ไม่ว่าจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไหน สิ่งจำเป็นอีกอย่างที่ขาดไม่ได้ก็คือเรื่องที่พักและอาหารการกิน ในการไปย่ำแดนคาสิโน ๕ วัน ๔ คืนในครั้งนี้ เรื่องที่พักนั้นพักโรงแรมที่เดียวตลอด ส่วนเรื่องอาหารนั้น อาหารเช้าก็รวมอยู่ในค่าที่พักอยู่แล้ว อาหารมื้ออื่น ๆ ท่านหัวหน้าคณะทัวร์ก็เตรียมจัดโปรแกรมไว้ให้เกือบครบทุกมื้อ จึงแทบไม่ได้หารับประทานเองเลย จากการสังเกตุราคาอาหารต่าง ๆ จากป้ายในเมนูในร้าน และ ตามหน้าร้านข้างถนนต่าง ๆ ก็รู้ว่า ค่าอาหารที่มาเก๊านั้นถ้าคิดเป็นเงินไทยจะแพงมาก ไม่ต่ำกว่า ๕-๑๐ เท่าของเมืองไทย
ตัวอย่างเช่น น้ำส้มคั้นหรือน้ำผลไม้อื่น ๆ จะราคาอยู่ระหว่าง ๑๒-๑๕ เหรียญต่อแก้ว พวกลูกชิ้นปิ้งก็ราคาไม้ละ ๑๒-๑๕ เหรียญเช่นเดียวกัน
ราคาอาหารในศูนย์อาหาร เดอะเวนิเชี่ยน อย่างบะหมี่น้ำ หรือ ผัดเส้นบะหมี่ อย่างที่บ้านเราเรียกว่า โซบะ ก็ราคาจานละ ๕๕-๖๕ เหรียญ น้ำเปล่าก็ขวดละ ๑๐ เหรียญ เป็นต้น
ดังนั้นโดยคิดง่าย ๆ คือให้คิดว่า ๑ เหรียญมาเก๊าหรือฮ่องกง เท่ากับ ๑ บาท ไทยก็จะทำให้สบายใจได้บ้าง ซึ่งที่จริงก็คือ ราคาเป็นประมาณ ๕ เท่าของที่เมืองไทยนั่นเอง
ขนมที่ขึ้นชื่อมากของมาเก๊าก็คือ ทาร์ตไข่ (Egg Tart) มีขายอยู่ตามจุดต่าง ๆ มากมาย ราคาอันละ ๑๒-๑๕ เหรียญ แล้วแต่เป็นของร้านไหน แต่ที่ขึ้นชื่อและเป็นของร้านเก่าแก่ต้นตำหรับของมาเก๊าก็คือของร้าน Lord Stow’s Bakery ซึ่งปัจจุบันก็จะมีร้านที่เป็นลักษณะร้านแฟนไชน์ จำนวนมาในมาเก๊า
การเตรียมตัวในการเดินทางท่องเที่ยวในมาเก๊าฮ่องกง จะเห็นว่า คนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะวัยรุ่น จะมีเป้ติดอยู่ด้านหลัง พร้อมขวดน้ำและของจำเป็นอื่น ๆ อย่างเช่นอาหารอยู่พร้อม เพื่อการประหยัดค่าใช้จ่าย....ซึ่งอาจจะต่างจากบ้านเรา ที่มักจะไปหาซื้อเอาจากที่ร้าน ในสถานที่ท่องเที่ยวมากกว่าจะเตรียมไป....