BM.chaiwut
พระมหาชัยวุธ โภชนุกูล ฉายา ฐานุตฺตโม

มือถือนั้น สำคัญไฉน ?


เพิ่งกลับมาจากทอดผ้าป่า ๒ วัด... เช้าก็ไปชยันโตงานแต่งงาน รับปิ่นโตกลับมา ฉันเพลเสร็จก็ไปวัดดอนเค็ด ต.สนามชัย อ.สทิงพระ... วัดนี้ อยู่ริมทะเลหลวง เป็นความทรงจำตอนผู้เขียนเด็กๆ เมื่อไปบ้านก๋ง อาคู่แฝดซึ่งแก่กว่าผู้เขียนเพียงปีเดียว จะพาไปเที่ยวทะเล เดินหาของคลื่นซัด วิ่งจับปูลม ถ้าเดินไปริมทะเลด้านเหนือ ไกลสุดก็คือวัดดอนเค็ด (บ้านก๋ง ต.กระดังงา อยู่ทางใต้ ต.สนามชัย เลยขึ้นไปติดทะเลหลวง วัดระยะทางตรงห่างจากวัดดอนแค็ดประมาณ ๓-๔ กิโล)... ซึ่งสมัยนั้นเป็นเพียงวัดร้าง ไม่มีสภาพเป็นวัด มีเพียงบ่อน้ำเก่าๆ ศาลาโล่งๆ ทรงปั้นหยาเก่าๆ และร่องรอยสิ่งปลูกสร้างเท่านั้น...

พบสมภารเจ้าวัดดอนเค็ด ร่วมทำบุญ ฉันกาแฟแก้วหนึ่งก็ชวนคนขับกลับ ตั้งใจว่าจะมาแวะที่สวนซึ่งเป็นสมบัติเก่าที่ก๋งแบ่งไว้ให้โยมพ่อ... แต่ก็เลยถนนทางลงมายังสวน ต้องเลี้ยวกลับมาอีก สภาพเปลี่ยนไปมาก เมื่อก่อนเดินไม่สวมรองเท้า แม้จะมีทางเดิน แต่ก็ร้อน ต้องอาศัยเดินริมน้ำชายทะเล หรือเกาะร่มเงาของไม้ชายทะเล ดังนั้น วัดดอนเค็ดจากบ้านก๋ง ถือว่าไกลมากในสมัยนั้น... แต่เดียวนี้มีถนนมาตรฐานราดยางเป็นระยะๆ (บางช่วงยังเป็นดินแดง) การจำถนนหนทางบ้านเกิดปิตุภูมิไม่ได้ จึงถือว่ามิใช่เรื่องแปลก...

มาถึงสวน สภาพที่รกเรื้อน่าใจหาย ประตูสวนใช้ลำไม้ไผ่วางนอนแล้วคล้องเชือกไว้ ๔ ชั้น กว้างประมาณ ๓ เมตร สูงประมาณ ๑ เมตร... ไม่เคยพาคนขับรถคนนี้มา เค้าจึงถามว่า ใช่หม้าย ? ผู้เขียนดูอีกครั้งก็บอกว่า ใช่แน่นอน แล้วก็เปิดประตูเข้าไป... ขนำเล็กๆ ที่ผู้เขียนเคยมาจำวัดชั่วคราวเวลาญาติผู้ใหญ่ถึงแก่กรรมแล้วขี้เกียจไปนอนที่วัด มองดูสภาพได้เลยว่า ไม่เคยมีใครมานอนมานั่งนานแล้ว มะนาวกอใหญ่ที่คนขับรถคนก่อนเคยมาเก็บไปก็ตายสนิท คงไว้แต่กิ่งไม้แห้งๆ ที่รู้แต่เพียงว่าเป็นต้นไม้เท่านั้น... มะพร้าวหลายต้นที่โยมพ่อได้ปลูกไว้ก่อนท่านจะจากไป เดียวนี้สูงชะลูด หลายต้นมีลูกเต็มต้น คนขับรถบอกว่า ลูกพร้าวหล่นงอกกองลุย ไม่มีใครมาเก็บ ... ก็ชวนคนขับรถว่า ไปเก็บลูกม่วงดีกว่า ชวนกันบุกวัชพืชสูงเลยเข่าไปที่ต้นมะม่วง แต่ก็ไม่มีลูกเลย คงจะแล้ง ซึ่งเมื่อก่อนผู้เขียนเคยมาเอาครั้งละ ๑-๒ กระสอบปุ๋ย....

คิดถึงโยมแม่ น้องๆ และญาติๆ หลายคนคงจะไม่ทราบว่าสวนรกขนาดนี้ คิดจะเอามือถือมาถ่ายภาพไปลงเฟสฯ แต่คลำที่กระเป๋าอังสะ ไม่เจอ จึงคิดว่าอยู่ในย่ามหรือไม่ก็ในรถ จึงระงับไว้... ด้วยเหตุว่ารกมาก ลูกมะม่วงก็ไม่มี จึงชวนคนขับรถเดินอ้อมกลับออกมา เค้าพูดว่า "บ่อเลี้ยงปลา..." ก็เล่าให้ฟังว่า บั้นปลายชีวิต โยมพ่อเคยมาเลี้ยงปลาที่นี้.... ก่อนหน้านี้ อาคนหนึ่ง ซึ่งมีดินติดกัน มีโรงเลี้ยงไก่ และใช้พื้นที่บางส่วนของเรา จึงช่วยดูแลให้ ประมาณ ๓ ปีก่อน ท่านถึงแก่กรรม โรงเลี้ยงจึงถูกรื้อไป อาสะใภ้ท่านทำไม่ไหว จึงเลิก...

ออกรถมาแล้วก็อ้อมสวนมาถนนใหญ่ แวะจอดหน้าบ้านญาติ ก็คือบ้านก๋งเดิม ซึ่งหมดสภาพไปนานแล้ว... เดียวนี้ สร้างใหม่ขึ้นมาจากที่ดินเดิม เป็นครอบครัวของญาติ สองครัวแรกปิดประตู ครัวที่สามประตูเปิด จึงเรียก เจ้าบ้านออกมาก็คุยใต่ถามสุขทุกข์นิดหน่อย ก็ออกมา แกล้งเรียกบ้านสุดท้าย อาสะใภ้ได้ยินก็ออกมา คุยถึงสวน ท่านก็เกิดอาลัย จึงบอกท่านว่า ปล่อยวางเถอะ นอนดูโทรทัศน์เล่นๆ ดีกว่า....

ก็ออกรถมาเพื่อจะไปทอดผ้าป่าวัดคูขุด ซึ่งเป็นบ้านเดิมของผู้เขียน พอรถเลี้ยวเข้าหัวถนนคูขุด คนขับรถก็ถามว่า "โทรศัพท์ ท่านพบหรือยัง ? ".... ก็หาไม่เจอ ทั้งในย่ามในรถ เค้าก็จอดรถ ให้เค้าโทรไปยังมือถือของผู้เขียน บังเอิญหมดตัง โทรออกไม่ได้ จึงบอกว่า "งั้นไปวัดคูขุด ทำบุญก่อน ค่อยไปเติมเงินแล้วลองโทรดู.... " มาถึงวัดคูขุด เค้าเสร็จงานแล้ว ก็เจอท่านอาจารย์เจ้าอาวาส ก็ทำบุญตามธรรมเนียม นั่งคุยกัน คนขับก็บอกให้ลองเอาโทรศัพท์ท่านอาจารย์โทรตรวจสอบดู ปรากฎว่าสายว่่าง แต่ไม่มีคนรับสาย จึงลาท่านอาจารย์เพื่อจะกลับมาหาโทรศัพท์....

ผู้เขียนจำได้ว่า โทรครั้งสุดท้ายก็คือในรถ หลังออกจากวัดดอนเค็ด ดังนั้น มือถือน่าจะหล่นอยู่ในสวน ก็บอกคนขับรถว่า หาร้านเดิมเงินดู... ก็แล่นเลยมาถึงป้้มน้ำมันกระดังงา เข้าไปสอบถาม เค้าบอกว่า เติมได้ แต่ทรูมูฟ เติมไม่ได้ ... เค้าแนะนำให้ไปซื้อบัตรที่ร้านของชำติดกับปั้มน้ำมัน ก็บอกคนขับว่า ชับไปเลย นั้นบ้านญาติ นามสกุลเดียวกัน... ปรากฎว่า บัตรเติมเงินของทรูมูฟหมดแล้ว ให้ลูกสาวเจ้าของร้านซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องโทรตรวจสอบดู สายก็ยังคงว่าง จึงชวนเธอว่ามาช่วยหามือถือในสวน บังเอิญพ่อของเธอเดินมาพอดี เธอจึงบอกว่าให้พ่อไปดีกว่า แล้วเธอก็บอกพ่อให้พามือถือส่วนตัวของท่านไปด้วย (แน่นอนเลย ยุคสมัยนี้ มือถือมีทุกคนก็ว่าได้)

ก็ชวนนั่งรถมาในสวนอีกครั้ง ก็กดมือถือ ฟังเสียงรับ พลางเดินบุกดงวัชพืชตามร่องรอยเดิม ปรากฎว่า เจอมือถือหล่นอยู่พงหญ้าใต้ต้นมะม่วง (ถ้าเป็นอาคีมีดิส คงจะตะโกนว่า ยูริก้า ยูริก้า ฉันพบแล้ว ฉันพบแล้ว) ก็กลับมาพร้อมน้าชาย ส่งท่านที่บ้าน สนทนาปรับสุขปรับทุกข์กันนิดหน่อย ก็ลากลับ....

ในมือถือผู้เขียน ไม่กิ่วันก่อน เคยนั่งนับเล่นๆ มีรายชื่ออยู่ 275 รายชื่อ เดียวนี้ อาจเกือบสามร้อยก็ว่าได้ ถ้าหายไปอีก ผู้เขียนคงยุ่งยากไปอีกพักหนึ่งกว่าจะปรับตัวได้....

ปีที่แล้ว โน้ตบุคหายไป ก็ยุ่งยากอยู่นานกว่าจะปรับสภาพได้ เพราะอะไรหลายๆ อย่างก็อยู่ในโน้ตบุค... มือถือเคยหายไปเครื่องหนึ่ง ก็พอรับรู้สภาพความยุ่งยาก แต่ตอนนั้นยังไม่เป็นสมภารเต็มตัว จึงไม่ยุ่งยากสักเท่าไหร่... ครั้งนี้ โชคดีที่ไม่หาย ถ้ามือถือหายไปครั้งนี้ ก็คงจะรู้ว่า "มือถือนั้น สำคัญไฉน ?"

หมายเลขบันทึก: 536450เขียนเมื่อ 19 พฤษภาคม 2013 17:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 พฤษภาคม 2013 17:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

นมัสการด้วยความเคารพครับ

                              มือถือของพระคุณหาพบครับ   แสดงถึงความพยามและไม่คิดว่าจะสูญ  แต่ถ้าเป็นของโยม(ผม)น่าจะไม่มีทางพบ เพราะเดาว่าหล่นตรงนั่น ตรงโน่น  พอไม่พบก็หมดความพยายาม  ขอบพระคุณพระคุณท่านมากครับที่นำมาแบ่งปันครับ

ใช่ค่ะพระอาจารย์ แต่ก่อนโยมไม่มีมือถือ จำได้ทุกเบอร์ เดี๋ยวนี้เมมไว้อย่างเดียว ถ้าหายแล้วไม่ได้จดไว้ ก็คงวุ่นวายค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท