เรามารู้จักการรักษาสิวเสี้ยนด้วยตัวเราเองในแบบธรรมชาติกันเถอะ


            ปัญหาสิ้วเสี้ยนนับว่าเป็นปัญหาที่ใหญ่พอสมควรสำหรับหนุ่มๆ สาวๆ หนุ่มสาวส่วนใหญ่แล้วมักบีบหรือไม่ก็มักจะหาครีมที่มีส่วนผสมของการรักษาสิว บางคนใช้แล้วอาจจะดีขึ้น แต่บางคนใช้เเล้วก็เกิดอาการเเพ้  แล้วการที่เราบีบสิวนั้นยังทำให้เกิดรอยแผลเป็น คล้ำดำ ใบหน้าของเราเกิดรอยด่างดำ  เพราะในการบีบสิวมือของนั้นอาจจะสกปรกเมื่อบีบสิวแล้วยิ่งทำให้เกิดเป็นสิวมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นแล้ว เราลองมารักษาสิวด้วยวิธีธรรมชาติกันดีกว่า ผลกระทบจากการใช้   สมุนไพรธรรมชาติยังส่งผลกระทบในด้านอาการแพ้น้อยกว่าการใช้ยารักษาสิว

             คุณรู้หรือไม่?...... สมุนไพรในธรรมชาตินั้นมีประสิทธิภาพและมีประโยชน์อย่างมากในการรักษาสิวทุกชนิดไม่เพียงเฉพาะแต่การรักษาสิวเสี้ยนเท่านั้นนะคะ ข้อดีคือ วิธีการรักษาสิวด้วยสมุนไพรและธรรมชาติช่วยบำรุงผิวขอ'เราเอง เพราะในสมุนไพรนั้นล้วนมีวิตามินและสารอาหารที่จำเป็นต่อการช่วยบำรุงผิว และสมุนไพรยังสามารถหาได้ง่ายในครัวหรือในตู้เย็นของเราเอง  สำหรับสาวๆ หนุ่มๆที่กำลังประสบกับปัญหากวนใจของสิวเสี้ยน ดิฉันได้ไปอ่านเจอ บทความหนึ่งในเว็บไซต์ จึงได้นำวิธีการรักษาสิวเสี้ยนด้วยตนเองแบบธรรมชาติ ที่เราสามารถทำได้เอง มาฝากค่ะ  
1. ดินสอพองผสมน้ำมะนาว หรือน้ำมะขามเปียก
         สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวมัน รูขุมขนกว้าง และมีสิวเสี้ยน
ส่วนผสม    ดินสอพองสะตุ 3 - 4 เม็ดใหญ่และน้ำมะนาว 2 ช้อนชา
วิธีทำ 

- นำดินสอพองสะตุมาบดละเอียดด้วยภาชนะที่สะอาด ผสมน้ำมะนาวลงไป คนให้เข้ากัน (มันจะกลายเป็นครีมข้นๆ)
ดินสอพองจะพองตัวขึ้นและมีฟองอากาศ นั่นเพราะดินสอพองกำลังทำปฏิกิริยากับกรดในน้ำมะนาวนั่นเอง
จากนั้นทาครีมดินสอพองจนทั่วใบหน้ายกเว้นรอบดวงตา หรือจะแต้มเฉพาะตรงที่หัวสิวก็ได้ค่ะ ทิ้งไว้ 15 - 20 นาทีหรือจะทาก่อนนอนทิ้งไว้จนเช้าก็ได้

วิธีล้าง

- ให้ล้างด้วยน้ำอุ่น แล้วใช้ผ้าเช็ดเบา ๆ บริเวณที่มีสิวเสี้ยน
- จากนั้นล้างอีกครั้งด้วยน้ำเย็นเพื่อกระชับรูขุมขน
- ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ1 - 2 ครั้ง
-  ผิวหน้าจะเนียนนุ่มขึ้น รูขุมขนกระชับ และความมันลดลง สูตรนี้สามารถเปลี่ยนจากน้ำมะนาวมาเป็นน้ำมะขามเปียกก็ได้ค่ะ ให้ผลเร็ว 1-3 วันเห็นผลแน่นอน สิวแห้ง ยุบลง

2. น้ำผึ้ง    
         อุ่นน้ำผึ้งเล็กน้อย และทาลงบริเวณที่มีปัญหา 10-15 นาที แล้วล้างออก น้ำผึ้งเป็นวิธีที่รู้จักกันดีและมีประสิทธิภาพอย่างมากในการกำจัดสิวเสี้ยน

3. ไข่ขาว ผสมน้ำผึ้งและน้ำมะนาวส่วนผสม
   ส่วนผสม 
- ไข่ขาวขนาดเล็ก 1 ฟอง น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ และกระดาษซับมัน

   วิธีทำ
ตอกไข่ใส่จาน แล้วช้อนเอาไข่แดงออก เอาเฉพาะไข่ขาว จากนั้นนำไข่ขาว น้ำมะนาว และน้ำผึ่งมาผสมให้เข้ากันดี จากนั้นล้างหน้าให้สะอาด ซับให้แห้ง
นำไข่ขาวที่เตรียมไว้มาทาบริเวณจมูก แล้วนำกระดาษซับมันมาแปะลงบริเวณที่ทาไข่ขาวไว้ ใช้นิ้วมือกดเบาๆ
ให้กระดาษซับมันกระชับผิว
-นอนราบกับพื้นรอจนไข่ขาวแห้งสนิท หน้าจะตึงมากๆ จากนั้นใช้มือลอกกระดาษซับมันจากล่างขึ้นบน สิวเสี้ยนก็จะติดออกมากับกระดาษซับมัน แล้วล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด เพื่อกระชับรูขุมขน ควรทำสัปดาห์ละครั้ง

4.
ทาน้ำมะนาว

       ทาน้ำมะนาวโดยตรงบนสิวเสี้ยน วันละ 2-3 ครั้ง น้ำมะนาวมีกรดผลไม้ AHA หรือ Alpha Hydroxy Acids ทำงานโดยการลอกเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก ช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้แก่ผิว และช่วยให้เซลล์ผิวใหม่ที่อยู่ด้านล่างได้ผลัดขึ้นมาแทนที่เซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว ยังช่วยชำระรูขุมขนทำให้รูขุมขนตึงขึ้น ช่วยให้ผิวรู้สึกสดชื่น และทำให้มีแนวโน้มที่จะเป็นสิวน้อยลง
วิธีทำ
- ล้างหน้าให้สะอาด แล้วเช็ดให้แห้งด้วยผ้าเช็ดหน้าที่สะอาดเบาๆ จากนั้นบีบน้ำมะนาว 1 ช้อนชาในถ้วยเล็ก ใช้สำลีจุ่มน้ำมะนาวพอเปียก อาจผสมน้ำหากรู้สึกว่าแสบเกินไป ป้ายน้ำมะนาวลงบนสิว สิวหัวขาว สิวหัวดำ สิวหัวหนอง
- ทิ้งไว้ทั้งคืนโดยไม่ต้องล้างออก ล้างออกตอนเช้า และทาอีกครั้งก่อนเมคอัพ (หากคุณต้องใช้เมคอัพ)

**หากรู้สึกว่าน้ำมะนาวนั้นแรงเกินไป แม้ว่าจะผสมน้ำให้เจือจางแล้วก็ตาม ให้ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น
วิธีการนี้ใช้เวลา 2 สัปดาห์เป็นอย่างต่ำจึงจะเห็นผล

  

5. ดื่มน้ำมะนาว
         ความจริงแล้วการรักษาสิวด้วยการดื่มน้ำมะนาวนั้นมีประโยชน์หลายอย่าง ที่ทุกคนควรดื่ม (สำหรับคนที่ไม่แพ้มะนาว) ประโยชน์ต่าง ๆ เหล่านั้นคือ : สามารถใช้วิธีการดื่มน้ำมะนาวเพื่อรักษาและทำความสะอาดภายในร่างกาย หรือขจัดสารพิษออกจากตับ และเพื่อให้การดูดซึมแร่ธาตุและวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย น้ำมะนาวนั้นเป็นเครื่องดื่มชนิดหนึ่งที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายและผิวพรรณ ที่ช่วยให้กระชุ่มกระชวย (เพราะในน้ำมะนาวมีแร่ธาตุต่าง ๆ วิตามินซี, โพแทสเซียม) ดื่มง่าย และทำได้ง่าย นอกจากนี้ ยังช่วยในกระบวนการย่อยอาหาร บรรเทาอาการท้องผูก และช่วยกำจัดนิ่วในไต และตับอ่อนด้วยค่ะ
รักษาสิว โดยการดื่มน้ำมะนาว สูตร 1
- บีบน้ำมะนาว 1 ผลลงในแก้ว แล้วเติมน้ำเปล่าอีก  1 ถ้วย (ถ้วยละ 8 ออนซ์)
- ดื่มน้ำมะนาวที่ผสมนี้ได้ทั้งวัน

รักษาสิวโดย การดื่มน้ำมะนาว สูตร 2
- บีบน้ำมะนาว 1 ผล ผสมกับน้ำอุ่นที่ต้มแล้ว 1 ถ้วย (8 ออนซ์)
-  ดื่มเป็นสิ่งแรกของวัน ในตอนเช้า
- หลังจากดื่มน้ำมะนาว งดการดื่ม หรือรับประทานสิ่งใด ๆ ภายในครึ่งชั่วโมง เพื่อให้น้ำมะนาวได้ชำระล้างร่างกาย

*****ผลการรักษาสิว – ได้มีการทดลองใช้น้ำมะนาวทั้งสองวิธีแล้วคือ “ทาโดยตรงบนผิวหน้าและดื่ม” พบว่าภายใน 3 สัปดาห์สิวก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

6. เบกกิ้งโซดาและน้ำ
          ผสมเบกกิ้งโซดา 3 ช้อนโต๊ะ กับน้ำ 3 ช้อนโต๊ะ ถูส่วนผสมนี้ลงบนผิวสองสามนาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น


มันจะกำจัดสิวเสี้ยนออกอย่างมีประสิทธิภาพ

7. มาส์กข้าวโอ๊ตกับกุหลาบ
          ทรีตเมนต์นี้ช่วยกำจัดสิวหัวดำที่คุณมีอยู่แล้ว และป้องการเกิดขึ้นใหม่อีก วิธีการคือผสมข้าวโอ๊ตบดละเอียดกับน้ำกุหลาบให้เป็นส่วนผสมข้น ๆ ทาส่วนผสมลงบนหน้าบริเวณที่เป็นปัญหาทิ้งไว้ 15 นาที ก่อนล้างออกด้วยน้ำเย็น
ซึ่งจะช่วยปิดรูขุมขนที่เพิ่งทำความสะอาดมาใหม่ๆ ป้องกันการเกิดสิวหัวดำต่อไป

8. มันฝรั่ง
           มันฝรั่งดิบสับละเอียดสามารถใช้รักษาปัญหาผิวได้หลายอย่างรวมทั้งสิวหัวดำ โดยพอกมันฝรั่งลงบนผิวที่เป็นปัญหาโดยตรง ทิ้งไว้สักครู่แล้วล้างออก ล้างซ้ำด้วยน้ำสะอาด

9. หอมแดง
              หอมแดง มีสรรพคุณช่วยในการรักษาสิว ลบรอยด่างดำที่เกิดจากสิวได้ เพราะในหอมแดงสดจะประกอบ
ไปด้วยน้ำมันหอมระเหยและสารต่าง ๆ ซึ่งมีคุณสมบัติมากมาย เช่น ลดไขมันในเส้นเลือด ช่วยเจริญอาหาร
และช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียสาเหตุของสิว
วิธีทำ
              คือ นำหัวหอมแดงสดนำมาฝานเป็นแว่นบาง ๆ เพื่อให้สะดวกในการแปะที่หัวสิวของคุณ หรือจะทุบเบา ๆ แตะน้ำที่ซึมออกมาจากหัวหอมนำมาทาบาง ๆ บริเวณที่เป็นสิวหรือรอยจุดด่างดำ ทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมง หรือจนคุณทนกลิ่นมันไม่ได้ แต่ถ้าทิ้งข้ามคืนจะดีมากๆ ช่วยทำให้สิวลดลงได้จริง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก 

http://acnecaresite.blogspot.com/2012/07/9.html

        เมื่อรู้วิธีการรักษาสิวเสี้ยนด้วยตัวเราเองในแบบธรรมชาติกัน หนุ่มๆสาวๆ อย่าลืมลองทำดูนะคะ เพื่อการหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีตามครีมต่างๆเข้าสู่ใบหน้าเรา อีกทั้งยังช่วยให้ใบหน้าเราชุ่มชื้นอีกด้วยนะคะ

หมายเลขบันทึก: 518368เขียนเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2013 23:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2013 23:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ใช่แล้วคะ ล้วนแล้วแต่เป็นวิธีที่ปลอดภัยด้วยนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท