เรื่องเล่าชาวชีววิทยา <๒> อาชีพที่อายุสั้น
ย้อนหลังไปหลายวัน ผมได้อ่านเรื่องราวในนิตยสารใกล้หมอ ฉบับ (ถ้าจำไม่ผิด) สิงหาคม 2548 มีคำถามทำนองว่า"ทำอาชีพอะไร มีอายุเฉลี่ยสั้นที่สุด"
- คำตอบที่ได้คือ "แพทย์" ครับ
- เป็นผลงานวิจัยของแพทย์อีกเช่นกัน
- โดยแพทย์หญิงมีอายุเฉลี่ยที่ 50 ปี
- และแพทย์ชายมีอายุเฉลี่ยที่ 55 ปี
- มีการพูดกันถึงสาเหตุ ซึ่งก็มีได้หลายสาเหตุ
- แต่ที่พูดกันถึงมากที่สุดคือสาเหตุที่จะเล่าต่อไปครับ
มีการพูดกันว่า อาชีพแพทย์ วันๆ หนึ่งต้องทำหน้าที่รักษาคนไข้ในโรงพยาบาล ส่วนมากคนที่มาพบแพทย์ก็จะมีความทุกข์ทางกายมาเล่าให้ฟัง
ในกรณีที่คนไข้มีอาการเรื้อรัง ก็จะต้องมาพบแพทย์เป็นประจำ รักษาไม่หายเสียที แพทย์จึงรู้สึกหดหู่ใจ เพราะว่าสัดส่วนที่คุณหมอ รักษาคนไข้หาย น้อยกว่ารักษาคนไข้ไม่หาย
แทบทุกวัน ร่างกายของคุณหมอจะหลั่ง "สารแห่งความเครียด" ออกมา
สารแห่งความเครียดนี้ ได้แก่ ฮอร์โมนที่หลั่งจากต่อมหมวกไต (adrenal gland) ได้แก่ Adrenaline และ Cortisol เป็นต้น
ฮอร์โมนพวกนี้อยู่ในกลุ่มที่ กดการทำงานของสมอง สารกลุ่มนี้จะทำหน้าที่
- ยับยั้งการส่งข้อมูลของแต่ละเซลล์สมอง
- ยับยั้งการเจริญเติบโตของสมองและใยประสาท
- ยับยั้งเส้นทางความจำทุกๆส่วน ทำให้คิดอะไรไม่ออก
- กระตุ้นให้หัวใจ ระบบไหลเวียนเลือด และร่างกายทำงานผิดปกติ
ฮอร์โมน Cortisol มีฤทธิ์คล้ายกับ
Adrenaline คือ ถ้าหลั่งออกมามากจะมีพิษต่อสมอง
เพราะเป็นสารที่เกี่ยวกับการตื่นเต้น ตกใจ การต่อสู้
รวมทั้งการตอบสนองต่อความเครียด
และถ้ามีมากเกินไป จะมีอันตรายต่อทั้งอารมณ์และร่างกาย รวมทั้งทำลายองค์ประกอบภายในของสมองอีกด้วย
ที่ผมนำมาเล่านี้ เป็นอุทาหรณ์ถึงการทำอาชีพอื่นๆ ด้วย คือ เราอย่าเครียดกับงานเกินไป ทำงานแบบสบายๆ แล้วทำตัวแบบที่ผมเล่าไว้ในบันทึก เรื่องเล่าชาวชีววิทยา : หลั่ง Endorphin (สารแห่งความสุข) วันละนิดจิตแจ่มใส
อ้างอิง http://www.iqeqdekthai.com/know/learn/learn17.htm
ความเห็น (5)
- ผมจะนำเรื่องนี้ไปพูดคุยในสำนักงานครับ
- เพื่อให้ทุกคนไม่เครียดกับงานเกินไป
ขอขอบคุณอาจารย์ Beeman...
- เรื่องที่อาจารย์เล่าให้ข้อคิดที่น่าสนใจมาก
- อ่านแล้วเห็นใจทุกท่านในสายสุขภาพ(สาธารณสุข อนามัย ผดุลครรภ์ ทันตแพทย์ แพทย์ พยาบาล เทคนิคการแพทย์ รังสีเทคนิค ผู้ช่วยเหลือคนไข้ พนักงานเปล คนงาน ฯลฯ) >
- ไม่ว่าท่านเหล่านี้จะหลั่งสารความเครียดชนิดใด(อะดรีนาลิน หรือสเตอรอยด์)มาก ล้วนแต่น่าเห็นใจทั้งนั้น...
อย่างไรก็ตาม... ข่าวดีก็มีครับ (คล้ายๆ กับว่า "ในวิกฤตย่อมมีโอกาส")
- ประมาณปี 2547 มีการให้ทุนวิจัยอายุขัยเฉลี่ยแพทย์ไทย + ปัจจัยเสี่ยงสุขภาพใหม่ ผลปรากฏดังนี้...
-
(1). หมอไทยอายุขัยเฉลี่ยมากกว่าคนไทย
(2). การศึกษาเดิมเก็บข้อมูลเฉพาะหมอที่ตายเร็ว ไม่ได้ติดตามหมอที่ตายช้า การคำนวณค่าเฉลี่ยจากหมอกลุ่มน้อยที่ตายเร็ว ไม่นำอายุขัยเฉลี่ยของหมอกลุ่มใหม่ที่ตายช้ามาคำนวณ ทำให้เกิดการประเมินผลผิดพลาดไป
(3). การศึกษานี้ดูจะสอดคล้องกับแนวโน้มอายุขัยหมอในสหราชอาณาจักร ซึ่งมีแนวโน้มจะอายุยืนกว่าประชากร เงื่อนไขที่สำคัญที่สุดคือ หมอสูบบุหรี่น้อยกว่าคนทั่วไป
ขออภัยที่ไม่มีต้นฉบับผลการวิจัย > เรียนเสนอให้อาจารย์ฝากหอสมุด มน.ค้นมาเล่าสู่กันฟัง
- ถ้าคนไทยปรารถนาความเป็นผู้มีอายุยืน >
(1). อย่าสูบบุหรี่ ถ้าสูบให้ลด ละ เลิกให้ได้
(2). อย่าอยู่ใกล้ หรืออยู่ในที่ที่มีคนสูบบุหรี่
(3). ควบคุมน้ำหนัก
(4). กินข้าวกล้อง
(5). กินผัก ผลไม้ให้ได้(อย่างน้อย)วันละ 5 สี 5 ทัพพี
(6). ไม่นอนดึกเกิน
(7). เดินอย่างน้อยรวมกันให้ได้วันละ 30 นาที หรือ 60 นาทีถ้าน้ำหนักเกิน + ออกกำลังกายแบบอื่นผสมผสานยิ่งดี
ขอให้อาจารย์และท่านผู้อ่านทุกท่านมีความสุข ความเจริญ > ว่างๆ นำเรื่องสนุกๆ / น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟังครับ...
- ข้อมูลของอาจารย์หมอวัลลภน่าสนใจครับ กับการวิจัยที่ได้ข้อมูลใหม่
- ผมก็สงสัยตัวเลขเหมือนกันว่า หมอที่อายุยืนก็มีมาก ส่วนมากที่รู้จักก็จะเกิน 60 ปีทั้งนั้น
- แต่ก็มีหมอที่เป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์เหมือนกันที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควร ด้วยอุบัติเหตุหรือฆาตกรรม
- สุดท้ายมาอยู่ที่เรื่องของการเก็บตัวอย่างหมอครับ ว่าเก็บกลุ่มไหนมากกว่ากัน....
- และถ้าใครตั้งความปรารถนา อยากมีอายุยืน ก็สามารถปฏิบัติตามที่ท่านอาจารย์หมอวัลลภแนะนำ นะครับ
รักสุขภาพ รักตัวเอง รักที่จะทำความดี
- ใช่แล้วครับ