นโยบายลดการบ้านของกระทรวงศึกษาธิการไทย ตอนที่ 1


แล้วนโยบายการลดการบ้าน จะเอา ปัญหาและความต้องการทั้ง 3 ประการอยู่ไหมนี่ นโยบายอย่างนี้จะทำให้เด็กไทยฉลาดและดีขึ้นได้ไหม

สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์  1 นโยบายดี ที่เรียกว่า  ปีแห่งการพูดภาษาอังกฤษ English Speaking Year 2012  ไม่แน่ใจว่าการทำตามนโยบายไปได้กี่น้ำ อาจจะต้องถามว่า ในหนึ่งปีที่ผ่านมาเด็ก ๆ ของเราพูดอังกฤษจ้อ กันสักกี่คน  ถึงอย่างไร ๆ ผมก็ว่าเป็นการกำหนดนโยบายที่ดี  ที่แม้จะทำยังทำไม่ได้ดี เพราะรัฐมนตรีอยู่ไม่นาน แต่ก็ดูดี มีเหตุผลที่นำทำเพื่อนำเด็กสู่อาเซียน

พอมาถึงระดับปฏิบัติการมีการกำหนดว่า ให้พูดภาษาซียน อังกฤษทุกวันจันทร์  นโยบายก็น่าจะจอดไม่แจว และก็คงเจ๋ง เมื่อเปลี่ยนรัฐมนตรีใหม่เป็นคนที่สอง พอคนที่สาม ก็น่าตื่นเต้นเป็นนโยบายใหม่ “ลดการบ้าน”

การบ้านคืออะไร

วีกิพีเดีย

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99  บอกว่า

การบ้านหรืองานมอบหมายหมายถึงงานที่ครูหรืออาจารย์มอบหมายให้นักเรียนหรือนักศึกษาทำให้สำเร็จนอกห้องเรียน ส่วนมากจะเป็นงานที่นักเรียนต้องทำจากที่บ้านมาส่ง (สมกับชื่อการบ้าน) โดยทั่วไปแล้วการบ้านอาจจะประกอบด้วย ระยะเวลาให้นักเรียนได้อ่านเพิ่มเติม และแสดงออกมาผ่านการเขียนหรือการพิมพ์, การแสดงออกถึงทักษะในการแก้ปัญหา, การเขียนโครงงาน หรือการฝึกฝนทักษะอื่นๆ …”

ตามข่าว http://www.komchadluek.net/detail/20130130/150595/%E0%B8%AA%E0%B8%9E%E0%B8%90.%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%9A%E0%B8%B9%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B2.html#.UQqNNB0QZBE

บอกว่า ปัญหาก็คือเด็กไทยต้องทำการบ้านเยอะมาก  สพฐ.จึงต้องบูรณาการทั้งเนื้อหา เวลาเรียน การวัดและประเมินผล ตลอดจนการบ้านที่ต้องมีการบูรณาการทุกกลุ่มสาระวิชา สพฐ. จึงต้องทำคู่มือการบูรณาการหลักสูตรการเรียนการสอนแบบครบวงจรโดยครอบคลุมทุกหลักสูตรให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน 2556 จากนั้นจะจัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้กับเขตพื้นที่การศึกษา และครู เพื่อให้มีความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน

ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องการบ้าน ขอพูดถึงปัญหาทางการศึกษา ความต้องการ            และผลที่เกิดขึ้นจากการศึกษา 

1.  ปัญหา : ในผลจากการศึกษา ที่พูดกันมาก และพูดกันมานานก็คือ การศึกษาหมาหางด้วน ที่ท่านพุทธทาส บอกไว้ http://www.gotoknow.org/posts/494640  ที่มีส่วนทำให้เด็กท้อง และตีกันแทบทุกวัน   ฯลฯ

2.  ปัญหา…ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตกต่ำ  เช่น ผลการสอบ เมื่อปี 2554  http://education.kapook.com/view24954.html

แต่ละวิชามีคะแนนเต็ม 100 คะแนน มีค่าเฉลี่ยที่เด็ก ๆ สอบได้ ดังนี้ 

แต่ละวิชามีคะแนนเต็ม 100 คะแนน มีค่าเฉลี่ยที่เด็ก ๆ สอบได้ ดังนี้ 
ภาษาไทย จำนวนผู้เข้าสอบ 351,633 คน คะแนนเฉลี่ยทั่วประเทศ 42.61
สังคมศึกษา เข้าสอบ 357,050 คน เฉลี่ย 46.51>ภาษาอังกฤษ เข้าสอบ 354,531 คน เฉลี่ย 19.22
คณิตศาสตร์ เข้าสอบ 356,591 คน เฉลี่ย 14.99
วิทยาศาสตร์ เข้าสอบ 349,210 คน เฉลี่ย 30.90
สุขศึกษาและพลศึกษา เข้าสอบ 347,462 คน เฉลี่ย 62.86
ศิลปะ เข้าสอบ 347,462 คน เฉลี่ย 32.62
การงานอาชีพและเทคโนโลยี เข้าสอบ 347,462 คน เฉลี่ย 43.69

และทุก ๆ ปีที่ผ่านมา ก็ไม่แตกต่างกัน

3.  ความต้องการ..การนำประเทศเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

แล้วนโยบายการลดการบ้าน  จะเอา ปัญหาและความต้องการทั้ง 3 ประการอยู่ไหมนี่  นโยบายอย่างนี้จะทำให้เด็กไทยฉลาดและดีขึ้นได้ไหม 

ต่อตอนที่ 2


หมายเลขบันทึก: 518355เขียนเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2013 22:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2013 07:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เข้ามาติดตามทัศนะอาจารย์ครับ ;)...

ขอบคุณครับ...หึหึหึ นโยบายลดการเมาเรียนน่าจัดีกว่าไหมครับ www.gotoknow.org/posts/517163 


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท