สวัสดีค่ะ สำหรับวันนี้ขอกล่าวถึงการเปรียบเทียบหลักธรรมาภิบาลในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน ว่ามีความเหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไร ดังนี้
เปรียบเทียหลักธรรมาภิบาลในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน
ความเหมือน
การบริหารและการจัดการในภาครัฐและภาคเอกชนได้มีการให้ความสำคัญกับระบบคุณธรรมและจริยธรรม เนื่องจากการบริหารและการจัดการทั้งในภาครัฐและภาคเอกชนประสบกับภาวะวิกฤติอันเกิดจากการทุจริตที่ระบาดออกไปอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ความไม่รับผิดชอบต่อสังคมหรือส่วนรวม คำนึงแต่ประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องอันเป็น การบริหารจัดการที่ขาดคุณธรรมและจริยธรรม
หลักธรรมาภิบาลที่ใช้กับภาคธุรกิจเอกชน (Corporate Governance) กับหลักธรรมาภิบาลที่ใช้กับภาครัฐ (Public
Governance) เป็นหลักเดียวกัน เพราะมีเป้าหมายเหมือนกัน คือ ความมั่นคงและความยั่งยืนของบริษัทหรือของประเทศ
ความแตกต่าง
"ธรรมาภิบาล"ในองค์กรภาครัฐ แตกต่างจากองค์กรภาคเอกชนโดยสิ้นเชิงในด้านของตัวหลักของธรรมาภิบาล เพราะในองค์กรภาคเอกชนนั้นตัวหลักของธรรมภิบาล (Good Governance) มีกลไกเชิงระบบหรือเชิงองค์กรชัดเจนคือ บอร์ด (Board of Directors, Board of Trustees) หรือคณะกรรมการนโยบาย ซึ่งเป็นคนอีกชุดหนึ่งที่เป็นคนน่าเชื่อถือ และไม่ได้ปฏิบัติงานในฝ่ายจัดการหรือฝ่ายปฏิบัติการขององค์กร คือ ไม่มีหน้าที่ตัดสินใจในงานประจำ ระบบธรรมาภิบาลในองค์กรภาคเอกชนมีโครงสร้างและรูปแบบที่ชัดเจน แต่ธรรมาภิบาลในองค์ภาครัฐนั้น เป็นคนละแบบเป็นธรรมาภิบาลแบบดำเนินการกันเองในกลุ่มผู้ปฏิบัติ และควบคุมดูแลโดยผู้บริหารระดับสูง
ธรรมาภิบาลภาครัฐตั้งอยู่บนฐานของนิติธรรมหรือหลักการปกครองโดยกฎหมาย(the rule of law) องค์กรสาธารณะต่าง ๆ เกิดขึ้นเพื่อทำหน้าที่บริหารการนำกฏหมายสู่การปฏิบัติ ดังนั้นองค์ประกอบต่างๆขององค์กรไม่ว่าจะเป็น จุดมุ่งหมาย โครงสร้าง อัตรากำลังคน และงบประมาณมีผลมาจากอำนาจทางกฏมายธรรมาภิบาลภาครัฐจึงผูกพันกับกฎหมายและกระบวนการกาหนดกฏหมาย โดยเฉพาะ กฏหมายสูงสุดของสังคมคือรัฐธรรมนูญแต่ธรรมาภิบาลขององค์กรภาคเอกชนตั้งอยู่บนฐานของความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรและตลาด
สรุป
ธรรมาภิบาลเป็นองค์ประกอบสำคัญของทุกองค์กรไม่ว่าภาครัฐหรือเอกชน เนื่องจาก " ธรรมาภิบาล" เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติต่อกันในทุกองค์กรไม่ว่าจะเป็นภาครัฐภาคเอกชนหรือองค์กรอิสระ การปฏิบัติต่อกันระหว่างประเทศ โดยมีหลักการที่สำคัญ คือ ความโปร่งใส(Transparency) อธิบายได้(accountability)และความรับผิดชอบ (responsibility) องค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องธรรมาภิบาลมาตั้งแต่ต้น ศตวรรษที่ 20 ไม่ว่าจะเป็น องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD), ธนาคารโลก (the World Bank), UNDP, UNCTAD, UNIDO and ILO
การที่ภาครัฐหรือภาคเอกชนจะมี `ธรรมาภิบาล´ นั้น นอกจากต้องปฎิบัติตามกฎหมายแล้ว ต้องเอื้อประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายอย่างเหมาะสมโดยไม่ไปเบียดเบียนฝ่ายใด ภาครัฐหรือภาคเอกชนที่มี ธรรมาภิบาล ย่อมไม่เอาเปรียบหุ้นส่วน ไม่ขูดรีดแรงงานลูกจ้างไม่ฉ้อโกงลูกค้า ไม่เอาเปรียบคู่ค้า ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมหรือทำร้ายชุมชนโดยรอบที่ตั้งของภาครัฐหรือภาคเอกชนด้วยการก่อมลพิษ
ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ที่เพิ่มเติมให้ค่ะ