"ฟ้าคราม" ทวงสิทธิ์


"ฟ้าคราม" ทวงสิทธิ์

"ฟ้าคราม" ทวงสิทธิ์

 

 

        เมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ช่วงเย็น ๆ ย่า + ปู่เร + ย่าหมู ได้พาเจ้าฟ้าคราม ไปดูนาที่อีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งมีประมาณ ๑ ไร่ ๓ งาน (เพราะนาของเราถูกลำคลองตัดผ่าน เลยกลายเป็นนาอกแตก) เหตุเพราะพวกเราในช่วงตอนที่พวกเราไปรับราชการ ทำงานกัน ก็ให้คนอื่นเช่าดูแลนาของพวกเราแทน...คนรอบข้างก็ไม่เคยเห็นพวกเราเลย เขาเคยเห็นเมื่อตอนที่เราเป็นเด็ก ๆ กัน ระยะเวลามันผ่านไปก็เกือบ ๓๐ ปี ที่พวกเราไม่ได้ไปนา พอเราไป พวกเขาก็ไม่เห็นพวกเราหรอก เพราะบางครั้งเราไป เราก็ไปที่ผืนนาอีกฝั่งหนึ่งที่เป็นผืนใหญ่...ถึงคราวที่ตอนนี้ พ่อบ้านก็ไปดูแลนาผืนนี้...ในการไปดูแล พ่อบ้านก็เห็นรอบข้างมันมีขยะที่ชาวบ้านแถวนั้นทิ้งแล้วมันเลอะเทอะ พ่อบ้านก็เลยจัดการเผามันให้ดูสะอาดเรียบร้อย...และดูเหมือนว่า "พวกเขาจะไม่ค่อยพอใจ"...

 

 

           ชาวบ้านแถวนั้นก็เกิดอาการ...ความเป็นชาวบ้าน เขาก็จะพูดไม่ค่อยดี ไม่ใส่ใจคำพูดที่เขาพูด คิดว่า พ่อบ้านเป็นใคร เพราะเขาไม่ทราบว่า "นาเป็นชื่อใคร" เขาคิดว่าเป็นใครก็ไม่รู้ เพราะเขาไม่รู้จัก...เขาเคยบอกพ่อบ้านว่า...เขาไม่เชื่อว่าเป็นนาของพ่อบ้าน บางครั้งก็มีการล้ำเขตแดนกัน ซึ่งพ่อบ้านก็เลยไปจ้างรังวัดมาวัดที่นาใหม่ ซึ่งจะนัดมาวัดก็ประมาณเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๖ เพราะเสาหลักเขตแดน เมื่อคราวน้ำท่วมมันหลุดลอยน้ำไปแล้ว...ตอนแรกชาวบ้านเขาก็คิดว่า พวกเราก็คงไม่ทำอะไรกันแล้ว ว่าไปก็คงทำอะไรเขาไม่ได้...อีกอย่าง เขาพูดในลักษณะว่าที่นาของพวกเรามันอยู่กลางลำคลอง ซึ่งคำนี้พ่อบ้านถึงกับทนไม่ได้...ไปเอาโฉนดมาดู...แล้วก็ได้ไปที่ที่ดินเพื่อจ้างเจ้าหน้าที่มาทำรังวัดใหม่ แล้วพวกเราก็จะทำเขตแดนให้เห็นได้ชัดว่า...ที่นาของเราอยู่ตรงไหน เขาจะได้มาพูดว่าไม่ได้...พ่อบ้านก็ได้แต่เก็บไว้ในใจ แล้วเขาก็เคยบอกว่า ไม่เห็นลูกสาวสองคนที่เป็นเจ้าของนาเลย...

 

 

           สุดท้าย เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว ย่าหมูของเจ้าฟ้าครามก็กลับมาเยี่ยมตาทวด พวกเราก็พากันไปดูที่นาที่มันเกิดเหตุ...พวกเขาที่เห็นพวกเราและคอยสังเกตการณ์ ก็อึ้งไปเหมือนกัน...เพราะคิดแล้วว่าเรา "เอาจริง" ถึงกับให้ลูกมาบอกว่า...ขอสูบน้ำผ่านนาของพวกเราด้วย...พ่อบ้าน ก็บอกไปว่า...ไม่เป็นไร คนเรา ทำนาเหมือนกัน ไม่หวงหรอก...แต่ไม่ควรพูดดูถูกัน...เพราะในวันแรก ๆ ที่พ่อบ้านไปทำความสะอาดที่นา เขาก็มาพูดจาไม่ค่อยดี เช่น หาว่าที่นาถูกคลองตัดผ่านคงเหลือไม่เท่าไหร่บ้าง ไม่ใช่นาของพ่อบ้าน...คำต่าง ๆ เหล่านี้ พ่อบ้านก็คงทนไม่ได้ มันเหมือนการดูถูกกันชัด ๆ มาเล่าให้ผู้เขียนฟัง...ผู้เขียนก็บอกไปว่า...ทำไมไม่ตอบไปล่ะว่า...ได้เท่าไร มันก็นาของเรา ไม่เกี่ยวกับพวกเขา เรามีที่ถึงจะไม่มากมาย แต่มันก็เป็นที่ของเรา ดีกว่าพวกเขาที่ไปสร้างบ้านอยู่ในที่สาธารณะก็แล้วกัน...สุดท้ายพวกเขาคงคิดได้ เลยมาพูดดีและเปลี่ยนคำพูดกับพ่อบ้านใหม่...ทำเอาพ่อบ้านเดือดเหมือนกันในตอนแรก ๆ

 

 

               มันเป็นความจริงที่ชาวบ้าน เขาคิดว่า...พวกเราไปทำงานแล้วก็คงไม่กลับมาแล้ว เพราะพวกเราเมื่อไปทำงานก็ไม่ค่อยได้กลับมาอย่างจริงจังกับการดูแล ไร่นา สักเท่าไหร่ เพราะบางครั้ง พวกเราก็ไม่ค่อยมีเวลา บางทีก็มีเรื่องอื่นที่พวกเราจะต้องทำอีก...ทำให้เห็นว่า...พวกเขาคิดว่า เราไม่ต้องการที่นาแล้ว เขาก็ชอบรุกที่เราเข้ามาเรื่อย ๆ เลยพ่อบ้านก็คงทนไม่ได้...จำเป็นที่จะต้องจ้างเจ้าหน้าที่มาทำการรังวัดที่นาใหม่ แล้วก็ลงแนวเขตให้มันเห็นชัดเจนขึ้น...การทำแบบนี้ พวกเราในฐานะที่เป็น พ่อ แม่ เราทำเพื่อที่จะให้ลูก ๆ ได้รับรู้ว่า แนวเขตของเราถึงที่ไหน...เวลาพ่อ แม่ ตายไป พวกลูก ๆ หลาน ๆ จะได้รู้ เพราะที่นา ตอนนี้ที่พิษณุโลก ราคาแพงขึ้นมาก จากราคาเดิมที่พ่อบ้านเคยซื้อไว้ ๗ แสนกว่าบาท ปัจจุบันพุ่งขึ้นมาเกือบครึ่งหนึ่งแล้ว ในช่วงเวลาไม่ถึง ๑๕ ปี นี้เอง...

 

 

             ฟ้าคราม ชอบเดินเลียนแบบคนแก่แถว ๆ ข้างบ้าน พวกเขาชอบเดินเอามือไพล่หลัง อย่างที่เห็น แล้วก็เดิน ทำให้เจ้าฟ้าคราม นำมาเดินเป็นตัวอย่าง...

 

 

 

          ตอนนี้ ฟ้าคราม หน้าเป็นมาก เป็นเด็กอารมณ์ดี ชอบทำท่า "หลอกคน"...บางครั้งก็นำไฟฉายมาเปิดแล้วจ่อไว้ที่ปลายคาง บอกว่า "ผี ๆ ๆ" แล้วก็หัวเราะ...

 

 

           ยามไปนา ย่าถามฟ้าครามว่า "นาของใคร" ฟ้าครามตอบทันทีว่า "นาฟ้า ๆ ๆ"...ตัวเท่านี้ คิดจะทวงสิทธิ์ของตัวเองแล้วจ้า...แม่ฟ้าคราม...ในการสื่อสารภาษาไทย แสดงว่า...หนูฟังภาษาไทยรู้เรื่องแล้ว ตั้งแต่อายุยังไม่ถึง ๑ ขวบ ๗ เดือน...

 

 

         หนูชอบทำท่าทางแผลง ๆ บางครั้งก็ชอบเล่นเหมือนกับเด็กผู้ชาย ชอบเล่นรถมากกว่าตุ๊กตา

 

 

 

 

อ่าน เรื่องเล่าของ "ฟ้าคราม" ทุกฉบับ ได้จากที่นี่...เรื่องเล่าของ "ฟ้าคราม"

หมายเลขบันทึก: 518327เขียนเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2013 15:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2013 23:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ขอบคุณค่ะ ครูทิพย์ 

ค่ะ น่าแปลกที่ว่าเด็กสมัยนี้รู้เรื่องเร็วมาก ๆ ค่ะ ผิดกับพ่อเพรียงกับลุงภัครของเจ้าฟ้าคราม กว่าจะรู้เรื่องก็เกือบ ๒ ขวบโน่นแน่ะค่ะ และขอขอบคุณสำหรับดอกไม้กำลังใจด้วยนะคะ

ขอขอบคุณสำหรับดอกไม้กำลังใจจากทุก ๆ ท่านค่ะ

ขอบคุณค่ะ คุณ แสงแห่งความดี 

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท