Dr Richard Teo......ลมหายใจที่สูญเปล่า
วันนี้ได้มีแรงบันดาลใจจะเขียนถึงนายแพทย์ท่านหนึ่ง ที่ถ่ายทอดประสบการณ์ข้อคิดเตือนใจให้กับสังคมชาวแพทย์ และผู้คนทั่วไป ได้อย่างลืึกซึ้ง และเห็นสัจจธรรมที่แท้จริงของชีวิต ท่านคือ นายแพทย์ Richard Teo ชาวสิงคโปร์ ท่านเพิ่งจะจากโลกนี้ไป เพียงวัย 40 ปีเท่านั้นเอง ผู้เขียนได้อ่านบทความที่ถอดคำพูดของท่าน เมื่อคราวมาบรรยายให้นักศึกษาทันตแพทย์ ที่มหิดลได้รับฟังกัน และหลังจากนั้น 7 เดือนต่อมา ท่านก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดในวันที่ 18 ตุลาคม 2555นี้เอง และการเขียนบันทึกนี้ ด้วยการอ่านจับใจความมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
นับจนถึงวันนี้ เราควรจะให้เวลาทบทวนตัวเองกันสักนิด เพื่อค้นหาคำตอบว่า เรากำลังหายใจอย่างสูญเปล่าหรือไม่ การมีลมหายใจ ไม่ได้แปลว่าเป็นความโชคดีเสมอไป หากการสันดาปของลมหายใจนั้น ไม่ได้ก่อประโยชน์อันทรงคุณค่ากับเจ้าของเลย ใช่ เรารู้หรือไม่ ว่าเราหายใจเพื่อต่อชีวิตไปเพื่ออะไรกันแน่ ลองหาคำตอบแล่นๆดู โดยขณะที่จิตใจของเรายังสมบูรร์พร้อม ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยเวลาแห่งชีวิต ที่กำลังจะหมดลง บางทีลมหายใจที่เหลือ จะกลับเป็นประโยชน์สูงสุดของชั่วชีวิตเราเองก็ได้
Dr Richard Teo เป็นนายแพทย์ที่เติบโตมาจากครอบครัวที่ต้องดิ้นรน เรียกตัวเองว่าเป็นผลผลิตของสังคมปัจจุบัน ต้อง ต่อสู้พร้อมกับค่านิยมในชนระดับนี้ ที่เหมือนๆกันทั่วโลกว่า ความสุขก็คือความสำเร็จ ความสำเร็จที่ว่านั้นก็คือความร่ำรวยนั่นเอง แรงบันดาลใจในการต่อสู้แข่งขัน จึงอยู่ในระดับสูง และช่างโชคดีแท้ ที่ท่านสามารถเอาชนะ ข้ามผ่านหนทางสู่ความสำเร็จได้แทบจะทุกขั้นตอน สามารถเลือกสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดในชีวิตการศึกษา โรงเรียนต้องดีที่สุด รับรางวัลมากมายที่วางเรียงรายตลอดเส้นทางการแข่งขันทุกชนิด และท่านได้เป็นแพทย์อาชีพที่ชวนใฝ่ฝัน เพราะจะทำให้ฐานะร่ำรวยเร็วที่สุด และท่านเลือกเรียนจักษุวิทยา สาขาที่คนต้องแย่งเรียนมากที่สุด แม้จะประสบความสำเร็จในการเล่าเรียน มีความรู้ที่แตกฉาน แต่เมือพบว่า การเป็นจักษุแพทย์ทำเงินได้ช้าเกินไป การเดินทางไปสู่ความสุขตามจินตนาการ ดูว่าต้องเสียเวลารออีกนาน
เมื่อเป็นคนเก่ง ฉลาด และความตื่นตัวสูง คุณหมอจึงเลือกเส้นทางใหม่ ที่น่าจะทำให้ไปถึงจุดความสำเร็จ ตามความตั้งใจได้อย่างรวดเร็ว นั่นคือการชี้วัดด้วยจำนวนเงินมหาศาลที่จะหลั่งไหลเข้ามา คุณหมอเลือกเรียนแพทย์สาขาเวชศาสตร์ความงาม ที่ไม่ว่าที่ใดในโลกนี้ ความงาม ก็ยังมีอิทธิพลต่อจิตใจมนุษย์ โดยเฉพาะผู้ร่ำรวยที่สามารถแลกมาได้ด้วยเงิน จึงเป็นเรื่องที่จะทำเงินที่ดีมากที่สุด คุณหมอเล่าว่า ผู้คนทุกวันนี้ ไม่ได้สนใจแพทย์คนใดจะรักษาโรคได้เก่งแค่ไหน จะเป็นแพทย์ที่ดูแลคนไข้และครอบได้ลึกซึ้งหรือไม่ และรู้สึกเสียดายที่จะจ่ายเงินให้กับหมอที่ดูแลตนพวกนี้ด้วย แต่พวกเขาตามหาแต่ว่าแพทย์คนใดมีฝีมือดีในการทำศัลยกรรมตกแต่งความงาม และแพทย์คนที่ร่ำรวยที่สุด ก็คือแพทย์ที่มีคนนิยมมากที่สุดนั่นเอง เขายินดีจะจ่าย จ่าย และจ่าย เงินทุกบาทจึงหลั่งไหลมาสู่กระเป๋าคุณหมออย่างล้นหลาม กิจการเจริญรุ่งเรืองทันตาเห็น ไม่ช้าคุณหมอก็เข้าไปสู่วังวนของความร่ำรวย ที่จะคอยกระชฺบบอกว่ายิ่งหาได้ ยิ่งรวย แต่ก็เหมือนว่ายังไม่พอ เรียกว่ารวยได้อีก เลยเหมือนชีวิตหมกมุ่นแต่การทำเงิน
ครั้นเมื่อมีเวลาว่างบ้าง ก็ต้องสนองความอยากของตัวเองต่างๆนาๆ เช่นซื้อรถราคาแพงที่สุดมาครอบครอง ต้องหาทำเลปลูกบ้าน อ้อ ไม่ใช่คฤหาสน์ต่างหากบนเนื้อที่พิเศษราคาแพงลิบลิ่ว จะกิน จะเที่ยวก็ต้องไปกับผู้คนระดับมหาเศรษฐีเท่านั้น มีบริการต่างๆมาล่อใจ ให้อยากซื้อ ให้อยากจับจ่ายวันยันค่ำ และที่สำคัญเขาทำได้อย่างไม่มีปัญหา
การได้เดินมาถึงจุดสูงสุดนี้ มีน้อยคนนัก บางคนปีนป่ายตลอดชีวิต ก็ยังมาไม่ถึง ความร่ำรวยในวัยสี่สิบของคุณหมอ ได้รับการรักษาสุขภาพดี เป็นพิเศษ ด้วยการต้องออกกำลังกาย กินดี อยู่ดี มีสุขภาพจิตที่ดี อยากได้ อยากทำอะไร ช่างลุล่วงไปด้วยดี กลายเป็นความทรนงเชื่อมั่น เหมือนโลกอยู่ในกำมือ แต่แล้ววันหนึ่ง คุณหมอก็ได้ประสบการณ์เรียนรู้ด้วยตนเองว่า ความคิดที่ว่า ทุกสิ่งในโลกนี้ เราสามารถควบคุมมันได้ และจะนำความสำเร็จมาอยู่ในมือได้อย่างง่ายดาย เลือกที่จะเป็น เลือกที่จะทิ้งมันก็ได้นั้น แต่แท้จริงแล้วคุณหมอเข้าใจผิดไปถนัด เพราะมีสิ่งหนึ่งที่กำลังมาแสดงฤทธิ์เดช ให้คุณหมอรู้จักชีวิตที่แท้จริง บนความไม่แน่นอนของธรรมชาติ และจุดนี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนของคุณหมอRichard Teo ให้ได้ใช้ลมหายใจที่เหลืออย่างสมศักดิ์ศรี ที่ได้เกิดมาเป็นคน ด้วยการเข้าถึงธรรมชาติของสัจจะธรรม และบอกเล่าเรื่องราวให้ผู้คนทั่วไป ว่าอย่าอยู่ด้วยความประมาทกันอีกต่อไปเลย
บันทึกหน้าพบกันค่ะ
ความเห็น (7)
ขอบคุณ คุณ อ.นุ ที่เข้ามาติดตามอ่าน ค่ะ ยังจะได้เล่าเรื่องตอนต่อไปอีกนะคะ
ขอบคุณคุณวันเพ็ญมากนะคะ ที่มาเยี่ยมบันทึก คุณหมอเป็นผลผลิตทางสังคมในปัจจุบันค่ะ
ขอขอบคุณดอกไม้กำลังใจจาก คุณครู อ้อย คุณปริม และคุณ Wasawat ติดตามตอนต่อไปนะคะ
สวัสดีค่ะคุณTum Laksana Rodtrakul ขอขอบคุณดอกไม้กำลังใจที่ให้กับบันทึกที่ถ่ายทอดความคิดของคุรหมอ Richard Teo นะคะ
วัสดีค่ะคุณจันทวรรณ ขอบคุณมากค่ะที่ติดตามบันทึก และมอบดอกไม้กำลังใจให้ ยังจะได้เล่าเรื่องราวของคุณหมอต่ออีก 2-3 บันทึกค่ะ
อ่านแล้วได้ข้อคิดมากมายจริงๆค่ะ ขอบคุณgotoknowมากนะคะ
Ratchaphorn
เรื่องนี้ฮือฮามากเมื่อ 2ปีก่อนแล้วก็เงียบหายไป มีคนถามผมว่าเขานับถือศาสนาอะไรหรือไม่ ปัจจุบันใครคือผู้สานต่ออุดมการณ์ ผมมีรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดตาม