ปะติดจับสมุดขาดๆ (ธรรมจากหลวงเพี้ยนถาง)


ปะติดจับสมุดขาดๆ (ธรรมจากหลวงเพี้ยนถาง) 

หลักปฏิจจสมุปบาทแห่งพุทธศาสนานั้น ถือเป็นแก่นพุทธศาสน์ก็ว่าได้    ลึกซึ่งยิ่งนัก ยากที่จะเข้าใจได้ เพราะมักเริ่มที่ .....เมื่อมีอวิชชา ก็มี สังขาร .... วิญญาณ ....นามรูป ...สฬยาตนะ ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปาทาน ว่ากันไป....ทั้งหมด ๑๒ ท่อน บาลียากๆ ทั้งนั้น


คำว่า "นามรูป"   นั้น ยิ่งไปกันใหญ่ คือ ความรู้สึกนึกคิด (นาม) ก็เกิด  และ โลก คน สัตว์ ภูเขา  (รูป)  ก็เกิดขึ้นมาได้ 


วันนี้ผมจะมาเสนอทฤษฎีคู่ขนาน  ชื่อว่า ปะติดจับสมุดขาดๆ มีเพียง ๔ ท่อน ดังนี้


เมื่อโง่ ก็ปรุง 

..เมื่อปรุง ก็อร่อย 

...เมื่ออร่อยก็ติด

...เมื่อติดก็โง่ 


.......เป็นวงรอบเช่นนี้เอง ชาติแล้วชาติเล่า ไม่อาจหลุดพ้นไปได้

โง่คือ อวิชชา    ปรุงคือสังขาร     อร่อยก็ตัณหา    ติดก็อุปาทาน  


...เพียงแต่คราวนี้ เราว่าแบบไทยๆ ไม่มีบาลีที่น่ากลัว


....คนถางทาง (๒๘ มค. ๕๕) 


หมายเลขบันทึก: 517744เขียนเมื่อ 29 มกราคม 2013 00:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 มกราคม 2013 16:18 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

菩提本無樹, Bodhi is fundamentally without any tree;
明鏡亦非臺。 The bright mirror is also not a stand.
本來無一物, Fundamentally there is not a single thing —
何處惹塵埃。 Where could any dust be attracted?

เลยทำให้นึกถึงพระฮุ่ยเหนิงครับ "ไม่มีกระจกก็ไม่มีฝุ่น"

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท