วันนี้ (3 พค.56) เวลาประมาณ 2 ทุ่มเศษ ๆ ฟ้าฝนที่ตัวเมืองพิษณุโลกตกกระหน่ำอย่างรุนแรง โดยมีวี่แววมาตั้งแต่ตอนเย็น ๆ เพราะจากความร้อนอบอ้าวที่สะสมตลอดทั้งวัน ทำให้บนท้องฟ้าด้านทิศตะวันออกไกลออกไปเริ่มสะสมด้วยก้อนเมฆสีเทา ๆ แผ่กระจายเป็นวงกว้าง ท้ายที่สุดเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ผู้คนละแวกนี้จึงได้รับความชุ่มช่ำจากน้ำฝนจำนวนมาก พร้อมกระแสลม (น่าจะเรียกว่าพายุได้) ที่เป็นกองหนุนให้สายฝนตกลงมาจากฟากฟ้า
หลายวันก่อน ผมพาตัวเองไปร้านอาหารด้านหลังของปั้ม PT ที่อยู่ใกล้ ๆ แม่น้ำน่าน เพื่อหาอาหารมื้อกลางวันรับประทานก่อนที่จะไปร่วมสัมมนา ผมได้พบเห็นภูมิทัศน์ที่สวยงามของแม่น้ำน่านตามภาพด้านบนที่ท่านเห็น ภาพนี้ใช้มือถือบันทึกไว้ครับ ไม่น่าเชื่อนะครับ ว่าบางจุด บางมุมของธรรมชาติ จะมีความสวยงามได้มากเช่นนี้ จากรูปนี้สังเกตให้ดีจะมีนกน้อย ๆ บางตัวกำลังโผ่บินระหว่างผืนดินกลางแม่น้ำที่แยกออกเป็น 2 ส่วน
สายลมเย็น ๆ ในวันนั้้นที่พัดผ่านระหว่างนั่งรับประทานอาหาร ทำให้ผมรู้สึกว่าธรรมชาติเฝ้าพร่ำสอนแก่ผู้คนเสมอ ว่าทุก ๆสิ่งล้วนไม่แน่นอน มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ทุกเสี้ยววินาที ไม่ต่างไปจากจิตใจของมนุษย์ที่มีเรื่องเกิด ดับ เกิด ดับ หมุนเวียนกันอย่างไม่สิ้นสุด หลายเดือนก่อนผมเคยคิดว่า นอกจากการปั่นจักรยาน ที่ใช้เวลาที่ช้ากว่าการขับรถจักรยานยนต์หรือรถยนต์แล้ว ผมจะต้องเจอกับแบบฝึกหัดในการเดินจงกรม ที่ใช้เวลาช้ามาก ๆ เพื่อให้มีสติรู้ตัวทั่วพร้อม เมื่อนำตัวเองไปเข้ารับการอบรมตามกระบวนการ "วิปัสสนา" ในบางช่วงของชีวิตที่ผ่านมา
ค่ะ มันเป้นเช่นนั้น ใน + วันบางครั้งก็มีตั้งสามฤดู