Health care financing
ระบบบริหารสุขภาพ
เมื่อมีสปสช. เข้ามาเกี่ยวข้องจะเข้ามารับหน้าที่ในการจ่ายเงินการจ่ายเงินจะมีข้อตกลงและสัญญาว่าจะต้องทำอย่างไร ซึ่งภาครัฐ มีหน้าที่เป็นผู้ติดตามผู้ให้บริการอยู่ในฐานะผู้ให้บริการ ภาคเอกชน อยู่ในฐานะโรงพยาบาล บริษัทรับประกัน ลูกค้า หรือผู้ป่วย ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาสุขภาพ เมื่อเกิดการเจ็บป่วยรวมทั้งในการส่งเสริมสุขภาพ
เพื่อเป็นการสร้างเสริมย่อมมีค่าใช้จ่าย สิ่งเหล่านี้ นอกจากตัวผู้ป่วย แล้วยังมีหน่วยงานองค์กรใดเข้ามามีส่วนร่วมในการจ่าย ซึ่งรูปแบบในการจ่ายสามารถสรุปได้มีดังนี้
1. ผู้ป่วยจ่ายเอง
2. การจ่ายภาคสมัครใจ
- ประกันสุขภาพยามเจ็บป่วย
- บัตรสุขภาพ
- กองทุนสุขภาพชุมชน
3. การประกันสุขภาพภาคบังคับ
- ประกันสังคม
- กองทุนเพื่ออนาคต
4. สวัสดิการบริษัทหรือนายจ้างอีกรูปแบบหนึ่งในการจ่ายคือ การจ่ายโดยรัฐบาล
5. การจ่ายโดยรัฐบาลโดยภาษี
- สวัสดิการรัฐบาล
- สวัสดิการสังคม
- เงินอุดหนุนให้ Health care provider
- เงินสมทบประกันสังคม
- การจ่ายโดยรัฐบาลโดยภาษีหมายหัว (ภาษีบุหรี่และสุรา 2%)เข้ากองทุนสสส.
6. การจ่ายโดยต่างประเทศ
- Malaria control program
- AIDS
รูปแบบระบบเงิน
ระบบภาษี ได้แก่ ประเทศอังกฤษ ไทย เดนมาร์ค สวีเดน
ระบบเบี้ยประกันได้แก่ ประเทศเยอรมัน ฝรั่งเสศ เนเธอร์แลนด์ สวิสเซอร์แลนด์
ระบบผสม ได้แก่ ประเทศ ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน
ข้อดีและข้อด้อยของระบบภาษี
ข้อดี
1. มีการบริหารจัดการต่ำ
2. มีความเป็นธรรมในการจัดเก็บ
ข้อด้อย
1. งบประมาณไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละกระทรวง
2. ถูกการเมืองแทรกแซง
3. การขาดประสิทธิภาพของระบบราชการไม่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชน
ข้อดีและข้อด้อยของระบบเบี้ยประกัน
ข้อดี
1. มีความแน่นอนทางการเงิน
2. ประชาชนยินดีจ่ายมากกว่าระบบภาษีเนื่องจากมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน
3. ตอบสนองความต้องการของประชาชน
4. ผู้ให้บริการมีรายได้ที่แน่นนอน
ข้อด้อย
1. ค่าบริหารจัดการสูง
2. ผู้ที่ไม่มีเงินเดือนมีปัญหาในการจัดการ
3. มีภาระจากผู้สูงอายุที่เพิ่มมากขึ้น
เป้าหมายของ Health care financing
1. ความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการ
2. ความเป็นธรรม
3. คุณภาพ
4. คุ่มค่า
5. ความยั่งยืน
ไม่มีความเห็น