วันก่อนได้คุยกับลูกซึ่งเขาเรียนอยู่นครสวรรค์ อยู่ชั้นมอสองแล้ว เราพูดถึงการเตรียมตัวสอบ การทำคะแนนสอบให้เต็มศักยภาพ ผมได้ชวนพูดชวนคุยไปเรื่อย ว่า...หนูว่าตัวหนูเองจะทำอย่างไรถึงจะสอบได้คะแนนสูงดังหวังน่ะ เขาตอบว่า ก็คงต้องเล่นให้น้อยๆ ลงไป หนูยอมรับว่าเทอมหนึ่งเทอมสองของมอสองนี่เล่นมากไปหน่อย
เขาตอบมาอย่างนี้ ผมเองก็ยังถามต่อว่าจะตั้งใจเรียนมากขึ้นๆ แล้วมันจะส่งผลให้มีคะแนนเพิ่มขึ้นจริงเหรอ เขาตอบว่า ใช่... แต่ผมไม่เชื่อ
ผมก็ให้เขาลองเล่ามาซิมีวิธีอย่างไร ทำอย่างไรบ้างว่ามา เขาก็เล่าว่าเขาก็เรียนปกติเลิกเรียนก็ไปเรียนพิเศษ ทานข้าว แล้วก็ทำการบ้าน ไม่เล่นไม่ดูการ์ตูน เมื่อเสร็จการบ้านก็ราว ห้าทุ่ม ไม่เกินห้าทุ่มครีง ก็นอนหลับ จากนั้นก็ตื่นแต่เช้าไปโรงเรียน 7.00 -7.30 น. ก็เรียนปกติค่ะพ่อแค่นี้ก็น่าจะโอเคนะ ผมก็พยักหน้า...
ตรงนี้ผมเริ่มเห็นแล้วล่ะว่า
แนวทางการปรับปรุงการเรียนของลูกอยู่ตรงไหน ผมรู้สึกมั่นใจมากๆกับสาเหตุของการเรียนตกของลูก
เพราะปกติที่เราอยู่ด้วยกันผมจะให้ลูกนอนสองทุ่มทุกวันอยู่ หยวนก็นิดหน่อยเท่านั้น
ด้วยว่าเขาโตแล้ว การบังคับนั้นไม่ได้ผลอยู่แล้วจะมีแรงต้าน
การปรับปรุงตัวเองที่เขาให้คำมั่นนั้นก็ยากต่อการปฏิบัติเพราะจากประสบการณ์ของผม
คิดว่าไม่มีใครขยันหรือเปลี่ยนแปลงตัวเองแบบมากมายหรอก ผมจึงเลือกแนวทางอื่นเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการดักจับความรู้ขณะเรียนแทน
โดยเชื่อว่าการพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยทำให้การดักจับประสบความสำเร็จ
ฉะนั้นลูกควรนอนให้มากขึ้น การเพิ่มเวลาพักผ่อนจะทำได้อย่างไร ผมก็ชวนกันค้นหา
สรุปเราก็พบว่าการปรับเปลี่ยนตารางการใช้เวลาในช่วงเย็นนี่แหละ น่าสนใจ อะไรที่ไม่สำคัญให้สลับไปทำในช่วงเช้า
ตามช่องว่างของกิจกรรมแทน เช่น เล่นเฟสบุ๊กในเวลาก่อนที่จะเคารพธงชาติ เวลาหลังรับประทานอาหารกลางวันก่อนเข้าเรียนภาคบ่าย
เป็นต้น และที่หนูคิดว่าเวลาที่แบ่งไปให้ในช่วงดังกล่าวนั้นดูน้อยไป อันนี้ต้องลองทำดูก่อน มนุษย์เรามีอะไรที่แปลกก็คือ มีการปรับตัวเข้ากับภาวะจำกัดได้ดี เมื่อได้ทำไปแล้วมันจะเพียงพอเอง
ในส่วนของการ์ตูน หรือละครก็ให้ดูเฉพาะเสาร์อาทิตย์ พวกงานการบ้านต่างๆ ของช่วงเย็นแนะนำให้เร่งทำก่อน เสร็จแล้วเวลาที่เหลือค่อยไปทำอย่างอื่นที่นอกเหนือไป และเข้านอนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ สามทุ่มก็ยังดีนะ เขาเองก็เห็นด้วย ผมมั่นใจว่าแค่นี้ก็จะทำให้ผลการเรียนดีขึ้นแล้ว ไม่ต้องปรับปรุงตัวขนานใหญ่อย่างที่ลูกตั้งใจ หนูก็สามารถคงระดับการเรียนดีที่สุดได้แล้วล่ะ
.... ค้นพบว่า.....การปรับเปลี่ยนตารางการใช้เวลาในช่วงเย็นนี่แหละ น่าสนใจ อะไรที่ไม่สำคัญให้สลับไปทำในช่วงเช้า ตามช่องว่างของกิจกรรมแทน .... "เป็นการทบทวนและถอกบทเรียนที่ดีของสมาชิกในครอบครัวที่ดีมากๆ" นะคะ .... ขอบคุณมากค่ะ .....
ผมก็อยากเล่ามุมมองให้พี่ๆ เพื่อนๆ ได้รับรู้ เผื่อมีประโยชน์น่ะครับ ขอบคุณครับพี่