กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ “พระบิดาแห่งกองทัพเรือไทย” “ข่าวการสิ้นพระชนม์ และเรื่องราวที่หาดทรายรีเมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๖๖”


  • กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ประสูติเมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๒๓ เป็นพระโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเจ้าจอมมารดาโหมด มีพระนามเดิมว่า "พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์" พระองค์ได้รับการยกย่องให้เป็น “พระบิดาแห่งกองทัพเรือไทย” ได้ทรงศึกษาวิชาการเดินเรือจากราชนาวีอังกฤษ และทรงเป็นนักเรียนนายเรือคนแรกของกองทัพไทย เมื่อสำเร็จการศึกษาก็ทรงเข้ารับราชการทหารในกองทัพเรือ พระองค์ทรงมีส่วนร่วมในการวางรากฐานกองทัพเรือให้มั่นคง โดยมีส่วนร่วมในการก่อตั้งโรงเรียนนายเรือที่พระราชวังเดิมและการสร้างฐานทัพเรือที่ตำบลสัตหีบ ทรงนำนักเรียนนายเรือและนักเรียนนายช่างกลออกฝึกภาคทะเลไปยังเกาะสิงคโปร์และเมืองปัตตาเวียซึ่งเป็นการ “อวดธง” และการฝึกภาคสนามครั้งแรกของนักเรียนนายเรือสยาม เป็นต้น ในการรับราชการและฝึกสอนทหารเรือพระองค์ทรงมีความเป็นกันเองกับผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชา ไม่ถือพระองค์ว่าเป็นเจ้านาย ทรงให้ทหารเรือเรียกท่านว่า “เสด็จเตี่ย” นอกจากนี้ยังทรงศึกษาวิชาแพทย์แผนไทยและจีน ได้ช่วยรักษาชาวบ้านที่เจ็บป่วยโดยไม่คิดมูลค่าจนได้รับสมญานามว่า “หมอพร” และทรงสนพระทัยเกี่ยวกับไสยศาตร์โดยเป็นศิษย์ของหลวงปู่ศุข แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า
  • ในปี พ.ศ.๒๔๖๖ พระองค์ท่านกราบบังคมลาออกจากราชการทหารเรือ เนื่องด้วยประชวรด้วยพระโรคภายใน แล้วจึงเสด็จไปประทับที่บริเวณหาดทรายรี อำเภอเมืองชุมพร มีเรือหลวงเจนทะเลเป็นพาหนะ โดยตั้งพระทัยว่าจะดำเนินชีวิตแบบชาวบ้าน ได้ทรงสร้างบ้านซึ่งเป็นกระต๊อบหลังคามุงจากไว้เป็นที่ประทับ ในช่วงเวลาดังกล่าวเจ้าจอมมารดาโหมด หม่อมเจ้ารัศมีสุริยัน สุริยง และหม่อมเจ้าหญิงสุริยนันทนา สุริยง เสด็จไปเยี่ยมพระองค์ท่านที่หาดทรายรี ขณะที่ประทับอยู่ที่หาดทรายรีพระองค์ประชวรด้วยพระโรคไข้หวัดใหญ่เป็นเวลา ๓ วัน และได้สิ้นพระชมน์ในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๖๖ เมื่อเวลา ๑๑ นาฬิกา ๔๐ นาที มีพระชันษา ๔๔ ปี ในวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ก็ได้เชิญพระศพเสด็จกลับโดยเรือหลวงเจนทะเลไปกรุงเทพมหานครและเปลี่ยนเรือเชิญพระศพลงเรือพระร่วงที่บางนา เรือล่องมาตามแม่น้ำเจ้าพระยาทอดอยู่หน้าวัดราชาธิวาส ได้เชิญพระศพขึ้นรถพยาบาลของสภากาชาดสยามไปสู่วังนางเลิ้งซึ่งเป็นวังของท่าน โดยมีพระราชพิธีบำเพ็ญกุศล ๑๐๐ วัน เมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๖๖ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ โปรดเกล้าฯ พระราชทานเพลิงพระศพ ณ พระเมรุสนามหลวง 
  • ข่าวสิ้นพระชนม์ของกรมหลวงชุมพรฯ ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับวันที่ ๒๗ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๖๖ เล่ม ๔๐ หน้า ๔๖๑ – ๕๖๒ และเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่หาดทรายรีได้ถูกบอกเล่าโดย“ท่านหญิงน้อย” หรือ “หม่อมเจ้าหญิงสุริยนันทนา สุริยง” พระนัดดาของกรมหลวงชุมพรฯ ซึ่งได้เสด็จไปเยี่ยม “เสด็จลุง” ที่หาดทรายรีในครั้งนั้น ความว่า

“คุณย่าเอาเรือไปจอดอยู่ประมาณ ๑ อาทิตย์ ท่านอยู่ในเรือตลอดไม่ได้ขึ้นบก กะว่าเมื่อเลยไปสงขลาแล้วจะกลับมาแวะที่ชุมพรอีก ก่อนที่จะออกเรือไปสงขลาเพียงวันเดียว ตกกลางคืนชาวบ้านเอาหนังตะลุงมาเล่นถวายเสด็จในกรมฯ อากาศตอนนั้นพอตกค่ำก็เย็นยะเยือก เสด็จลุงประทับบนเก้าอี้ มีผ้าคลุมพระชงค์ ทั้งๆที่ท่านไม่ค่อยทรงสบาย ประชวรหวัดอยู่บ้างแล้ว ตอนนั้นทรงฉลองพระองค์เสื้อกุยเฮง กางเกงแรพปักลิ้ม มักจะประทับบนเก้าอี้ คุยเล่นกับเด็กๆ ไม่เห็นท่านดำเนินไปไหนมาไหนเลย ในคืนวันนั้นด้วยความที่ท่านเกรงใจในความหวังดีของชาวบ้าน จึงต้องแข็งพระทัยทอดพระเนตรอยู่ทั้งๆ ที่ต้องตากน้ำค้างด้วย ตกดึกมีอาการมากขึ้นต้องให้คนขี่ม้าไปซื้อยาที่ตลาด กว่าจะไปถึง กว่าจะกลับมาอาการก็ทรุดหนัก ต่อมามีหมอจากกรุงเทพมาตรวจบอกว่าท่านปอดบวม หาซื้อยาที่ต้องการมาไม่ได้ ตอนที่ท่านเสด็จไปหาดทรายรีคราวนั้นก็ไม่ได้เตรียมการอะไรมากมายเลย เพราะกะว่าจะต้องกลับไปอีกครั้ง

  ตอนดึกได้ยินเสียงคุณย่าร้องไห้ จึงทราบว่าเสด็จลุงกรมหลวงฯ สิ้นพระชนม์เสียแล้ว เด็กๆ เลยร้องไห้ตามได้วย ได้นำพระศพขึ้นบนเรือเจนทะเล และส่งโทรเลขจากชุมพรถึงกองทัพเรือที่กรุงเทพ แล้วเรือเจนทะเลก็แล่นเข้ากรุงเทพและเมื่อกองทัพเรือส่งเรือพระร่วงมารับพระศพ จึงอัญเชิญพระศพขึ้นเรือพระร่วงที่บริเวณบางนาในตอนก่อนเช้ามืดของวันนั้น การอัญเชิญพระศพจากเรือลำหนึ่งไปยังเรืออีกลำหนึ่งค่อนข้างยากลำบากเพราะวันนั้นคลื่นลมแรง พระองค์ท่านอยู่ในท่าเอน ทหารเรืออัญเชิญพระศพส่งต่อกันไปนำไปไว้ที่บริเวณแท่นปืนใหญ่ ท่านหญิงใหญ่นั่งเฝ้าเสด็จในกรมฯ ตลอดเวลา คอยซับน้ำมูกที่ไหล เรือพระร่วงนำพระศพมาขึ้นที่ท่าวาสุกรี และอัญเชิญต่อไปยังวังนางเลิ้ง ส่วนเรือเจนทะเลนั้นแล่นตามเรือพระร่วงเข้ามา เป็นอันว่าคุณย่าไม่ได้ไปเยี่ยมญาติที่จังหวัดสงขลา เพราะเสด็จลุงกรมหลวงชุมพรฯ มาสิ้นพระชนม์เสียก่อน[1]

เรือหลวงเจนทะเล
(ภาพจาก www.navy.mi.th)



พระโกษฐ์กุดั่นน้อย
 (ภาพจาก www.navy.mi.th)



พระราชทานเพลิงศพ ณ พระเมรุสนามหลวง เมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๖๖
(ภาพจาก www.navy.com)



เอกสารอ้างอิง
- พลเรือตรี กรีฑา พรรธนะแพทย์ "หาดทรายรีในความทรงจำของท่านหญิงน้อย” ใน นิตยสารเทิดพระเกียรติ พระประวัติอันยิ่งใหญ่กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์(ไม่ระบุสถานที่และปีที่พิมพ์) อ้างมาจาก เกร็ดพระประวัติ

พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ อนุสรณ์วันพระราชทานเพลิงศพท่านหญิงจารุพัตรา อาภากร ณ เมรุวัดธาตุทอง วันพุทธที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๑๖.วงศ์เสงี่ยมการพิมพ์: กรุงเทพ, ๒๕๑๖.

- http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2466/D/561.PDF
 - http://www.navy.mi.th/royal/Abhakara/abhakaras_resume.htm




  [1] หม่อมเจ้าหญิงสุริยนันทนา สุริยง ประทานสัมภาษณ์แก่ พลเรือตรี กรีฑา พรรธนะแพทย์ ศึกษาเพิ่มเติมใน พลเรือตรี กรีฑา พรรธนะแพทย์ “หาดทรายรีในความทรงจำของท่านหญิงน้อย” ใน นิตยสารเทิดพระเกียรติ พระประวัติอันยิ่งใหญ๋ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์


หมายเลขบันทึก: 536366เขียนเมื่อ 18 พฤษภาคม 2013 20:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม 2013 20:23 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ชอบ "ประวัติศาสตร์" ครับ

ขอบคุณมากครับ ;)...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท