สมาทานเอาสิ่งที่ดี ๆ ไว้ในใจ...



วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่คุณครูนักเรียนนักศึกษามาประพฤติปฏิบัติธรรม ช่วงบ่ายจะได้พากันเดินทางกลับบ้านกลับโรงเรียน


นักเรียนนักศึกษาได้มาประพฤติปฏิบัติธรรมะ มาฟังพระที่ท่านนำเอาพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาบรรยายให้ฟัง นักเรียนนักศึกษาก็มีความเข้าใจกันพอสมควร นักเรียนนักศึกษาก็ต้องนำพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าไปประพฤติ ไปปฏิบัติเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ชีวิต ต่อครอบครัวและสังคมประเทศชาติ

พระพุทธเจ้าท่านให้นักเรียนนักศึกษาทุก ๆ คนตั้งใจสมาทานเอาสิ่งที่ดี ๆ ที่เป็นพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าไปประพฤติไปปฏิบัติ ถ้าทุก ๆ คนปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทุกคนได้ดีแน่นะ

พระพุทธเจ้าก่อนที่ท่านจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน ท่านได้ให้โอวาทแก่พระสงฆ์ว่า “อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถะ สังขารทั้งหลายทั้งปวงมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา  ท่านทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด”

เราทุก ๆ คนนี้นะ ไม่ว่าพระ ไม่ว่าโยม ไม่ว่านักเรียนนักศึกษา ส่วนใหญ่ ๙๙ เปอร์เซ็นต์พากันตั้งอยู่ในความประมาท ยังไม่เห็นคุณไม่เห็นประโยชน์ในการตั้งมั่นในคุณธรรมคุณงามความดี ยังไม่เห็นภัยในความทุกข์ หรือว่าวัฏฏะสงสารที่จะเกิดขึ้นแก่เราในวันข้างหน้า

ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตประจำวันของเราน่ะ พระพุทธเจ้าท่านไม่ให้เราประมาท  ไม่ว่าความคิด อันไหนมันคิดไม่ดีน่ะไม่ให้ไปคิด อันไหนมันไม่ดีน่ะไม่ให้ไปพูด อันไหนมันไม่ดีอย่าไปทำ พยายามฝืนพยายามอดพยายามทน ต่อสู้กับกิเลสความอยากของตัวเอง ที่มันไม่ดีมันไม่ถูกต้อง มันอยากคิดอยากพูดอยากทำเราต้องอดต้องทน

เราทุกคนต้องมีสมาธิที่แข็งแรง ตั้งมั่นไม่หวั่นไหว ไม่โยกไม่คลอน อย่าให้ความปรุงแต่งทั้งหลายทั้งปวงนั้นมันมาทำจิตใจของเราให้หวั่นไหว

คนเราน่ะถ้าไม่ได้ฝึก ไม่ได้หัด ไม่ได้ปฏิบัติ มันไม่ได้มันไม่เป็น พระพุทธเจ้าท่านถึงให้เราตั้งใจให้เราสมาทานเอาสิ่งที่ดี ๆ ไว้ เพื่อชนะใจตัวเองชนะอารมณ์ตัวเอง

ธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นสิ่งที่ดีเป็นสิ่งที่ประเสริฐ เราฟังแล้วอย่าให้มันเข้าหูซ้ายออกหูขวา ให้พากันนำไปประพฤติปฏิบัติ

ในจิตสำนึกของนักเรียนทุกคนน่ะต้องตั้งในใจว่าชีวิตของเรานี้เกิดมาเพื่อทำความดีเพื่อเสียสละ เพื่อไม่ตามใจตัวเองไม่ตามอารมณ์ตัวเอง จะเอาความดีเป็นที่ตั้งเอาความดีเป็นข้อวัตรปฏิบัติ ให้ถือคติว่าเราเกิดมาเพื่อสร้างบารมี จะรักจะพอใจในการทำความดี  ถึงจะยากถึงจะลำบากก็ต้องทำ เพราะความดีนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก มันต้องฝืนต้องอดต้องทนแล้วก็ตั้งมั่นไว้ตลอดกาล


มีจิตสำนึกว่าสิ่งที่มันไม่ดีที่มันผ่านมานั้นจะทิ้งมันให้หมดถึงจะชอบเท่าไหร่ก็ต้องทิ้ง  ให้หมด จะต้องสมาทานเอาความดีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถ้าเราไม่ประพฤติปฏิบัติอย่างนี้ชีวิตของเรานี้มันดีไม่ได้แน่


จะพยายามมีหลักเกณฑ์ในชีวิต กราบพระไหว้พระทุกวัน นั่งสมาธิซัก ๕ นาที  เป็นอย่างน้อยทุกวัน จะพยายามบังคับตัวเองไม่ให้ไปกินไปเล่นไปเที่ยวกับหมู่คณะเพื่อนฝูง จะพยายามเป็นผู้ใช้เงินน้อย วางแผนในการใช้เงิน ไม่ใช่ทำตามพวกเพื่อน ๆ ที่เค้าไม่รู้จักคิด

เรื่องสิ่งเสพติดทุกชนิด จะเป็นเหล้าเป็นเบียร์เป็นยาเสพติดทุกชนิดนี้ จะไม่ยุ่งไม่เกี่ยว จะไม่ทดลอง จะพยายามเป็นคนขยันอย่างมาก ๆ ขยันอย่างสม่ำเสมอจนเป็นคนขี้เกียจไม่เป็น เพราะคนขี้เกียจเค้าเรียกว่าคนบาป บุคคลที่จะมีความทุกข์ในอนาคตคือบุคคลขี้เกียจ

พวกโทรศัพท์ พวกอินเตอร์เนท เฟซบุ๊คจะพยายามใช้เฉพาะในสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ เพราะสิ่งเหล่านี้คือสิ่งเสพติด เราจะเป็นคนใจแข็ง ใจเข้มแข็ง อดเอาทนเอา เพื่อจะใช้เทคโนโลยีให้มันเกิดประโยชน์ไม่ใช่เอามาทำร้ายทำลายตัวเองนะ

จะเป็นคนที่มีคำพูดที่ดี ฝึกพัฒนาในการพูด สิ่งไหนไม่ดีจะไม่พูดเดี๋ยวมันจะติดนิสัย เพราะว่าเราอยู่ในชนกลุ่มไหนอะไรมันก็จะไปเหมือนเขา เราต้องฝึกพูดดี ๆ พูดเพราะ ๆ  รู้จักสัมมาคารวะ รู้จักที่ต่ำที่สูง ไม่ก้าวร้าว ไม่เถียงพ่อเถียงแม่ เถียงผู้หลักผู้ใหญ่นะ  เรื่องคำพูดนี้สำคัญ ถึงแม้เราจะเป็นคนพูดดี พูดเพราะพูดเก่งพูดฉลาดเราก็อย่าไปพูดมากเกินเพื่อเปิดโอกาสให้คนอื่นเค้าพูดบ้าง เพื่อฟังคนอื่นเค้าพูดมาก ถ้าไม่อย่างนั้นใครเค้าอยากจะพูดกับเรา เค้ามาพูดเมื่อไหร่เค้าก็ไม่ได้พูดมีแต่เค้าได้ฟัง

มีตัวอย่างอยู่มากเรื่องพูดนี้ เพราะพื้นฐานของเราทุก ๆ คนที่เกิดมาน่ะ ชอบเอาแต่ใจตัวเอง แล้วแต่อารมณ์ของตัวเอง เป็นคนใจร้อน ทิฏฐิมานะมาก เจ้าอารมณ์ ชอบพูดตรงไปตรงมา ชอบพูดขวานผ่าซาก

เราอย่าไปคิดว่าเราพูดออกมาจากใจนะ...! เราพูดตรงไปตรงมาพูดจากใจ เราไปคิดอย่างนั้นไม่ได้ เพราะว่าใจของเราไม่ใช่ใจพระพุทธเจ้าไม่ใช่ใจพระอรหันต์ คนบางคนเป็นคนเก่งเป็นคนฉลาดแต่ไปเสียที่พูดไม่ดี ปากไม่ดี ปากระเบิด เกิดมาเลยไม่มีเพื่อนกับเค้า เพราะว่าไม่มีใครอยากอยู่ใกล้ ไม่มีใครอยากพูด อยากคุยด้วย เรื่องพูดนี้นักเรียนนักศึกษา  ทุกคนต้องฝึก คนเรามันฝึกได้นะ ถ้าไม่ฝึกมันไม่ได้มันไม่เป็นให้ทุกคนตั้งใจไว้สมาทานไว้

ความขยันความหมั่นเพียรทำให้เรามีความสุข ให้นักเรียนนักศึกษาจำไว้นะ...

ถ้าเราขยันหมั่นเพียรทุกอย่างมันก็ดีหมด ความสุขของคนนี้ สุขเพราะร่างกายสุขภาพดีไม่มีโรคมีภัย สุขเพราะเรามีเงินมีสตางค์ มีเครื่องอำนวยความสะดวกสบาย สุขจากที่เรา  ไม่เป็นหนี้ไม่เป็นสินใคร สุขที่เราได้ประพฤติปฏิบัติธรรม ไม่ตามจิตตามใจของตนเองทุกอย่างมันก็มีแต่ความสุขมีแต่ความดับทุกข์

ให้ทุกคนสมาทานไว้ตั้งใจไว้ สร้างเหตุสร้างปัจจัยให้มันถึงพร้อม ถ้าเรามีความอยาก  มีความต้องการ แต่เราไม่นำเอาพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าไปปฏิบัติมันก็เป็นไปไม่ได้นะ

ถ้าเราเป็นคนดีแล้วก็มีเงิน มีทรัพย์สมบัติ มียศฐานบรรดาศักดิ์น่ะ ทุกคนก็อยากเป็นเพื่อนเรา ทุกคนก็รักเคารพนับถือเรา เราจะได้เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต


คนเราตอนเด็ก ๆ นี้มันยังดูกันไม่ออก ระยะทางเป็นเครื่องพิสูจน์...

สิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของเรามันมายั่วยวนกวนจิตใจ ถ้าเราใจอ่อนเราก็พลาดท่าเสียที เสียอนาคต เสียเวลา เวลาดี ๆ มันเอาคืนมาไม่ได้ ใครเคยโกหกพ่อโกหกแม่  ต้องสมาทานหยุดหมดน่ะ บาปกรรมมันจะมาถึงเรา มาถึงลูกเราหลานเราในอนาคต

พระพุทธเจ้าท่านให้เรารักคุณพ่อรักคุณแม่ มีความกตัญญูกตเวทีให้เป็นเลิศให้เป็นหนึ่ง คนเราน่ะถ้ามีความกตัญญูกตเวทีนี้ ในอนาคตย่อมไม่ตกต่ำ ถึงแม้ตัวเองไม่ถึงขั้นร่ำรวย  ลูกหลานเหลนก็ร่ำรวยนะ

ภาระของเราก็คือดูแลพ่อดูแลแม่ เพราะว่าพ่อแม่ของเราน่ะแก่เฒ่าไปทุกวัน อีกไม่นานก็ทำงานไม่ได้แล้ว เราต้องรักคนแก่ดูแลคนแก่ คนรุ่นใหม่คนสมัยใหม่นี้ไม่รักคนแก่ไม่สงสารคนแก่นะ ประเทศไทยเจริญ ๆ เอาพ่อแม่ไปไว้บ้านคนชรากันหมด ทำอย่างนี้ไม่ถูกต้องนะ  ทำอย่างนี้เค้าเรียกว่าคนบาป

พ่อแม่เราน่ะเป็นผู้ที่สูงสุดเป็นผู้ที่มีพระคุณ เราต้องรักท่าน โบราณท่านถึงพูดว่าอย่าไปเถียงพ่อเถียงแม่มันบาป มันตกนรก บาปมันคูณทวี บาปกรรมมันจะถึงเรามากกว่าเราไปเถียงพ่อเถียงแม่อีก

นักเรียนนักศึกษาต้องคิดให้มันเป็น พ่อแม่เรายากจนพ่อแม่เราลำบาก เราจะไปไถแต่เงินพ่อเงินแม่ พ่อแม่เราเป็นประสาทแย่อยู่แล้วยังไปเพิ่มโรคประสาทให้อีกมันเป็นบาปนะ  ให้อดเอาทนเอาอย่าไปหลงวัตถุ เราจะไปเอาตัวเราไปเทียบกับลูกคนรวย ๆ ลูกเศรษฐีมันไม่ได้

คนเราความสุขความดับทุกข์อยู่ที่ใจสงบนะ ใจไม่วิ่งตามกิเลสไม่วิ่งตามอารมณ์

นักเรียนนักศึกษาฝึกทำใจให้สงบเสียบ้างนะจะได้ชื่อว่าเป็นนักเรียนนักศึกษาที่แท้จริง เดี๋ยวนี้เราไปศึกษาแต่สิ่งภายนอกเราไม่ได้ศึกษาเรื่องจิตเรื่องใจที่จะทำให้มันสงบ ฝึกพักผ่อนอยู่กับความสงบความไม่ปรุงแต่ง

พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่าความปรุงแต่งทั้งหลายทั้งปวงเป็นทุกข์อย่างยิ่ง การเข้ามาสงบระงับสังขารคือการหยุดปรุงแต่ง มีความสุขอย่างยิ่ง

คนเราที่มันทุกข์มากก็เพราะเราพากันปรุงแต่งมาก เป็นคนที่หาเรื่องให้ตัวเองเป็นทุกข์เฉยๆ  ชอบเผาชอบทำร้ายตัวเองด้วยการไปคิดมากไปปรุงแต่งมาก ไปรักไปหลงอะไรชอบคิดวกวนแต่เรื่องเก่า ผลสุดท้ายเลยเป็นโรคกระเพาะโรคประสาท ประเทศที่เค้าเป็นโรคประสาทโรคจิตเยอะคือประเทศที่พัฒนาทางวัตถุ เราพากันหลงในวัตถุต้องการวัตถุ บางคนก็อยากได้สามีต่างประเทศ สามีรวย ๆ คิดว่ามันจะดี ก็ไปแต่งงานกับเค้า ที่ไหนได้ล่ะไปแต่งงานกับคนเป็นโรคประสาท

คนทุกวันนี้เป็นโรคประสาทกันเยอะนะ นักเรียนนักศึกษาก็ต้องวางแผนไว้ด้วยว่าการพัฒนาต้องพัฒนาทั้งวัตถุและพัฒนาทั้งจิตใจเราถึงไม่เป็นโรคประสาทไม่เป็นโรคจิต

สิ่งไหนมันผิดพยายามอย่าไปคิดอย่าไปทำอย่าไปพูด ถ้าใครทำผิดใจมันไม่สงบนะ  ถึงคนอื่นไม่รู้มันก็ไม่สงบหรอกคนทำความผิดน่ะ คิดไม่ดีอย่างนี้เค้าเรียกว่าทำผิดเหมือนกัน พูดไม่ดีก็เรียกว่าทำผิดเหมือนกัน

ประการแรกต้องเริ่มจากสิ่งที่มันหยาบน่ะ ก็คือเริ่มจากกาย คือกายนี้ไม่ต้องทำความผิดแล้วเน้นมาถึงจิตใจ

พระพุทธเจ้าท่านไม่ให้เราเอาเปรียบคนอื่นนะ เพราะเราส่วนใหญ่ที่อยู่ในโลก  อยู่ในสังคม ส่วนใหญ่ทรัพยากรต่าง ๆ ได้มาจากบุคคลอื่น เราพยายามไม่เบียดเบียนใคร  เราพยายามเป็นผู้ให้พยายามเป็นผู้เสียสละ ถ้าเราเป็นผู้ให้เป็นผู้เสียสละเราถึงจะเป็นคนรวย ถึงจะเป็นผู้มีคุณธรรม เดี๋ยวทุกอย่างมันจะดีเอง แต่เดี๋ยวนี้เรามองไม่ออก เพราะเรามันมีความเห็นแก่ตัวมาก มันมองสิ่งที่ดี ๆ ไม่ออก


ต้องฝึกเป็นคนเสียสละมาก ๆ  ถึงแม้ร่างกายมันจะเหนื่อยเท่าไหร่ก็ช่างหัวมัน  เพราะเราไม่เอาความสุขทางร่างกาย เราจะเอาความสุขทางจิตใจที่เราได้เสียสละ

เราลองคิดดูน่ะทุก ๆ คนในโลกนี้ ต้องการทำงานเบางานน้อยแล้วก็ได้เงินได้สตางค์มาก แสดงว่าจิตใจไม่เสียสละนะ จิตใจจะเป็นผู้เอา เอาเปรียบเค้า ถ้าเราทำงานอย่างเดียวกันนั้นแหละ แต่เราทำเพื่อไม่เอาไม่มีไม่เป็นเพื่อเสียสละน่ะ เราได้ทั้งความสุขทางจิตใจ  ได้ความสุขกับการมีเงินมีสตางค์อีกด้วย ทำงานไปมันก็มีความสุข ถึงแม้นนักเรียนนักศึกษาตอนนี้ยังคิดไม่เห็นเป็นตามพระพุทธเจ้า ก็ต้องอดต้องทนต้องเสียสละ ต้องรับผิดชอบ  หนักก็เอาเบาก็สู้ไม่สะทกสะท้านหวั่นไหว นักเรียนนักศึกษาอย่าไปกลัวผอมอย่าไปกลัวตัวดำ อย่าไปกลัวมันไม่หล่อไม่สวย ความหล่อความสวยนี้มันช่วยเหลืออะไรเราไม่ได้ สู้ความดี  มีความสามารถเสียสละไม่ได้หรอกนะ เดี๋ยวนี้เรายังเป็นนักเรียนนักศึกษาน่ะ เรากำลังวัยรุ่น เราก็พากันไปหลงในความหล่อความสวย เราไม่เน้นในการเป็นคนขยันเป็นที่เสียสละเป็นที่มีศักยภาพ

คนเรามันชอบอวดชอบโชว์อยากให้คนอื่นสนใจ มันเลยวกวนอยู่กับสิ่งที่ไร้สาระนะ

ต้องเน้นที่ความประพฤติของเราเน้นที่การกระทำของเรา กระตือรือร้นในการกระทำความดี

พระพุทธเจ้าท่านให้เราประพฤติปฏิบัติกันอย่างนี้นะ ให้พากันสมาทานไว้ตั้งใจไว้  การมาเข้าค่ายประพฤติปฏิบัติธรรมของเรามันจะได้มีประโยชน์มันจะได้ต่อเนื่องกัน  เมื่อกลับไปบ้านไปที่โรงเรียนแล้วก็นำธรรมะของพระพุทธเจ้าไปประพฤติปฏิบัติกันทุก ๆ นะ ใครจะปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติก็ช่างหัวเค้าแต่เรานี้ต้องประพฤติปฏิบัตินะ

ขออนุโมทนากับคุณครูที่ได้นำนักเรียนนักศึกษามาปฏิบัติธรรม และขออนุโมทนากับนักเรียนศึกษาทุก ๆ คนที่เป็นคนดีที่ได้พากันมาประพฤติปฏิบัติธรรม อย่างนี้เป็นสิ่งที่ดีแล้วเป็นสิ่งที่ประเสริฐแล้ว แต่ว่ามันยังไม่จบแค่นี้นะ เราต้องนำเอาพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าไปประพฤติปฏิบัติ

การบรรยายพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าวันนี้ก็พอเห็นสมควรแก่เวลาขอสมมุติยุติไว้แต่เพียงเท่านี้

ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ขอให้ทุกท่านทุกคนจงมีดวงตาเห็นธรรมด้วยกันทุกท่านทุกคนเทอญ...



พระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ที่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์เมตตาให้นำมาบรรยาย

เช้าวันเสาร์ที่ ๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๖ 


หมายเลขบันทึก: 537721เขียนเมื่อ 1 มิถุนายน 2013 08:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 มิถุนายน 2013 08:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ขอบคุณมากๆ ค่ะ กับบันทึกจรรโลงใจ


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท