New Year New You

         สวัสดีค่ะ ในที่สุดวันนี้ผู้เขียนก็มีโอกาสได้ร่วมกิจกรรมของเว็บไซด์แห่งนี้บ้าง ผู้เขียนมีหลายสิ่งที่อยากทำในปีใหม่นี้และอยากจะแบ่งปัน  หวังว่าประสบการณ์การงานหรือแนวทางการดำเนินชีวิตของตัวเองจะมีประโยชน์ต่อผู้อื่นบ้างนะคะ

        สิ่งแรกที่ผู้เขียนอยากจะทำและได้วางแผนสำหรับอนาคตของตัวเองไว้แล้วคือการเป็นครู โดยคิดจะไปสอบมาตรฐานวิชาชีพครูในเดือนพฤษภาคมของปีหน้านี้ เพื่อจะได้ใบอนุญาตประกอบการสอนนำไปสมัครเป็นครู เมื่อก่อนตอนเรียนจบใหม่ๆไม่เคยคิดอยากมีอาชีพเป็นครู ผู้เขียนพอเรียนจบ ก็ทำงานเกี่ยวกับพนักงานขายต่างประเทศหรือพนักงานเอกสารส่งออกต่างประเทศมาตลอด มีช่วงหนึ่งก็ไปเป็นตัวแทนประกันชีวิต พนักงานขายตรงอิสระ แต่ก็รู้สึกว่าขัดกับนิสัยของตัวเองที่เป็นคนไม่ช่างพูดแต่ต้องฝืนพูด ไม่ชอบตามตื๊อใครก็ต้องทำ ทั้งวันต้องเหนื่อยตลอด ต้องไปหาคนโน้นคนนี้ ตอนเย็นกลับมาที่ห้องก็ต้องคิดถึงว่าใครคือผู้มุ่งหวังคนต่อไปและต้องโทรศัพท์ไปคุยกับพวกเขาก่อน และก็วางแผนว่าจะทำอะไรวันต่อไป สุดท้ายตัวเองก็รู้สึกเหนื่อยเพราะทำงานทั้งวันทั้งคืนไม่ได้พักและไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเลย และขายก็ไม่ค่อยได้ด้วย ทำอาชีพด้านนี้ต้องอาศัยความอดทนมากๆ และต้องไปรับการอบรมเพื่อเสริมเทคนิคการขายต่างๆและเติมกำลังใจอยู่เสมอ นอกจากนี้ผู้เขียนก็ลองไปเป็นผู้ช่วยมัคคุเทศก์ดู แต่มัคคุเทศก์ภาษาจีนนั้นน่าจะลำบากกว่าภาษาอื่นๆ ที่ประสบมาคือมัคคุเทศก์ไม่ได้ค่าจ้างจากบริษัทท่องเที่ยว มัคคุเทศก์เองต้องซื้อลูกค้าจากบริษัทฯ แล้วต้องหารายได้จากลูกค้า โดยพาไปช้อปปิ้งและพาไปดูการแสดงต่างๆ พาไปรับประทานอาหารบนเรือ หรือไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ โดยมัคคุเทศก์จะได้ค่านายหน้าจากสถานที่เหล่านั้น ประเด็นสำคัญที่ทำให้ผู้เขียนรู้สึกแย่คือต้องทำในสิ่งที่ไม่ดีขัดกับคุณธรรมของตัวเอง เช่นพาไปดูการแสดงหรือช้อปปิ้งที่ผิดกฎหมาย และมีความเสี่ยงสำหรับผู้หญิงเพราะต้องเข้าไปในสถานที่ที่ผู้ชายชอบเข้าไปดูการแสดงกัน นอกจากนี้มัคคุเทศก์เองก็หารายได้ไม่พอกับที่ต้องเสียค่าซื้อลูกค้าจากบริษัทฯ จึงทำให้มีมัคคุเทศก์หลายคนมีหนี้สินกับบริษัทท่องเที่ยวจำนวนเงินไม่น้อย ก็จบกันสำหรับอาชีพที่ใฝ่ฝันกลายเป็นอาชีพที่ไม่น่าพิสมัยสำหรับตัวเอง ความรู้สึกอยากเป็นครูของผู้เขียนนั้นเกิดขึ้นเมื่อตอนทำงานเกี่ยวกับเอกสารส่งออก เพราะรู้สึกกดดันจากการทำงาน เจอสภาพแวดล้อมที่มีแต่การแข่งขัน การเอาตัวรอด และการชิงดีชิงเด่นกัน และต้องอดทนฝืนใจทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ  เพื่อให้เป็นที่พอใจของผู้บังคับบัญชาและเก็บกดอารมณ์ความไม่พอใจเอาไว้ นอกจากนี้ก็เป็นโรคออฟฟิศซินโดรม เพราะนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวันก็เกิดอาหารปวดไหล่และสะบัก จนต้องไปนวดแผนโบราณเดือนละครั้งสองครั้ง เลยคิดหาอาชีพที่ไม่ต้องอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ตลอดเวลาและไม่ต้องเจอหน้าผู้บังคับบัญชาตลอดทั้งวัน และคิดว่าว่าตัวเองก็ชอบสอน เวลาถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับงานให้ผู้ร่วมงานและนักศึกษาฝึกงานแล้วพวกเขาเข้าใจได้อย่างดีเราก็รู้สึกดีและมีความภาคภูมิใจ ก็เลยมีความตั้งใจตั้งแต่นั้นมาว่าตัวเองจะต้องเป็นครู อีกอย่างการได้ไปเป็นครูในชนบท ได้มีชีวิตอยู่อย่างสงบ ไม่มีการแข่งขัน และได้อยู่กับครอบครัวเป็นเรื่องที่ตัวเองพอใจมาก สำหรับการเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยนั้น ตัวเองไม่เคยคิดจะเป็น เพราะเคยได้ยินว่าแม้ในมหาวิทยาลัยเองในปัจจุบันนี้ก็มีการแข่งขันกันกันสูง ตัวเองชอบชีวิตสงบ อยู่อย่างพอเพียง ไม่อยากเครียด อยากมีเวลาทำในสิ่งที่ตัวเองชอบบ้าง

         ในขณะที่ผู้เขียนอ่านหนังสือเตรียมสอบมาตรฐานวิชาชีพครู ก็ตั้งใจจะท่องศัพท์ภาษาจีนไปด้วยพร้อมๆกัน ศัพท์ที่จะท่องมีประมาณ 5,000  คำและจะต้องท่องให้ได้ภายในห้าเดือน เรื่องนี้ผู้เขียนตั้งใจจะทำตั้งแต่ปีที่แล้วแต่ไม่ได้ทำเพราะตอนอยู่ที่เมืองจีนเรียนภาษาจีนหนักมาก และต้องท่องศัพท์ที่เรียนในขณะนั้นก่อน แต่ได้เขียนคำแปลไว้หมดแล้ว(พบคำศัพท์สำหรับภาษาจีนระดับสูงในเว็บไซด์หนึ่งที่ไม่ได้แปลเป็นไทย) ส่วนปีนี้นั้นยุ่งกับงานใหม่ๆ อีกทั้งสอบเพื่อรับใบประกาศนียบัตรภาษาอังกฤษและภาษาจีนจนไม่มีเวลาท่องศัพท์เช่นเดียวกัน ที่ต้องทำให้ได้ก็เพื่อยกระดับความสามรถด้านภาษาจีนของตัวเองให้สูงขึ้น 

        เมื่อผู้เขียนสามารถทำสองสิ่งข้างบนได้สำเร็จ ชีวิตการงานมั่นคงแล้ว ก็อยากจะทำในสิ่งที่ตัวเองชอบนั่นคือการเรียนกีต้าร์ ตอนนี้ฝีมือการเล่นกีต้าร์ของตัวเองไม่ค่อยดีนัก แต่พอเล่นเป็นเพลงได้และมีคนฟังบ้าง ผู้เขียนเคยเรียนดนตรีจริงๆจังๆแค่หนึ่งปีที่โรงเรียนดนตรีเมื่อสมัยยี่สิบปีที่แล้ว ตัวเองอยากให้ฝีมือการเล่นกีต้าร์พัฒนาไปกว่านี้ เพื่อความสุขเล็กๆน้อยๆของตัวเองและคนรอบข้าง

       นอกจากการเล่นกีต้าร์แล้ว ผู้เขียนก็อยากจะท่องเที่ยวทุกปี หลักๆก็บ้านเราเองและจีน เพราะอยู่ที่บ้านตอนนี้แทบไม่ได้พูดภาษาจีนเลย จึงอยากจะมีโอกาสไปเมืองจีนทุกปีเพื่อไม่ให้ลืมการพูดภาษาจีน นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติสวยๆของจีนก็มีมากมาย น่าเที่ยวน่าค้นหา เวลาไปท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติไม่ว่าที่ใดก็ตาม ความเงียบสงบของธรรมชาตินั้นก็ทำให้เรามีเวลาได้รู้จักความว่างอันทำให้จิตใจเราสงบ

      และอีกอย่างที่ผู้เขียนชอบและอยากทำคือ การปลูกผักผลไม้รับประทานเอง ที่บ้านของตัวเองมีที่ดินเพียงพอที่จะปลูกได้ทั้งข้าวและพืชผักผลไม้ ถ้าหากผู้เขียนได้มีอาชีพหลักเป็นครูแล้วคงจะมีความสบายใจขึ้น และต่อจากนั้นก็คิดจะปลูกพืชผักผลไม้เพื่อรับประทานเองและถ้าเหลือจึงค่อยนำไปจำหน่าย ผู้เขียนชอบปลูกผักผลไม้มาก ไม่เคยรู้ตัวว่าตัวเองชอบ จนกระทั่งมีโอกาสได้ไปอยู่ต่างประเทศและได้ปลูกผักผลไม้ จึงได้รู้ว่าการปลูกพืชทำให้เรามีความสุข สามารถผ่อนคลายความตึงเครียดจากการทำงาน และทำให้หายคิดถึงบ้านได้บ้าง

      เมื่อสามารถทำให้ชีวิตการงานของตัวเองมั่นคงได้แล้ว ก็อยากให้จิตใจของตัวเองมั่นคงและสงบด้วย ก็คือผู้เขียนจะทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบทำไปด้วยและตอนกลางคืนก็จะพยายามนั่งสมาธิให้สม่ำเสมอ ปัจจุบันนี้ตัวเองมักจะมีข้ออ้างเสมอว่าตัวเองยุ่งมากกับการเริ่มต้นชีวิตการทำงานใหม่ จึงไม่ค่อยมีเวลานั่งสมาธิ  จะนั่งสมาธิบ้าง เวลาที่ตัวเองรู้สึกเครียดมากๆ จิตใจเหนื่อยล้า ตอนก่อนจะสอบ หรือเวลาต้องการอุทิศส่วนกุศลให้กับใคร

       และสุดท้ายก็ปรารถนาจะเขียนบันทึกเรื่องราวต่างๆของตัวเองไว้ที่นี่ต่อไป เพื่อแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ของตัวเองให้เป็นประโยชน์กับผู้อื่นบ้าง ผู้เขียนยังมีเรื่องมากมายที่อยากจะเขียน ก็จะค่อยๆเขียนไปเรื่อยๆค่ะ ถึงแม้บางเรื่องเหตุการณ์มันจะผ่านมาแล้วปีหนึ่งหรือหลายปีก็ตาม สุขสันต์วันปีใหม่ที่จะถึงนี้นะคะทุกคน

[...ปริม ทัดบุปผา...]

ขอส่งความสุขที่มีให้เป็นกำลังใจ เป็นพลังในการสร้างสรรค์สิ่งที่ฝันใฝ่ให้สำเร็จค่ะ

สวัสดีปีใหม่ค่ะ

[เทียนฟ้า]

 ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจนะคะ

[ดร. ธวัชชัย ปิยะวัฒน์]

จีนตอนนี้กลายเป็นประเทศที่สำคัญของโลกมากขึ้นเรื่อยๆ ผมคิดว่าในอนาคตอันไกล้นี้ครูภาษาจีนจะเป็นที่ต้องการมากของสถานศึกษาต่างๆ ครับ ผมยังเชื่อถึงขั้นว่าภาษาจีนอาจจะกลายเป็นภาษาที่เด็กต้องเรียนคู่กับภาษาอังกฤษด้วยซ้ำครับ นั่นคือเป็นวิชาบังคับครับ