ข้อเสียและดี ที่มีใน "แท็บเล็ต"


        ปีกว่าๆ ที่ผ่านมา วงการศึกษาเมืองไทยเรา มีข้อถกเถียงกันพอสมควรครับ เกี่ยวกับ "แท็บเล็ต" ว่าจะส่งผลดีหรือมีผลเสียต่อผู้เรียนอย่างไร  อย่างว่าครับ ในเสียมีดี ในดีก็มีเสีย เหมือนกับยารักษาโรค ใช้เป็นก็เกิดประโยชน์รักษาโรคหาย ใช้ไม่เป็นก็เกิดโทษ โรคไม่หายแต่อาจจะตายเพราะยา ซึ่งไม่เว้นแม้แต่ แท็บเล็ต ครับ บางด้านเหมือนดีแต่ก็มีข้อน่าห่วง เป็นต้นว่า
        - สะดวกในการพกพา บรรจุข้อมูลได้มาก  ไม่สิ้นเปลืองกระดาษเหมือนหนังสือ แต่ข้อเสียคือ ต้องใช้แบตเตอรี่ ถ้าแบตเตอรี่หมดก็ใช้งานไม่ได้  หรือถ้าแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ เวลาชาร์ตอาจระเบิด เกิดอันตราย ไม่นับถ้าเกิดทำเปียกน้ำ  หรือสูญหายก็ต้องใช้เวลาซ่อม หรือซื้อมาแทนซึ่งราคาจะแพงกว่าหนังสือ ขณะที่หนังสือสามารถเปิดอ่านได้ตลอด ไม่ต้องพึ่งพาแบตเตอรี่ในการเปิด แม้เปียกน้ำ ก็ไม่เสียหายมาก นำมาผึ่งแดดแห้งแล้วก็ใช้ต่อได้
        - มีภาพและเสียงที่มีสีสัน ชวนให้น่าสนใจ น่าติดตาม  แต่ข้อเสียคือ มีผลต่อสายตา ถ้าดูและจ้องเป็นเวลานานๆ ขณะที่หนังสือยิ่งอ่านก็จะยิ่งเสริมสร้างจินตนาการ  ซึ่ง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ได้เคยกล่าวไว้ว่า“จินตนาการสำคัญกว่าความรู้”
        - สามารถสืบค้นข้อมูลต่างๆ ได้ง่าย ตอบสนองตามความต้องการทันทีที่ค้นหา แต่ข้อเสียคือ ทำให้ขาดความอดทนในการรู้จักรอ ขณะที่การค้นคว้าจากหนังสือ ต้องใช้เวลาในการค้นคว้า บางครั้งต้องสอบถามจากบรรณารักษ์ หรือคุณครูประจำห้องสมุด เป็นการฝึกการสร้างสัมพันธภาพกับผู้อื่น ฝึกความอดทนให้รู้จักรอคอยสิ่งที่ต้องการ ซึ่งคนสมัยนี้ส่วนใหญ่ใจร้อน อยากได้อะไรที่รวดเร็วทันใจ สั่งไปแล้วต้องได้ทันที
        - เป็นเทคโนโลยีทางการศึกษาสมัยใหม่ ผู้ปกครองที่มีความรู้ก็็สามารถแนะนำได้ แต่บ้านเรามีผู้ปกครองหลายกลุ่ม บางส่วนก็จำเป็นต้องทำมาหากิน ไม่ค่อยมีเวลามาศึกษาการใช้แท็บเล็ตเท่าไหร่ เรื่อง Apps อะไรก็ไม่เคยได้ยิน เพราะแค่จะกินยังไม่มี ทำให้ใช้ประโยชน์ได้ไม่คุ้มค่า เลิกโรงเรียนมาเด็กอาจจะทิ้งไว้ หรือไม่ก็เน้นเล่นแต่เกมส์ มากกว่าใช้หาความรู้ รวมถึงการอยู่แต่กับแท็บเล็ตนานๆ ทำให้ขาดการใส่ใจ หรือติดต่อกับคนจริงๆ รวมถึงการที่ใช้นิ้วจิ้ม มากไป พอเปลี่ยนมาเขียนทีไร ยากจะบรรยายในการแกะลายมือ
         ดังนั้นแท็บเล็ต ดีหรือไม่ อยู่กับผู้ใช้เป็นสำคัญครับ คือ ต้องมีความรู้ในการใช้ และใช้อย่างเหมาะสม ทั้งด้านเนื้อหา และเวลา ซึ่งบ้านเราใช้วิธี ของมาก่อน แล้วค่อยผ่อน และศึกษาตามทีหลัง อย่างไรก็ตามในการเรียนนั้น ยังมีทักษะที่ต้องฝึกฝนมากมาย     การมีแท็บเล็ตใช้ ถือเป็นเครื่องมือส่งเสริมในการเรียนเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นครับ ไม่ใช่ทั้งหมด

หมายเลขบันทึก: 509930เขียนเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2012 23:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2012 23:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ลูกซื้อแท็เล็ตให้เพราะเห็นแม่หิ้วโน๊ตบุ๊ครุ่นเก่าหนักๆ แต่ยังใช้ไม่ค่อยจะเป็นเลยค่ะ

  • สวัสดีครับปี้ครูIco48
  • สมัยนี้เทคโนโลยี IT เขาพัฒนาไปนักครับ ยะเอาคนรุ่นประสบการณ์ชีวิตนานๆ วิ่งตามบ่ค่อยทัน นับวันยิ่งบาง ยิ่งเบา ยิ่งเล็ก แต่หันเด็กใจ้แล้วกะกังวลเหมือนกั๋นครับ ว่าจะใส่ใจกับมันนักล้ำไป
  • ค่อยเป๋นค่อยไปน้อครับ บ่ได้ทักทายกั๋นนานปี้ครูสบายดีก่อครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท