ย่ำแดนคาสิโน (๔) น้ำพุเต้นระบำ และ ต้นไม้ทองคำ

        หลังจากชื่นชมความงามยามค่ำคืนจากประตูโบสถ์เซ็นต์ปอลแล้ว ก็ได้เวลาเดินย้อนกลับมายังบริเวณจตุรัสเซนาโด้ เพื่อเก็บภาพความประทับใจต่าง ๆ ในเวลาค่ำคืนของจตุรัสแห่งนี้ไว้ บรรยากาศยามค่ำในบริเวณนี้ยังคงผู้คนมากเหมือนเดิม และดูจะมากกว่าช่วงกลางวันด้วยซ้ำ เพราะด้านหนึ่งของจัสตุรัส มีการตั้งเวทีการแสดงดนตรีด้วย สำหรับในคืนวันนั้น จึงมีผู้คนโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมากมารอกันอยู่

      พวกเราแต่ละคนก็เดินชม ช้อป ชิมกันตามอัธยาศัย ของแต่ละคน เหนื่อยก็นั่งคุยกันไป ชิมกันไป พร้อมกับการซึมซับบรรยากาศรอบ และเก็บภาพยามค่ำของจตุรัสเซนาโด้ไว้

     อาคารสีขาวด้านขวามือในภาพ คือ  สำนักแห่งความเมตตา (Holy House of Mercy) สถาบันที่จำลองแบบมาจาก องค์กรการกุศลที่เก่าแก่ และสำคัญมากแห่งหนึ่งของโปรตุเกส สร้างโดยบิชอปองค์แรกของมาเก๊าในปี ค.ศ. 1569 นับว่าเป็นการก่อตั้งคลินิกการแพทย์แบบตะวันตกแห่งแรกในมาเก๊า ทั้งนี้โครงสร้างสวัสดิการสังคมรูปแบบต่างๆ ยังคงใช้การมาจนทุกวันนี้ และก็เช่นเดียวกับอาคารอื่นของมาเก๊า ที่สร้างในสไตล์นีโอคลาสสิก

จากนั้นก็ได้เวลาเติมพลัง (อาหารเย็น) ที่ภัตตาคาร Long Kei ที่อยู่บริเวณจตุรัสเซนาโด้  โดยอยู่ไม่ไกลจาก ร้าน บะหมี่ Wong Chi Kei ที่เราแวะเข้าไปในมื้อเที่ยง นั่นเอง  ภัตตาคาร Long Kei นี้เป็นร้านอาหารจีนที่เก่าแก่ อาหารเหลาราคาไม่แพง แถมเด็กเสิร์ฟ หลายคนพูดภาษาไทยได้ด้วย  แต่ไม่ใช่เด็กเสริฟอายุน้อย ๆ เหมือนบ้านเราหรอกครับ  เป็นคนเสิร์ฟอาหารที่เป็นผู้สูงอายุแล้ว และอยู่กับร้านนี้มานาน  แน่นอนมีคนไทยมารับประทานอาหารร้านนี้กันมาก จนคนเสิร์ฟพูดภาษาไทยได้  จานเด็ดของร้านได้แก่ นกพิราบทอด กุ้งผัดเกาลัด ข้าวผัดปลาเค็ม เป็นต้น  เมื่อถึงเวลาที่นัดหมายโดยการจองล่วงหน้า คณะของเราก็เข้าสู่ข้างในร้าน อาหารต่าง ๆ ตามรายการที่สั่งไว้ก็ทะยอยลำเลียงมาที่โต๊ะและลำเลียงสู่ท้องของสมาชิกทุกคนอย่างรวดเร็ว เพราะเสียพลังงานจากการย่ำแดนมรดกโลกของมาเก๊ามาทั้งวัน เราไม่มีภาพภายในร้านและอาหารต่าง ๆ มาให้ชม เข้าใจว่าเพราะเขาห้ามถ่ายภาพภายในร้าน หรือ ผมหิวจนลืมถ่ายภาพไว้เลยมีแต่ภาพหน้าร้านมาให้ชมคร๊าบ

     หลังจากเติมพลังแล้วก็ได้เวลาย่ำแดนมรดกโลกและแดนคาสิโนต่อครับ โดยชมบรรยากาศตามเส้นทางไปยัง โรงแรมใหญ่และคาสิโนใหญ่ของมาเก๊าคือ Casino Lisbao  ที่ภายใน นอกจากจะมี คาสิโน แบบครบวงจรแล้ว ยังมีของสะสมโบราณมากมายให้ชม  

       แต่ด้วยเวลาที่จำกัด ผู้นำคณะจึงตัดสินใจไม่แวะเพราะจุดหมายสำคัญที่รออยู่คือการไปชม การแสดง น้ำพุเต้นระบำ ที่ด้านหน้าของ Wynn Resort และ โชว์ต้นไม้ทองและโชว์มังกร ที่จัดแสดงภายในโรงแรม Wynn เป็นการแสดงแบบแสงสีเสียง มีการจัดแสดงเป็นรอบ ๆ ตามเวลา ดังนั้นเราจะต้องเดินทางไปให้ถึงก่อนเวลาการแสดง เพื่อให้ได้ชมอย่างครบถ้วน

น้ำพุเต้นระบำ ประกอบดนตรี แสงสีเสียง  ที่ Wynn Resort

โชว์ ๑๒ ราศี ที่ Wynn Resort ที่ประกอบ โชว์ต้นไม้แห่งความรุ่งเรือง และโชว์มังกร จัดแสดงภายในโรงแรม Wynn เป็นการแสดงแบบแสงสีเสียง

    โชว์ ต้นไม้แห่งความรุ่งเรือง ที่ทำจากทองคำแท้ ที่มีกิ่งก้านมากกว่า ๒๐๐๐ กิ่ง และใบมากกว่า ๙๘๐๐๐ ใบ ทั้งหมดทำจากทองคำ ๒๔ กระรัด ที่โรงแรม Wynn Resort

       หลังจากจบการชมการแสดงทั้งสองแล้ว ก็เดินชมภายใน Wynn Resort และแน่นอนภายในก็มีคาสิโน ที่เปิดบริการตลอด ๒๔ ชั่วโมง ให้สำหรับนักเสี่ยงโชคได้ใช้บริการ   กว่าคณะของเราจะกลับถึงโรงแรมที่พักก็เลยเที่ยงคืนไปแล้ว เป็นการย่ำแดนคาสิโนวันแรกที่ยาวนาน  พอกลับถึงห้องพักอาบน้ำเสร็จหัวถึงหมอนก็หลับไม่ตื่นจนถึงเช้าทีเดียว