อ.ดร.วรกาญจน์
กฏหมาย,การศึกษา,บัญชี,ศาสนา อ.ดร.วรกาญจน์ สุขสดเขียว

แกงหัวตาลสุดยอดของความอร่อย ในวันสงกรานต์นี้ ครับ


วันนี้ผมขอนำเสนอ "แกงหัวตาลสุดอร่อยครับ" สมาชิกรายท่านคงไม่เคยได้ยิน หรือรู้ว่า หัวตาล หรือ ลูกของต้นตาลแถว ๆ เมืองเพชรบุรี ก็สามารถนำมาแกงได้นะครับ แต่ต้องใช้ลูกตาลที่ไม่สุกนะครับ โดย จะมีขายเป็นช่อ ยกชุดมาเลยครับ ถ้าแก่แกงไม่ได้ครับ โดยนำมาแกงกับเนื้อปลาช่อนย่างนะครับ แล้วมีกลิ่นหอมกระชาย คล้าย ๆ น้ำยาที่ใส่ขนมจีนครับ ลองมาดูวิธีการทำตามแบบโบราณนะครับ

ขั้นตอนการเตรียมเครื่องแกงครับ

1. ลูกตาลที่ติดกันเป็นเครือที่ไม่แก่นะครับ นำมาหั่นด้านข้างออก ต้องใช้มีดที่คมและขนาดใหญ่หน่อยนะครับ แล้วปาดตรงส่วนหัวที่แข็งออก ตรงส่วนหัวคือ ขั้วที่ต่อเชื่อมจากทะลาย คือ ช่อของลูกตาลครับ ฝานส่วนนี้เป็นแผ่น ๆ บาง แล้วนำซอยเป็นชิ้นยาว ขนาดคล้าย ๆ ซอยลูกมะม่วง แล้วแช่ลงในน้ำที่ใส่ เกลือครึ่งช้อนชา และน้ำมะขามเปียกประมาณ 1 ช้อนโต๊ะครับ เพื่อไม่ให้รสขื่นมากไปครับ (แกงเนื้อลูกตาลประมาณครึ่งกิโลกรัม ครับ)

2. เนื้อปลาช่อนย่าง ที่แกะแล้วประมาณ ครึ่งกิโลกรัมครับ

3. น้ำกะทิประมาณ 1 กิโลกรัม หัวหางรวมกันได้ครับ (หัวกระทิ หางกระทิ)

3. เครื่องแกงเตรียมดังนี้ครับ      

ตะไคร้ 2 ต้นใหญ่ ตัดใบออกล้างน้ำให้เกลี้ยง แล้วหั่นเป็นแว่นๆ                                                             

กระชายขนาดใหญ่ประมาณ 7-8 ขูดผิวออกล้างน้ำให้เกลี้ยงแล้วหั่นเป็นแว่น

ปอกข่าแล้วล้างให้เกลี้ยงใช้ประมาณ 3 แว่นใหญ่

ปอกผิวมะกรูด 1 หัว

ปอกกระเทียมไทย 8 หัว

ปอกหัวหอมแดง 3 หัว

พริกใหญ่แห้งแดง 5-6 เม็ด(แช่น้ำ) แล้วเด็ดครึ่งนะครับ

กระปิหอมอย่างดี 1 ช้อนโต๊ะ 

พริกขี้หนูสวนล้างน้ำเด็ดก้านออก 80 เม็ด (ชอบเผ็ดน้อยใส่น้อย)

นำเครื่องแกงที่เตรียมไว้ปั่นโดยเครื่องปั่นผลไม้กับน้ำกระทิพอประมาณให้ละเอียดดีครับ

เครื่องปรุงมีดังนี้ครับ

น้ำมะขามเปียกประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลปี๊บอย่างดี 1-3 ช้อนโต๊ะ  น้ำปลาอย่างดี 2-3 ช้อนโต๊ะ  

ขั้นลงมือแกงแล้วครับ

นำเครื่องแกงที่ปั่นละเอียดดีแล้วใส่หม้อแกงเบอร์ 38 ก็คงพอครับ แล้วเคี่ยวกับเนื้อตาลที่เตรียมไว้ให้หอม และให้นิ่มพอสมควร แล้วใส่เนื้อปลาช่อนย่าง ตามด้วยใส่น้ำมะขากเปียก น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ให้ได้รสชาดที่ชอบ ออกสามรสครับ  รับรองเป็นแกงหัวตาลสุดยอดของความอร่อย ทานกับปลาหมึกไข่แห้งทอด หรือไข่เจียว คู่พริกน้ำปลา ข้าวสวยร้อน ๆ ตรงตามตำหรับพ่อช้อยจอมรำเปี๊ยบเลยครับ

วันนี้ ขอจบอาหารไทยสูตรโบราณ แท้ ไว้เพียงเท่านี้นะครับ

สวัสดีครับ สุขสันต์วันสงกรานต์นะครับ

 

หมายเลขบันทึก: 531977เขียนเมื่อ 2 เมษายน 2013 17:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 เมษายน 2013 17:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เมนูนี้ คงต้องนำเสนอ ให้เป็นหนึ่งในอาหารหลาย ๆ อย่างช่วงสงกรานต์นี้แล้วหละ ไม่ได้ทานนานมาก

ขอบพระคุณค่ะที่แบ่งปัน

เมนูแนะนำค่ะ ยังไม่เคยทานเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท