วิพากษ์ผลของโครงการรับจำนำข้าว
นิตยสาร Bloomberg Businessweek ฉบับวันที่ ๒๒ - ๒๘ เม.ย. ๕๖ ลงบทความ Thailand’s Farmer-Friendly Policy Blows Up ผู้เขียนเล่าว่าเวลานี้รัฐบาลไทยมีข้าวเก็บอยู่ ๑๘ ล้านตัน และ รมต. พาณิชย์ บุญทรง บอกเมื่อวันที่ ๕ เม.ย. ๕๖ ว่าปีนี้รัฐบาลจะขายข้าว ๗ ล้านตัน
ข้าวที่เก็บไว้เกิน ๑ ปี จะเสียหายจากการเก็บ
รัฐบาลไทยพยายามขายข้าวแบบ G to G ซึ่งจะทำให้ปกปิดราคาเป็นความลับ เมื่อวันที่ ๑๕ เม.ย. ๕๖ รมต. พาณิชย์ของ ไอวอรี โคสต์ บอกว่า รัฐบาล ไอวอรี โคสต์ ซื้อข้าวไทยจำนวนหนึ่งในราคาที่ “competitive and stable” แต่เมื่อข้าวงวดแรก ๓๘,๕๐๐ ตันไปถึง พบว่าต้องทิ้งไป ๗,๖๐๐ ตัน เพราะมีปัญหาคุณภาพ
ปีนี้บริษัท Swiss Agri-Trading ซื้อข้าวไทยเพียง ๓๐,๐๐๐ ตัน โดยที่ก่อนปี ๒๕๕๔ ซื้อ ๒๐๐,๐๐๐ ตัน
ในปี ๒๕๕๕ การส่งออกข้าวของประเทศไทยลดลง ๓๗% และรัฐบาลไทยต้องขาดทุน ๘๐,๐๐๐ ล้านบาทจากการรับจำนำข้าว
วิจารณ์ พานิช
๒๘ เม.ย. ๕๖
นี่ไม่รวมความหวาดวิตกเกี่ยวกับข่าวที่รัฐนำข้าวด้อยคุณภาพ (ขึ้นรา) มาขายให้บริษัทใหญ่บางแห่ง แล้วนำไปปรับแต่งคุณภาพ (ขัดสี) แต่เชื้อราหรือสิ่งที่น่าจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนยังปนเปื้อนอยู่ จากนั้นก็นำมาบรรจุถุงขายตามท้องตลาด ถ้าข่าวมีมีมูลความจริง เรากำลังแลกสุขภาพของประชาชน และเงินที่จะต้องจ่ายไปกับการรักษาสุขภาพประชาชนอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง เพราะไม่มีทางที่คนซื้อข้าวแกงกินจะรู้ว่าข้าวชุดไหนมีคุณภาพหรือด้อยคุณภาพอย่างไร