"หากมีความเหนื่อยล้าเกิดขึ้นคราใดให้น้ำแข็งช่วยผ่อนคลายได้นะคะ..ลองดู อรุณสวัสดิ์รับวันสงกรานต์ 13/04/2556 เล่นน้ำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ให้หยดน้ำที่สาดใส่ไปบรรเทาร้อนต่อผู้ที่ได้่รับนะคะ มีความสุขทุกคนค่ะ"
นี่คือประโยคที่ถูกใจแล้วนำมาใช้ทักทายกับเพื่อนบน Facebook ของเช้าที่ 13 เมษายน 2556 ด้วยคิดว่าอากาศร้อนอย่าให้คนร้อนตาม เล่นน้ำสาดน้ำกันตามประเพณีให้มีวัฒนธรรมดั้งเดิมอะลุ่มละล่วยกัน
แต่...ที่ไหนได้ สงกรานต์ปีนี้ฝนพรำตั้งแต่หัวรุ่ง และก็ย้ำพรำเรื่อยๆ ตลอดเช้ายันเที่ยง หลายคนเสี่ยงพาครอบครัวไปเที่ยว ทำกิจกรรมต่างๆด้วยกัน แต่ฝนก็หาได้เป็นใจไม่ คงตกเรื่อยไปให้คนเล่นฝนแทนโดนสาดน้ำ
"ธรรมชาติเป็นไปแล้ว...วัฒนธรรมประเพณีที่มีธรรมชาติเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดขึ้นมาและสืบทอดเจตนาส่งต่อสู่ลูกหลานอาจจะต้องเปิดกว้างเรื่องของกาลเวลา เพราะเจตนาของโลกและคนสับสนไม่ตรงกันแล้ว...คนเจตนาทำให้โลกเปลี่ยน"
เป็นการย้ำให้ทุกคนได้คิดว่าไม่มีใครลิขิตธรรมชาติได้ ต่อไปเดือนเมษายนอาจจะเป็นปีที่คนหันมาลอยกระทงแทนสงกรานต์ก็เป็นได้ อุณหภูมิโลกเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ตอนนี้เราสังเกตุด้วยตัวเองได้แล้วจากธรรมชาติรอบตัว และฤดูกาล มันไม่ถึงกับเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือซะทีเดียว แต่รับรู้ได้ว่าใช่จริงๆ...ไม่ตลกแล้วล่ะ
เพราะฉะนั้นปัญหาเหล่านี้ โลกและชีวิตต้องเพิ่มความระมัดระวังในการอยู่ด้วยกันให้มากกว่านี้ อย่ารอให้เป็นไปตามยถากรรม ทุกเหตุการณ์มีสมมุติฐานการเกิดและดับทั้งนั้น เราหยุดไม่ได้แต่ปรับให้ร้ายผ่อนคลาย ยืดขยายหายนะให้นานที่สุด...เท่าที่ทนได้ ไม่รู้ว่าโลกหรือคนที่จะทนกว่ากัน
ไม่มีความเห็น