จดหมายเปิดผนึก : ขอความเป็นธรรมในการคุ้มครองสิทธิในสัญชาติไทย และคุ้มครองสิทธิอาศัย รวมถึงสิทธิในการมีที่อยู่อาศัยของลุงตู่


                                                                          จดหมายเปิดผนึก

ที่  /๒๕๕๖ 

วันที่ ๗ มกราคม ๒๕๕๖

เรื่อง  ขอความเป็นธรรมในการคุ้มครองสิทธิในสัญชาติไทย และคุ้มครองสิทธิอาศัย รวมถึงสิทธิในการมีที่อยู่อาศัยของ นายชาญ สุจินดา ผู้ทรงสิทธิในสัญชาติไทย แต่กลายเป็นคนเสมือนไร้รากเหง้า

เรียน  ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

สิ่งที่แนบมาด้วย ๑. สำเนาบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน ของนายชาญ สุจินดา เลขที่ ๐-๑๐๐๘-๘๙๐๐๐-XX-Xออกโดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๕๔  ๑ ฉบับ

๒. สำเนาแบบรับรองรายการทะเบียนประวัติบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน ของนายชาญ สุจินดา เลขที่ ๐-๑๐๐๘-๘๙๐๐๐-XX-X ออกโดยเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ลงวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๔  ๑ ฉบับ

๓. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของนายสว่าง สังข์ทอง เลขหมายประจำตัวของผู้ถือบัตร  ๓-๑๐๐๖-๐๐๘๖๗-XX-X ออกโดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๔๐  ๑ ฉบับ

๔. สำเนาใบมรณะบัตร ของนางผิวกิจเกษม เลขที่ ๑๐/๘๙ ออกโดยเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ลงวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๔๘๙  ๑ ฉบับ

โครงการบางกอกคลินิก ซึ่งก่อตั้งขึ้นภายใต้กองทุนศาสตราจารย์คนึงฦๅไชย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งดำเนินการโดยนักศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาเอกมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีรองศาสตราจารย์ ดร. พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร เป็นที่ปรึกษา โดยโครงการมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คำปรึกษาทางกฎหมายและให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่บุคคลซึ่งมีปัญหาด้านสถานะและสิทธิของบุคคล

ตามที่โครงการได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีปัญหาสถานะบุคคลของ นายชาญ สุจินดา (ลุงตู่ หรือตูบ) ชายชรา อายุ ๗๑ ปี ซึ่งฟังข้อเท็จจริงได้ว่าเป็นผู้ทรงสิทธิในสัญชาติไทย แต่ยังไร้สัญชาติ ซึ่งปัจจุบันนายชาญ เป็นคนไร้บ้าน อาศัยอยู่กับกลุ่มคนเร่ร่อนที่ใต้ต้นโพธิ์วัดแคนางเลิ้ง (วัดสุนทรธรรมทาน) ถนนพะเนียง แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร

นายชาญ สุจินดา หรือลุงตู่ ชายชรา อายุ ๗๑ ปี เกิดและอาศัยอยู่ในตลาดนางเลิ้งมาโดยตลอด แต่กลายเป็นคนเสมือนไร้รากเหง้า เนื่องจากตกหล่นจากการบันทึกในทะเบียนราษฎร์ ไม่มีเอกสารพิสูจน์ตน และญาติพี่น้องใกล้ชิดนั้นได้เสียชีวิตไปหมด เหลือเพียงพี่ชายต่างบิดา ซึ่งย้ายไปอยู่ที่จังหวัดพิษณุโลก จึงทำให้ลุงตู่ต้องอยู่ตามลำพังไม่มีคนดูแล ลุงตู่อาศัยรวมกับกลุ่มของคนเร่ร่อนอยู่ที่วัดสุนทรธรรมทาน (วัดแคนางเลิ้ง) มีห้องนอนเป็นลานคอนกรีตไร้หลังคาบริเวณใต้ต้นโพธิ์วัดแคนางเลิ้ง มากว่า ๒๐ ปี ประกอบอาชีพเก็บขยะขายในชุมชนนางเลิ้งและทำความสะอาดวัด ได้รายได้เดือนละประมาณ ๑,๐๐๐ บาท

ในปี พ.ศ. ๒๔๘๔ ลุงตู่เกิดในซอยตรอกสะพานยาว (ตลาดนางเลิ้ง) ถนนพะเนียง แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร ลุงตู่มีมารดา ชื่อ นางผิว กิจเกษม สัญชาติไทย (เสียชีวิต) (รายละเอียดตามเอกสารแนบลำดับ ๔) และบิดาชื่อนายป่วน สุจินดา สัญชาติไทย (เสียชีวิต) ลุงตู่มีพี่น้องร่วมบิดาและมารดารวม ๒ คน ลุงตู่เป็นบุตรคนที่สาม ทั้งนี้ มารดาของลุงตู่นั้นได้แต่งงานหลายครั้ง ลุงตู่จึงมีพี่น้องหลายคน แต่ปัจจุบันเสียชีวิตหมดแล้ว ปัจจุบันเหลือเพียงพี่ชายต่างบิดา ๑ คน ยังมีชีวิตอยู่ ชื่อนายสว่าง สังข์ทอง หรือลุงแกละ ชายสัญชาติไทย เกิดปี พ.ศ. ๒๔๗๕ อายุ ๘๐ ปี ปัจจุบันย้ายไปอยู่ที่ตำบลพันเสา อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก (รายละเอียดตามเอกสารแนบลำดับ ๓)

เมื่อ นายป่วน ได้เลิกรากับ นางผิว และสมรสใหม่ ลุงตู่อาศัยอยู่กับมารดา ในซอยตรอกสะพานยาว ตลาดนางเลิ้ง แต่ต่อมาเมื่อ นางผิว เสียชีวิต ในวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๔๘๙ น้องสาวของนางผิว ชื่อ นางเยื้อน โชติโกมล (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) จึงรับลุงตู่ และพี่น้องมาเลี้ยงดูที่บ้านของตน ในบ้านเลขที่ ๒๒๕/๘-๙ ตรอกสะพานขาว ตลาดนางเลิ้ง ถนนพะเนียง แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ นางเยื้อน สมรสกับ นายสุทัศน์ โชติโกมล (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) และมีบุตรด้วยกัน ๗ คน ทั้งนี้ ในปี พ.ศ. ๒๕๑๖ เกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในชุมชนนางเลิ้ง ทำให้บ้านและทรัพย์ของ นางเยื้อน ถูกไฟไหม้จนหมด ครอบครัวของ นางเยื้อน จึงย้ายมาอยู่ที่บ้านเลขที่ ๒๐๖/๒๕ ถนนตรอกนางเลิ้ง แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ แต่ภายหลังก็ถูกขายไป

ด้วยเหตุผลของสภาพครอบครัว สภาพสังคม และโอกาสในการศึกษาสมัยนั้น ช่วงปี พ.ศ. ๒๕๐๑ – ๒๕๒๐ ตั้งแต่วัยเยาว์ลุงตู่ถูกจำคุกและเข้าออกเรือนจำอยู่เป็นประจำ หลายครั้งถูกจำคุกในข้อหาอันธพาล ซึ่งเป็นข้อหาเกี่ยวกับความมั่นคงในยุคสมัยของรัฐบาลทหาร หลังจากพ้นโทษจากเรือนจำครั้งสัดท้าย ประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๓ จึงกลับมาอาศัยอยู่ที่ชุมชนตลาดนางเลิ้ง และอาศัยรวมกับคนเร่ร่อนอยู่ที่ใต้ถุนโบสถ์วัดแคบางเลิ้ง มีอาชีพเป็นคนเก็บขยะในชุมชนและทำความสะอาดวัด ได้รายได้ประมาณ ๑,๐๐๐ บาทต่อเดือน แต่ปัจจุบันทางวัดกำลังปรับปรุงใต้ถุนวัด ดังนั้น กลุ่มคนเร่ร่อนในวัดรวมถึงลุงตู่จึงถูกห้ามอาศัยอยู่ใต้ถุนวัด และต้องออกกมานอนตรงลานคอนกรีตเปิดโล่งใต้ต้นโพธิ์ในบริเวณวัด

ในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ประธานชุมชนจึงพยายามช่วยเหลือโดยพาลุงตู่ ไปทำบัตรประชาชน แต่ถูกเจ้าหน้าที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่ายปฏิเสธเนื่องจากลุงตู่ไม่มีเอกสารของบิดามารดา พี่น้อง รวมถึงปฏิเสธที่จะรับฟังพยานบุคคลในชุมชน ซึ่งยืนยันถึงครอบครัวลุงตู่ว่าเป็นคนสัญชาติไทย เกิดในประเทศไทย และอาศัยอยู่ในประเทศไทยมาโดยตลอด จึงทำได้เพียงบันทึกลุงตู่ไว้ในทะเบียนประวัติบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน ท.ร. ๓๘ ก (รายละเอียดตามเอกสารแนบลำดับ ๒) และออกบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน หรือบัตรเลข ๐ (รายละเอียดตามเอกสารแนบลำดับ ๑) เพื่อระบุตัวตนและบันทึกลุงตู่ในฐานะราษฎรไทยตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร

ปัจจุบันลุงตู่จึงยังเป็นคนเสมือนไร้รากเหง้า แม้จะมีรัฐไทยรับรองความเป็นบุคคลตามกฎหมายของลุงตู่ แต่ความเป็นผู้ทรงสิทธิในสัญชาติไทยของลุงตู่นั้นยังคงไม่ได้รับการรับรอง แม้ว่าลุงตู่จะมีจุดเกาะเกี่ยวกับประเทศไทย คือ มีบุพการีเป็นคนสัญชาติไทย และเกิดในประเทศไทย ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงอันนำไปสู่สิทธิในสัญชาติไทยโดยการเกิดตามหลักดินแดนและหลักสืบสายโลหิตของลุงตู่อย่างชัดเจน

ดังนั้น เพื่อเป็นการเคารพต่อสิทธิในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิในสัญชาติ สิทธิในการพัฒนาคุณภาพชีวิต สิทธิในสุขภาพของบุคคลซึ่งได้รับการรับรองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ และกฎหมายระหว่างประเทศนั้น ทางโครงการจึงขอความอนุเคราะห์ท่านดำเนินการคุ้มครองสิทธิของ นายชาญ สุจินดา โดยให้ความช่วยเหลือในกระบวนการจัดทำหนังสือรับรองการเกิด เพื่อรับรองสิทธิในสัญชาติไทย ตามมาตรา ๒๐/๑ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการทะเบียนราษฎร พ.ศ. ๒๕๓๔ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ รวมถึงพิจารณาให้ความช่วยเหลือในการจัดหาที่อยู่อาศัย และการเข้าถึงหลักประกันในการรักษาพยาบาลอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม เพื่อเป็นการดำรงไว้ซึ่งหลักนิติธรรม และหลักสิทธิมนุษยชนต่อไป

จึงเรียนมาเพื่อทราบและโปรดพิจารณาให้ความอนุเคราะห์ พร้อมทั้งขอขอบพระคุณมาด้วย ณ โอกาสนี้


                                                                ขอแสดงความนับถือ



             (นางสาวศิวนุช สร้อยทอง)                                                   (นางสาวพวงรัตน์ ปฐมสิริรักษ์)

                    นักศึกษาปริญญาโท                                            นักกฎหมายประจำโครงการบางกอกคลินิก

      คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์                     เพื่อให้คำปรึกษากฎหมายด้านสถานะและสิทธิของบุคคล

           โทรศัพท์ : ๐๘๕-๒๓๗๖๓๖๖                                         คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

         อีเมลล์ : [email protected]                                      โทรศัพท์ : ๐๘๑-๔๓๓๔๔๓๐

                                                 อีเมลล์ : [email protected]


หมายเลขบันทึก: 518025เขียนเมื่อ 31 มกราคม 2013 15:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 มกราคม 2013 15:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท