เกิดมาเดินได้ ๗ ก้าว (ของชำร่วยวันวิสาขะ ตอน ๒)


เกิดมาเดินได้ ๗ ก้าว (ของชำร่วยวันวิสาขะ ตอน ๒)


วันวิสาขบูชา เป็นการฉลองวันประสูติตรัสรู้ ปรินิพพาน ในวันเดียวกันเพ็ญเดือนหก ที่ว่ากันว่าเกิด (ประสูติ) มาก็เดินได้ ๗ ก้าว ทันที

น่าสังเกตว่าศาสดาของทุกศาสนาจะเกิดแบบมีปาฏิหาริย์ เสมอ เช่นพระไครสต์ก็immaculate birthที่นางแมรี่ ตั้งท้อง โดยไม่ได้ร่วมประเวณีกับใคร(นอกจากพระเจ้า)

สำหรับพพจ. ของเรา ถ้าเกิดมาแล้วเก่งขนาดเดินได้ ๗ ก้าวจริง ถามว่า แล้วทำไม ไม่ออกบวชเลยล่ะต้องมารอให้กินนม เรียนรู้การยิงธนูจากวิศวามิตร แย่งชิงนกจากเทวทัตให้เสียเวลาทำไม

แล้วทำไมพอโหรมาทำนายว่า โตแล้วจะเป็นอะไรทำไมนอนนิ่งยังกะเด็กทารกทั่วไปน่าจะวิ่งเล่นได้แล้วเพราะแม้แรกเกิดยังเดินได้แล้วเลย

เรื่องเดินเจ็ดก้าวนี้เป็นเรื่องสอดแทรกเข้ามาแน่นอนโดยคนรุ่นหลังเพื่อglorifyพพจ. (ขออภัย..หาคำไทยที่สะใจไม่ได้)เดี๋ยวนี้พวกพระเกจิ หลายคนก็เลียนแบบพุทธประวัติ  เล่าอัตตชีวประวติตนเองซะหรูเริดผมได้ยินมาคนหนึ่งเล่าว่า อายุ ๑๒ ได้กำหนดจิตไปสวรรค์ ไปรับใช้พพจ.ก็มี...อ้วกๆๆๆๆๆๆ.....แต่ประหลาด ลูกศิษย์ของพระพวกนี้แต่ละคน โห...หมอวิดวะมหาเศรษฐี(ก็พวกนี้แหละที่ชวนผมไปกราบ..ว่ากันว่าเก่งหนักหนา) ...นี่แสดงว่าการศึกษาไทยล้มเหลวสิ้นเชิง อีกทั้งพวกโง่แล้วรวยมีมากเหลือเกิน

ผมว่าพวกเราคนไทยวันนี้กระทำปาฏิหาริย์ยิ่งกว่าพพจ. อีกนะ  เพราะท่านเกิดมาใหม่เพียงเดินหน้าได้ ๗ ก้าวเท่านั้นเอง  ส่วนเราเกิดมานาน ๗๐ ปีมีดีกรีการศึกษา อบรม ยาวเหยียด  ยังเก่งกว่า  อย่าว่าแต่เดินหน้าแบบง่ายๆ แต่เราเดินถอยหลังด้วยซ้ำไป ถอยหลัง ๗ ก้าว (๑๐ ปีถอยหลัง ๑ ก้าว)


...คนถางทาง (๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๖)



หมายเลขบันทึก: 537043เขียนเมื่อ 25 พฤษภาคม 2013 11:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 พฤษภาคม 2013 11:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ฮ่าฮ่าฮ่า อันนี้ผมเห็นด้วยกับอาจารย์นะครับ ผมวาพุทธประวัติและอะไรพวกนั้นของทุกศาสนาโม้เกินเหตุ คนมีสติไม่ควรจะเชื่อแต่เชื่อหรือไม่ คนมีสติดีๆนี่แหละที่เชื่อครับ 

ไม่เชื่อลองจัดให้มีการสำรวจ ด้วยการให้คนลองไปตะโกนในที่ๆ มีคนเยอะๆ จะของศาสนาไหนก็แล้วแต่ว่า ไตรปิฎก อัลกุรอ่าน ไบเบิ้ล นี่โม้โดยสิ้นเชิง พร้อมชี้ให้เห็นตัวอย่างที่มันเห็นกันชัด ว่ามันเป็นไปไม่ได้สำหรับมนุษย์ธรรมดา

ผมว่ารับรองมีคนระดับดอกเตอร์ลงมา เล่นงานหมอนั่นปางตายแน่ครับ ความเชื่อไม่ปราณีใครจริงๆ

เมืองไทยเราก็มีครับ คิดดูดีๆ มีเหมือนกันอัจฉริยะเหนือมนุษย์ธรรมดาเกินเหตุไป มันงมงายหรือไม่ไม่อยากพูด แต่มันได้ผลคนนับถือไปทั่วเมือง นี่เป็นวิธีเก่าที่คนฉลาดจะบอกว่างมงาย แต่คนฉลาดกว่าเขาก็ยังใช้เพราะเขารู้ว่า คนฉลาดที่จะแยกแยะได้มีน้อยกว่าน้อย ฮ่าฮ่าฮ่า

 เขาถึงว่าอย่าคุยเรื่องศาสนาและการเมืองถ้าไม่อยากเสียเพื่อน ผมว่าอาจารย์เสียเพื่อนไม่น้อยเพราะคนที่ไม่เห็นด้วยกับอาจารย์ในความเอียงทางการเมืองเพียบน้ำแปร้ไปทางกราบขวาอยู่ฝ่ายเดียวของอาจารย์ น่าจะมีอยู่มิใช่น้อย




พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท