ความเครียดคืออาการไม่ปกติของคนเรา แบ่งออกเป็น 3 คือ ความเครียดทางกาย ความเครียดทางสมองและความเครียดทางจิตใจ ความเครียดทางกาย อาจเกิดจากร่างกายใช้พลังงานมากไป ไม่ได้พักผ่อนเพียงพอ วิธีแก้ต้องมีการพักผ่อนเพียงพอและใช้พลังงานแต่พอดี
ความเครียดทางสมองอาจเกิดจากคิดมาก กังวลมาก กลุ้มใจมาก วิธีแก้ต้องทำสมาธิ เมื่อจิตเป็นสมาธิแล้วจะเป็นการหยุดใช้สมองชั่วคราวหรือผ่อนคลายการทำงานของสมอง
การที่จิตเป็นสมาธิได้อาจเพราะเป็นคนมีศีลดี เป็นคนมีความตั้งใจทำงานแต่ละอย่างสำเร็จไม่มีดินพอกหางหมู เป็นคนมีเมตตาธรรม เป็นคนคิดทางบวก เป็นคนรักที่จะเดินทางสายกลาง เป็นคนมีศีลมีธรรมอย่างแท้จริง
สำหรับความเครียดทางจิตใจ เพราะจิตมีกิเลสและมีความทุกข์ วิธีแก้คือคนเราทำอะไรไม่ได้นอกจากเอาสติปัญญาตามรู้ให้เท่าทัน เมื่อรู้ทันสภาพนั้นมันค่อยจางหายไปตามกฎไตรลักษณ์ การมีสติเฝ้าระวังไม่ให้กิเลสเข้ามาเติมเต็มในห้องของจิตได้โดยอาศัยปัญญาตรวจตาพิจารณาดูป้องกันตลอดเวลาเพื่อรักษาจิตเดิมแท้ให้ประภัสสรอยู่อย่างนั้นแลเขาเรียกว่าเป็นผู้ประเสริฐ และถ้าใครทำได้ก็เป็นผู้พ้นแล้วจากบ่วงแห่งมาร ก็กลายเป็นผู้มีความสุขในการดำเนินชีวิต
สำหรับความสุขของคนเรามี 2 คือ สุขสนุกสนานกับสุขสงบเย็น
ความสุขสนุกสนานได้มาจากความเพลิดเพลินในวัตถุกาม เป็นความสุขที่ต้องเหนื่อยจากการช่วงชิงและไม่เที่ยงแท้ถาวร ความสุขสงบเย็นเพราะจิตไม่ไปหลงใหลตามอำนาจกิเลส ด้วยการมีสติรู้ทันปัญญารู้วิธีป้องกันแก้ไข จึงเป็นความสุขไม่กระวนกระวาย ถ้าเป็นความสุขอย่างยิ่ง หรือจิตว่างอย่างยิ่งก็ตรงกับพุทธสุภาษิตว่า...นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ แปลว่า...นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง
แง่คิดสำหรับคนเราควรอยู่ด้วยความมีจิตว่าง เพราะถ้าเผลอมีความเป็นอยู่ด้วยจิตวุ่นทีไร จิตใจก็เป็นทุกข์เดือดร้อนอยู่ร่ำไปนั้นแล.
ขอบคุณบทความดีๆ ค่ะ
สวัสดีครับ คุณ tuknarak
เป็นเรื่องใกล้ตัวนะครับ