"พี่ไปทำอะไรมา"


   เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาผมได้สะพายกระเป๋ายามาทำงานด้วย เนื่องจากยาบริจาคที่หมอให้มาไม่สะดวกพอที่จะฉีดเองอย่างเคย เพราะต้องผสมน้ำตัวทำละลายเอง ต้องดึงน้ำยาเข้ามาเพื่อฉีดอีกและอีกหลายขั้นตอน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็แนะนำถ้าไม่แน่ใจก็ให้พยาบาลที่ทำงานฉีดให้ก็ได้ และจะได้เรียนรู้วิธี ซึ่งก็ไม่ยากอย่างที่เข้าใจในตอนแรก

   "จะขับรถกลับเลยเหรอคะ ไม่มีอาการข้างเคียงอะไรนะ"

   "อ๋อ..สักพักถึงจะกลับครับ ไม่น่าจะมีอาการอะไรหรอกครับ"

.............

   เช้าวันเสาร์ผมตื่นเช้าตามปกติ ตกบ่ายอาการปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อตามแขน ขา เริ่มมาเยือน ทำให้นึกถึงยาแก้ปวดที่หมอสั่งแต่ไม่ไปรับที่รพ. หมอบอกไม่แนะนำกินยาแก้ปวดทั่วๆไป

   อาการปวดทำให้ผมกังวลว่าจะนอนไม่หลับอีก ผมจึงต้องกินยาแก้ปวดก่อนนอนคืนนั้น จนเช้าวันเสาร์หลังตื่นขึ้นมารู้สึกดีขึ้นแต่อาการมึนๆหัวยังมีอยู่ อาการปวดเมื่อยก็ยังไม่หายแม้จะบิดตัวไปมาตัวแทบขาดก็ไม่หายปวดเมื่อย

   คืนวันเสาร์ทั้งที่อาการปวดหัวจะหายกับท้องเสียขึ้นมาอีก อาการท้องผูกที่ถ่ายเป็นก้อนดำๆคืนนั้นถ่ายเป็นน้ำแต่ก็มีสีดำอยู่อีก

  วันอาทิตย์เกือบทั้งวันผมพยายามจะนอนโดยคิดว่าการพักผ่อนให้มากอาจจะทำให้อาการเหล่านี้หายได้ แต่ก็ยังไม่หายยันเช้าวันจันทร์ ขณะมาทำงาน

   "เป็นไงบ้างคะ ฉีดแล้วปกติดีมั๊ย"พยาบาลที่ฉีดยาถาม

   "อ๋อ..ปกติครับ วันเสาร์ตอนบ่ายยันวันอาทิตย์ก็ปวดหัว ปวดเนื้อปวดตัวตามปกติ "

   "เอ้อ..ไม่ได้หมายถึงเพราะพยาบาลฉีดให้นะครับ หมายถึงอาการข้างเคียงมันจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ฉีด แล้วแต่มากน้อยต่างกันไป"

   "ไม่ได้อุปทานไปเองนะคะ"

   "อ๋อ..ไม่ล่ะครับ" มันเป็นอย่างนั้นเองครับ"

   คำว่า"อุปทาน"ทำให้ผมเก็บมาคิดว่าจริงๆก็ไม่มีใครทุกคนที่เชื่อหรือเข้าใจในสิ่งที่เราเป็น และการอธิบายอาการที่เกิดขึ้นมันก็ไม่ทำให้เขาเข้าใจได้อย่างแท้จริง หลายครั้งผมจึงไม่อยากจะบอก ไม่อยากจะอธิบายให้ใครฟังมากนัก และบ่อยครั้งที่ผมไม่อยากจะเขียนบันทึกเกี่ยวกับโรคที่ผมเป็นอยู่นี้

   โดยเฉพาะภรรยาและลูกสาวพักหลังๆพวกเขาดูจะเครียดกับอาการของผมมากขึ้น โดยเฉพาะภรรยาเหมือนจะไม่สบายไปอีกคน นั่นอาจจะมาจากอาการที่ผมแสดงออกมาให้พวกเขาได้เห็นอยู่บ่อยๆ แม้จะเข้าใจหรือคุ้นชินแต่ในระยะยาวคงไม่ดีต่อสุขภาพของพวกเธอแน่

   ดังนั้นผมจึงคิดว่าผมควรจะเก็บอาการพวกนี้ซ่อนไว้ให้มากที่สุุดเพื่อภรรยาและลูกจะได้ไม่ต้องมาคอยกังวลในตัวผมมากนัก

   และวันนี้ ผมมาทำงานโดยพยายามให้เป็นปกติ ขณะที่เดินมาที่โต๊ะ มีน้องผู้หญิงสองสามคนแซวว่า

   "พี่ไปทำอะไรมา ถึงเดินเหมือนคนหมดเรี่ยวหมดแรงเลย ..."ทั้งสามคนหัวเราะกุ๊กกิ้กตามประสาเด็กวัยรุ่น

   "เออ...."ผมได้แต่ยิ้มๆ

    และยิ้มสู้......

........................................  

หมายเลขบันทึก: 509262เขียนเมื่อ 19 พฤศจิกายน 2012 17:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 สิงหาคม 2013 14:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

มาให้กำลังใจพี่...กลับบ้านเรา...บอกผมล่วงหน้านะ...ผมจะไปหาครับ....ขอให้พี่หายเร็วๆ....

  • ขอให้อาการดีขึ้น หายป่วยเร็ว ๆ ค่ะ เป็นกำลังใจเสมอค่ะ

 

 

Ico48

คงมีโอกาส ได้พบคุณหมอแน่ เร็ววันนี้ อาจจะแวะรายทางพบกัลยาณมิตรทุกท่านครับ...ขอบคุณครับ

 

 

Ico48

ขอบคุณครับ หายแล้วจะได้ไปร่วมงาน Happy Ba ครับ...ขอบคุณครับ

 

"น้ำขุ่นไว้ใน น้ำใสไว้นอก"

สุภาษิตนี้ใช้ได้เสมอนะครับ รวมถึงในยามเจ็บป่วยด้วย

  • สวัสดีค่ะท่าน Ico48 พ. แจ่มจำรัส
  • แวะมาเยี่ยม  ให้กำลังใจ  เข้มแข็ง สู้ต่อไป

 

 

Ico48
เป็นสุภาษิตที่ให้ข้อคิดดีจริงๆครับ

 

 

Ico48
ขอบคุณสำหรับคำอวยพรครับ ขอให้มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงเช่นกันครับ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท