หมอกควันที่ ปักกิ่ง คนจีนเริ่มใช้กรรมที่ร่วมกันสร้าง


หมอกควันที่ปกคลุมนครปักกิ่ง ตั้งแต่ ๕-๖ วันที่ผ่านมาเป็น ผลรวม ของ ควันจาก ยานยนต์ โรงงาน  ฝุ่นจากทะเลทราย และกิจกรรมของ

มนุษย์  และความชื้นจากอากาศที่หนาวจัด  ดรรชนี คุณภาพ ( หรือ ทุรภาพ ในกรณีนี้ ) อากาศ  ที่WHO ว่าอันตรายคือ ๒๐๐ หน่วย

รัฐบาลจีนแถลงว่าวัดได้ ๔๐๐หน่วย. สถานทูต US ณ ปักกิ่ง แจ้งว่า ๘๐๐ หน่วย จะเชื่อคำโฆษณา ชวนเชื่อของใครดี?

  แต่ที่แน่ๆคือคนจีนหลายล้านคนกำลังหายใจไม่ออก และเริ่มแสดงอาการโรคทางเดินหายใจ รถราติดขัดเพราะทัศนะวิสัยเหลือ

เพียง ๑๐๐ถึง๒๐๐เมตร

       ข่าวนี้ทำให้ผมหยิบหนังสือ ท่าน ป.ต.ประยุทธโต ชื่อ "คนไทยกำลังรับกรรมที่ร่วมกันสร้างไว้ " ท่านเขียนชัดไว้ที่หน้า ๙ไปอ่าน

กันเองนะครับ กรรมของคนจีน และชาวจีน ที่ร่วมกันก่อไว้ ตั้งแต่ ค.ศ. ๑๙๔๙ ถึง ปัจจุบัน รวม ๖๔ ปี. มีอะไรบ้างนึกเอาก็แล้วกัน

ตั้งแต่ ครุกรรม เช่น ทิเบต ซินเกียง เกาหลี ลหุกรรมเช่น กินหูฉลามจนจะหมดมหาสมุทร  กินตีนหมี ดีหมี  นอแรด กระดูกเสือ ฯลฯ

จนสัตว์เหล่านั้นจะสูญพันธ์ุแล้ว

   นับแต่ท่าน เติ้ง เสี่ยว ผิง ประกาศ ปฏิรูปจีนทุกด้าน ด้วยนโยบาย ๔ ทันสมัย ชาวจีน ก็ ผลิต ผลิต ผลิต กันโดยไม่คำนึงถึง

วัตถุดิบ เชื้อเพลิง  ขยะอุตสาหกรรม   แล้วพวกเขาก็ ขาย ขาย ขาย ทุกอย่าง ตั้งแต่ ไวอะกร้า( ปลอม ) เครื่องอำนวยความสะดวกใน

ชีวิต  อาวุธ เครื่องจักรกลทุกประเภท. จนพวกเขา รวย รวย รวย และ กิน/ใช้ กิน/ใช้ กิน/ใช้ กันตามประสาคนที่ตายอด ตายอยาก

ภายใต้ระบบเผด็จการเบ็ดเสร็จ หลายสิบปี จนขาดสติ ทั้งผู้นำ และผู้ตาม เสวยสุขด้านวัตถุ จนไม่มีอากาศดีๆจะหายใจ หลายๆเมือง

ไม่มีน้ำสะอาดดื่ม ไม่มีบ้านดีพอควรราคาสู้ได้ให้สามัญชนทั่วไปได้อยู่  ล่าสุด ธรรมชาติพิโรออกที่ ปักกิ่ง

     ผมมีประสบการณ์ตรงกับหมอกชนิดนี้ ที่ กรุงลอนดอน เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. ๑๙๖๐ สมัยนั้นคำ " smog " ยังไม่เกิดเขาเรียกง่ายๆ

ว่า Pea  soup fog ตามลักษณะกายภาพของมัน ที่สีเขียว เหมือน ซุปถั่วเขียวข้น แต่กลิ่นกำมะถันไหม้ หนาทึบขนาดยื่นมือออก

ตรงหน้าสุดแขน มองไม่เห็นมือเลยครับ ครั้งนั้นคนในลอนดอนตาย ๑๐๐ คนเศษ ส่วนมากเป็นคนสูงอายุ แต่ เหตุการณ์ ครั้งนั้น

กระตุกปลุกตื่นผู้นำทางการเมือง และ ประชาชน อังกฤษ ต่อ ลางของความหายนะของคนทั้งชาติ รัฐสภาอังกฤษ ออกกฏหมาย

อากาศสะอาด (Clean Air  Act ) ห้ามการใช้ถ่านหินเกรดต่ำ( ราคาถูก ) ชึ่งมีกำมะถันมาก และ สารพัดมาตรการทำความ

สะอาดสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง  จนในปี ค.ศ. ๑๙๗๒ คนทั้งประเทศแตกตื่นเมื่อปรากฏว่า มีปลา Trout ตัวแรกว่ายน้ำจากทะเลเข้า

สู่แม่น้ำเธมส์ เป็นตัวแรก หลังจากตัวสุดท้าย หายไปเมื่อ ค.ศ. ๑๙๓๐  ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า น้ำในแม่น้ำเธมส์ที่เคยเน่าเสียได้กลับ

สู่สภาพดีตามเดิมแล้ว

       ผมหวังว่า หมอกควันที่ปักกิ่ง คราวนี้จะปลุกผู้นำจีนว่ากรรม และผลของกรรมมีจริง และหลบหนีไม่ได้ แม้จะออกไปท่องอวกาศได้

แล้วก็ตาม  ควรลด อกุศลกรรมลง เพิ่ม กุศลกรรมขึ้น

        โดยนัยเดียวกัน ผู้นำ และประชาชนไทย  ยังจะหลับไหล ละเมอกับ " ความก้าวหน้า สู่ อาเซียน " " จีดีพี จะต้องโตอย่างไม่หยุด

ยั้ง ".  "  ประชานิยม สร้างหนี้เป็นเรื่องดี ประชาชนจะได้หาทางเพิ่มรายได้ ".  ฯลฯ และ มิจฉาวาทะ นานาชนิด. กันต่อไปอีกหรือ?

ต้องรอให้ น้ำเจ้าพระยาเน่าจนถึง นครสวรรค์ ไม่มีน้ำดิบสะอาดเพื่อทำประปา จนต้องย้ายเมืองหนี เหมือนครั้งพระเจ้าอู่ทอง หรือ ?

แล้วยังมีที่ไหนจะหนี ไปได้อีกครับ?



หมายเลขบันทึก: 516199เขียนเมื่อ 14 มกราคม 2013 10:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 มกราคม 2013 10:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

อีกไม่นาน รถยนตร์ที่เมืองเรา ออกมาวิ่ง อีกล้านกว่าคัน คงจะยิ่งกว่าหมอก ครับ ท่านอาจารย์

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท