สวยแล้วมีสมองอีกด้วย

   สายนี้หลังจากทอดปลาทูและจิ้งจั้งเสร็จแล้ว จึงมานั่งดูรายการโทรทัศน์ เพื่อรอให้ข้าวต้มสุก ผมเปิดไปที่ช่อง ๕ เป็นการสัมภาษณ์สาวประเภทสองที่รางวัลชนะเลิศมาจำนวน ๓ ท่าน เดิมที พอเห็นปุ๊ป ก็นึกว่าเป็นผู้หญิง ทำท่าจะเปลี่ยนช่อง แต่พอดูไปปรากฎว่า ชายปลอม จึงดูต่อ โอ้โห หน้าตาดี อ่อนหวาน มากกว่าพิธีกรสาวเสียอีก ตอนหนึ่ง พิธีกรสาวได้ถามว่า เรียนจบอะไร ชาย-สาวอันดับหนึ่งตอบว่า จบปริญญาตรี ศิลปศาสตร์ ภาษาญี่ปุ่น พิธีกรสาวทำตาโตพร้อมกับ "โอ้โห" ไหนๆ ลองพูดภาษาญี่ปุ่นให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ ชาย-สาวอันดับหนึ่งไม่รอช้า เธอพูดเป็นภาษาญี่ปุ่น ผมฟังออกคำเดียวคือ "สมุทรปราการ" (ฮา) เมื่อเธอพูดจบ พิธีกรสาวเอ่ย ขึ้นว่า "โอ้โห สาวๆเดี๋ยวนี้สวยแล้วมีสมองอีกด้วย"

   ผมหัวเราะในใจ พร้อมกับคิดว่า บางทีการที่เราจะพูดอะไรนี่ ต้องตรองข้อความที่พูดให้ดี มิฉะนั้นจะมีปัญหาในข้อความที่พูดกับความหมาย ซึ่งผมก็เป็นประเภทบ้าคิด เพ้อฝัน ประมาณนั้น ผมหัวเราะในใจเพราะอะไร เพราะข้อความนั้นมีความหมายที่ไม่ได้พูดไว้คืออะไร "สาวๆเดี๋ยวนี้สวยแล้วมีสมองอีกด้วย" ซึ่งอาจตีเป็นข้อความที่ไม่มีว่า

• สาวๆสมัยก่อนไม่สวยและไม่มีสมอง
  
• สาวๆสมัยก่อนไม่สวยแต่มีสมอง
• สาวๆสมัยก่อนสวยแต่ไม่มีสมอง

  และทำให้คิดอีกว่า คำว่า สาวๆ เป็นคำที่แยกออกมาจากคู่คำคือ หนุ่มๆ ซึ่งทั้งสาวหนุ่มรวมกันเป็นคนหรือมนุษย์ ข้อความนั้นเป็นการแยกเพศออกจากหนุ่มหรือชาย 

  คราวนี้ ข้อความหนึ่งที่น่าสดุ้งก็คือ "มีสมอง" กับ "ไม่มีสมอง" อาจหมิ่นเหม่กับสิทธิสตรีหรือไม่ หากสาวๆบางคนคิดมาก อาจรู้สึุกขัดเคืองที่หาว่าเราเพิ่งมีสมอง เนื่องจากเรามีสมองมาตั้งแต่เกิดแล้วตลอดถึงบรรพกาล อย่างไรก็ตาม  จากข้อความว่า "สาวๆเดี๋ยวนี้สวยแล้วมีสมองอีกด้วย" นั้น ผู้พูดกำลังมองผู้ที่เรากล่าวถึงในลักษณะใด หมายถึง มองเขาเป็นตัวอะไร

   หมายเหตุ ; การวิเคราะห์ข้อความและหาความหมายเป็นงานทางปรัชญาภาษา ดังนั้น โปรดใช้วิจารณญาณ