USA Trip 2013 : เดินทางถึงที่หมาย


ตอนออกจากรถจึงรู้ว่าร้อนแบบแผดเผาเป็นอย่างไร มีไอร้อนมาปะทะเรา ทำให้รู้สึกร้อนผ่าว

วันที่ 8 มิถุนายน 2556 (ต่อ)

เราได้ที่นั่งแถว 26 เป็นที่นั่ง 2 คน อยู่ตรงบริเวณปีกของเครื่องบินพอดี เครื่องบินออกตรงเวลา กัปตันประกาศว่าคาดว่าจะถึงนาริตะประมาณ 16.30 น.

เกือบ 11 น.ตามเวลาของญี่ปุ่น พนักงานต้อนรับบริการอาหารว่างเป็น Rice cracker ดิฉันขอน้ำแอปเปิ้ล ไม่มีอะไรจะทำเลยอ่านซองอาหารว่าง ซองนี้มีปริฒาณ 15 กรัม เขาบอกแหล่งที่มาของส่วนผสมด้วย พบว่าส่วนผสมส่วนใหญ่เป็นของประเทศไทย เช่น Strach rice –ญี่ปุ่น เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่ว น้ำมันพืช ซีอิ้ว (บอกด้วยว่าทำจากอะไรบ้าง) ฯลฯ มาจากประเทศไทย



อาหารว่าง Rice cracker


สักพักก็เสริฟอาหารกลางวัน ดิฉันเลือกอาหารสไตล์ญี่ปุ่น (อีกเมนูเป็นสไตล์ตะวันตก) หน้าตาดังรูป เข้าใจว่าเป็นข้าวและแกงกะหรี่ไก่แบบน้ำใสๆ ซึ่งดิฉันไม่นิยมอยู่แล้ว เลยกินแต่ข้าวเป็นหลัก กับอาหารในถ้วยเล็กถ้วยน้อย



อาหารกลางวัน


มีน้ำดื่มมาด้วย 1 ขวดที่ข้างขวดเขียนว่า Kirishima Mineral Water, Shigensuri (ตัวหนังสือเล็ก สายตาไม่ค่อยดี ไม่รู้เขียนถูกหรือเปล่า) ปริมาณ 320 มล. แล้วบรรยายด้วยว่าน้ำนี้เป็นน้ำธรรมชาติที่ได้มาจากที่ใด บอกว่าแหล่งน้ำมาจาก Mt. Takachiho ที่มีตำนานว่าเป็นที่ที่ gods decended from heaven.... ทำให้น้ำนี้ดูมีคุณค่ามากขึ้น ดิฉันจึงดื่มจนหมด อากาศตลอดการเดินทางแจ่มใสดี การเดินทางราบรื่น 



ท้องฟ้ายามเย็น


ประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนถึงนาริตะ มีประกาศว่าจะถึงก่อนเวลา แต่เมื่อถึงก็ยังลงไม่ได้เพราะปัญหาการจราจรทางอากาศหนาแน่น

เครื่องลงจอดเมื่อเวลา 16.30 น. เราออกจากเครื่องเดินไปตามเส้นทางที่มีป้ายบอก Connecting flight ครั้งนี้ผ่าน security ได้เร็ว เราต้องไปต่อเครื่องที่ Gate 43 ต้องเดินขึ้น-ลงบันไดเลื่อน และทางเลื่อนหลายต่อมาก ไปถึงที่ Gate ก่อนเวลา Boarding ประมาณ 5 นาที (เวลา Boarding 16.55 น.) เที่ยวบิน NH 008 เป็นเครื่องบินลำใหญ่ เราได้ที่นั่งแถวที่ 29 เป็นเก้าอี้ 3 ตัว แถวหลังสุดของล็อกนี้ ดิฉันนั่งริมหน้าต่าง สามีนั่งกลาง ชายหนุ่มอีกคนนั่งริมทางเดิน

ที่นั่งสบาย มีที่ว่างระหว่างแถวกว้าง เบาะที่นั่งเลื่อนออกได้ มีที่รองศรีษะที่พับงอเพื่อประคองศรีษะ (ความสูงของดิฉันไม่ถึง เลยไม่ได้ประโยชน์)

ประมาณ 18.30 น. มีบริการอาหารว่างเป็น Rice cracker เหมือนเดิม เวลาประมาณ 19 น.ท้องฟ้าก็มืดมิด ดิฉันชอบดูแผนที่ที่หน้าจอ ซึ่งเครื่องบินรุ่นนี้มีให้เลือกว่าจะดูแผนที่แบบไหนได้หลายแบบ

อาหารเย็นมื้อนี้อร่อยสำหรับดิฉัน ตอนหิวเห็นว่ามีปริมาณไม่มาก แต่กินแล้วอิ่มมากทีเดียว เพราะมีทั้งข้าวและหมี่ ชอบน้ำซุปมิโสะที่มีรสเค็มๆ ดิฉันขอชาเชียว ปรากฏว่าดื่มเร็วไปหน่อย น้ำชาร้อนมาก ลวกลิ้น เลยต้องกินของหวานที่เป็นไอศกรีม Haagen-Dazs ถ้วยเล็กๆ จนหมด



อาหารเย็น


น้ำดื่มที่ให้มา 1 ขวด มีข้อมูลบอกอีกเช่นเคยว่าเป็น Natural Spring Water จาก Kurobe ใน Toyama Prefecture และบรรจุขวดที่โรงงานที่ทันสมัย เชิญดื่มน้ำที่คัดสรรแล้ว เป็น cerebration of fine Japanese spring water

อีกด้านของขวดน้ำมีข้อความประชาสัมพันธ์ new Boeing 787 ที่ส่วนใหญ่สร้างจาก Toray carbon fiber ซึ่งเป็นวัสดุที่มีน้ำหนักเบา แข็งแรง ไม่เป็นสนิม (rust resistance) แล้วยังบอกว่า carbon fiber ทำให้การใช้เชื้อเพลิงมี efficiency ดีขึ้น ทำให้เกิด comfortable environment ภายในห้องโดยสาร… ขวดน้ำจึงไม่ใช่เป็นเพียงภาชนะที่ใส่น้ำเท่านั้น

หลังอาหารเย็นดิฉันก็นั่งหลับๆ ตื่นๆ ตลอดทาง จนเช้า เครื่องบินบินข้ามมหาสมุทรด้วยความสูง เราจึงมองเห็นแต่ก้อนเมฆ ดิฉันยังคงเลือกอาหารเช้าแบบญี่ปุ่น เป็นข้าวและปลาแซลมอน โรยหน้าด้วยไข่ฝอย และดื่มกาแฟ



อาหารเช้า


เมื่อใกล้ San Francisco เห็นแนวชายฝั่งทะเลยาว



ชายฝั่งทะเล


ลงจากเครื่องบินแล้วทางเดินไปด่านตรวจคนเข้าเมืองไม่ซับซ้อน แต่วันนี้มีคนต่อคิวยาวมาก เราใช้เวลาตรงจุดนี้ไปเกือบ 1 ชั่วโมง โชคดีที่ไม่โดนสุ่มตรวจกระเป๋า ออกมารอลูกชายไม่นานนัก อากาศที่ San Francisco ไม่ร้อนไม่หนาว กำลังสบาย

เราออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ Davis ถนนมีรถค่อนข้างเยอะ ระหว่างทางเห็นภูเขาเตี้ยๆ มีหญ้าแห้งเต็มไปหมด แต่ในทุ่งก็ยังมีการเพาะปลูก เห็นสีเขียวๆ ไม่รู้ว่าเป็นอะไร สองข้างถนนมีดอกไม้คล้ายกับยี่โถสีชมพูบ้าง สีเข้มบ้าง ช่วงนี้ต้นองุ่นมีใบเขียวต่างจากช่วงเวลาที่มาเมื่อปีก่อน ที่ต้นองุ่นไม่ค่อยมีใบ

เราแวะไปซื้อของสดเพื่อทำกับข้าวที่ร้านเอเซีย ตอนออกจากรถจึงรู้ว่าร้อนแบบแผดเผาเป็นอย่างไร มีไอร้อนมาปะทะเรา ทำให้รู้สึกร้อนผ่าว น่าจะเหมือนกับอยู่ในทะเลทราย (ความจริงก็ไม่เคยไปทะเลทราย ที่ไปดูไบก็ไม่ร้อนแบบนี้) หลังจากนั้นก็ไปซื้อผลไม้ที่ Produce ที่เคยมา ช่วงนี้มีผลไม้เยอะ เราซื้อเชอรี่ สตรอเบอรี่ พีช และ Apple chip

ไปถึงที่พักของลูก อากาศร้อนต้องเปิดแอร์ ยังไม่ง่วง เก็บกระเป๋าเสร็จก็ทำกับข้าวมื้อเย็น มีมะระยัดไส้ที่ลูกชายอยากกิน ผัดเต้าหู้หมูกรอบใส่ใบคื่นช่ายขาว ผัดผักบุ้งเผ็ดมาก (เพราะใส่พริกไป 7 เม็ด) 

ที่ Davis ช่วงนี้สามทุ่มก็ยังไม่มืด ลูกและเพื่อนๆ ออกไปทำงาน Lab พ่อแม่ง่วงจัดเลยหลับได้ ดิฉันตื่นมาตอน 23 น.กว่าตามเวลาที่ Davis หายง่วงจึงนั่งเขียนบันทึกนี้ ตอนนี้เกือบตีสามแล้ว อากาศในเวลากลางคืนไม่ร้อน เริ่มรู้สึกหิว


วัลลา ตันตโยทัย

คำสำคัญ (Tags): #usa trip#san francisco#Davis
หมายเลขบันทึก: 538718เขียนเมื่อ 9 มิถุนายน 2013 17:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน 2013 06:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ประทับใจเรื่องเล่ามากเลยค่ะ 

เค้าว่ากันว่าอาหารญิปุ่นเป็นอาหารชั้นเลิศ แต่หนึ่งในเมนูที่ดิฉันไม่ทานก็เป็นแกงหรี่เหมือนกันค่ะ

หากมีโอกาสดิฉันก็เป็นคนหนึ่งที่จองที่นั้งริมหน้าต่างใกล้ๆ ปีก เพราะชอบจะดูท้องฟ้า ก้อนเมฆ และพื่นดิน ช่วงทะยานขึ้นและลงค่ะ


ขอบคุณเรื่องราวดีๆ ค่ะ

ฝันดีนะคะ

อาหารหลากหลาย ชมนึกตาม อิ่มไปด้วยเลยค่ะ  มีความสุขกับอาหารและการเดินทางนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท