คนส่วนใหญ่เวลาพูดถึงการโค้ช จะคิดถึงการตั้งคำถาม การฟัง หรือบางท่านคิดว่า การให้คำแนะนำคือการโค้ช ทำให้เกิดประเด็นที่โต้เถียงกันอย่างมากมายในตอนนี้ จนดูเหมือนว่าจะหาจุดสิ้นสุดไม่ได้ แต่วันนี้ ผู้เขียนขอไม่พูดเรื่องเหล่านี้สักวันนะคะ ขอพูดเรื่องการโค้ชด้วย ‘ความเงียบ’ แทนค่ะ
ความเงียบเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างมากในกระบวนการโค้ช และเป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่าดั่งทองคำทีเดียว ค่ะ ในการโค้ชผลการปฏิบัติงาน การโค้ชผู้นำ การโค้ชธุรกิจ หรือการโค้ชชีวิตก็ตาม เมื่อโค้ชตั้งคำถามต่อโค้ชชี่ สิ่งที่โค้ชต้องทำต่อไปคือ 'เงียบสนิท' เพราะเป็นช่วงเวลาที่โค้ชชี่จะได้ใช้ความคิด โดยโค้ชไม่ไปเร่งรัด แม้เมื่อโค้ชชี่ตอบคำถามจบแล้ว โค้ชก็ควรเงียบต่อไปอีกสัก 2-3 วินาที เพื่อให้แน่ใจว่าโค้ชชี่ไม่มีอะไรจะพูดต่อ ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไปสำหรับโค้ชชี่ในการดึงทุกสิ่งที่อยู่ในสมองออกมาได้ทันทีเพื่อตอบคำถามโค้ช บางคำถามที่มีพลังมาก โค้ชชี่ยิ่งต้องใช้ความคิดมาก โค้ชชี่จำเป็นต้องค่อยๆกลั่นกรอง และสังเคราะห์ข้อมูลออกมาผ่านทางคำพูด สมองในส่วนความคิด และการตัดสินใจ (Prefrontal Cortex) ต้องใช้พลังงานมากค่ะ โค้ชจึงควรใช้ความเงียบเป็นเครื่องมือในการโค้ชเพื่อกระตุ้นให้โค้ชชี่คิด โค้ชบางท่านอาจจำเป็นต้องฝึกฝนตนเองให้คุ้นเคยกับความเงียบอย่างแท้จริง เรียนรู้ที่จะเงียบในจังหวะ ระยะเวลา และกาละเทศะที่เหมาะสม เพื่อให้โค้ชชี่ใช้ช่วงเวลาแห่งความเงียบของโค้ชในการทำความเข้าใจ เกิดการตื่นรู้ภายใน เรียนรู้ เติบโตและแสวงหาทางออกต่างๆได้อย่างมีประสิทธิผล ขณะเดียวกัน โค้ชก็จะได้รับข้อมูลอันทรงคุณค่าจากโค้ชชี่ เพื่อนำมาใช้ต่อยอดในการสื่อสารในการโค้ชได้อย่างสอดคล้อง และสร้างความสัมพันธ์ รวมถึงความไว้วางใจ อันนำมาสู่ผลลัพธ์สูงสุดที่โค้ชชี่สมควรจะได้รับจากโค้ชที่มีคุณภาพค่ะ
ขอบคุณข้อคิดๆดีครับ..เวลาอบรมหรือประชุมคุมสถานการณ์ไม่อยู่ต้องใช้ความเงีบลและดึงคนเข้ามาจริงๆ ..