู่ เวลาจะจัดประเภทว่า เป็นคนแบบใดก็จะถือเอาตามลักญณะส่วนใหญ่ว่า โน้มเอียงไปทางใด 

ถูกต้องเลยครับ ท่านอาจารย์ ไอดิน-กลิ่นไม้ ;)...

เรียกว่า เหนื่อยเหมือนกัน เพราะต้องพยายามปรับอารมณ์อยู่ตลอดเวลา

จริต ๖ หรือ นพลักษณ์ ๙ สามารถปนเปกันได้จริงครับ

บางส่วนแ้ล้วแต่่ส่วนไหนจะเด่นขึ้นมา

ขอบคุณมากครับ ;)...

ได้ความรู้มากมายค่ะ


ขอวิธีเเก้หน่อยครับ


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท