โอกาสของอาชีพที่ปรึกษาในประเทศไทยในยุคบูรพาภิวัฒน์ เมื่อประเทศในซีกตะวันออกครองโลก


เนื่องจากการชะลอตัวของตลาดในยุโรปและอเมริกาต่อเนื่องยาวนาน ส่งผลต่อการเกิดยุคบูรพาภิวัฒน์ หรือ ยุคทองของเอเชียที่กำลังเริ่มต้นอยู่ ณ เวลานี้ วันที่ตลาดตะวันออกอย่างเอเชียเป็นตลาดของโอกาสจากการค้าและการลงทุนจากทุกมุมโลก ในฐานะที่อยู่ที่ประเทศไทย ถ้าเราไม่อยู่ในฐานะที่สามารถจะผลิตและส่งสินค้าออกไปจำหน่ายในประเทศในภูมิภาคเอเชียได้แล้ว การตั้งมั่นในฐานที่รับภายในประเทศก็เป็นเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย

ช่วงนี้โดนเพื่อนเก่าๆ หรือคนรู้จักคนอื่นๆ ถามมาเยอะเรื่องหน้าที่การงานปัจจุบันว่าทำมาหากินอะไร หลังออกมาจากบริษัทอุปโภคบริโภคแห่งหนึ่งได้หลายปีแล้ว พอตอบว่าเป็น “ที่ปรึกษาทางธุรกิจ/การตลาด” คนถามก็งงว่าไปไงมาไงถึงได้มาเริ่มทำงานแบบนี้ได้ คนตอบก็ตอบไม่ถูกว่าจะอธิบายให้ง่ายได้ยังไง พออธิบายได้พอเข้าใจคนก็เริ่มถามอีกว่า “อยากเป็นบ้าง ทำยังไงถึงจะเป็นได้” ผู้เขียนเลยต้องกลับมานึกเท้าความย้อนไปไกลๆ สมัยเริ่มทำงานที่ปรึกษาครั้งแรกว่ามันเริ่มมายังไง ระยะทางมันยาวไกลมาถึงตอนนี้ได้ยังไง แล้วก็เริ่มลำดับความคิดได้ว่า จุดเริ่มต้นของงานที่ปรึกษากับคนที่ไม่ได้รู้จักเรามาก่อนล่วงหน้าจะอยู่ที่เวทีของการแสดงวิสัยทัศน์และประสบการณ์ การแสดงออกถึงความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ไม่มีใครทำได้ หรือ ทำได้ก็ไม่ได้เหมือนหรือดีเท่า และการการันตีความสำเร็จจากงานที่เคยทำมาในอดีต ยิ่งถ้ามาจากบริษัทดังในตลาดนั้นๆ หรือมีดีกรีจากสถาบันการศึกษาในฐานะอาจารย์หรือผู้เชี่ยวชาญในตลาดแล้ว เรื่องนี้จะเป็นใบเบิกทางอย่างดีในการได้รับการว่าจ้างเป็นที่ปรึกษา อธิบายให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น เช่น เมื่อหลายปีก่อนผู้เขียนมีความเข้าใจเรื่องตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเวชสำอางเป็นอย่างดีเนื่องจากมีโอกาสได้ทำงานในบริษัทที่อยู่สายของวงจรของสินค้า(supply chain) ตั้งแต่ขั้นตอนการวิจัย ผลิตในโรงงาน กระบวนการนำเข้า โครงสร้างราคาสินค้า จนกระทั่งถึงการนำสินค้าเข้าตลาดไปสู่มือผู้บริโภค พอได้พบหรือรู้จักกับคนที่มีทุนและตั้งใจจะผลิตสินค้าในกลุ่มนี้ ต้องการเป็นเจ้าของตราสินค้าด้วยตัวเอง พูดคุยกันถูกคอก็เหมือนทุกอย่างจะลงตัวพอดิบพอดี ที่คนนึงเหมือนจะมีเงินทุน อีกคนมีความรู้และประสบการณ์ในงานและไม่ต้องการทำงานประจำ จึงสรุปลงตัวกันได้ที่การจ้างงานในแบบที่ปรึกษาเป็นรายเดือน หรือ โปรเจคก็ขึ้นกับความตกลง

การที่ผู้เขียนนำเรื่องอาชีพของการเป็นที่ปรึกษามาเขียนในวันนี้ ไม่ได้ต้องการอวดอ้างสรรพคุณส่วนตัวเรื่องงานแต่อย่างใด แต่เนื่องจากมองเห็นโอกาสอย่างหนึ่งที่จะเกิดขึ้นภายหลังการเปิดเสรีอาเซียนที่เงินลงทุนจะเข้ามายังภูมิภาคของเราอย่างมหาศาล เนื่องจากการชะลอตัวของตลาดในยุโรปและอเมริกาต่อเนื่องยาวนาน ส่งผลต่อการเกิดยุคบูรพาภิวัฒน์ หรือ ยุคทองของเอเชียที่กำลังเริ่มต้นอยู่ ณ เวลานี้ วันที่ตลาดตะวันออกอย่างเอเชียเป็นตลาดของโอกาสจากการค้าและการลงทุนจากทุกมุมโลก ในฐานะที่อยู่ที่ประเทศไทย ถ้าเราไม่อยู่ในฐานะที่สามารถจะผลิตและส่งสินค้าออกไปจำหน่ายในประเทศในภูมิภาคเอเชียได้แล้ว การตั้งมั่นในฐานที่รับภายในประเทศก็เป็นเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย เพราะถ้ามองจากภายนอกเข้ามาแล้ว คนไทยยังมีกำลังซื้อสูงระดับหนึ่งในสายตาต่างชาติโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียนด้วยกัน ถึงเงินในกระเป๋าเรามีมากมีน้อย เศรษฐกิจในประเทศจะส่งสัญญาณอย่างไร คนที่มีกำลังในการจับจ่ายใช้สอยก็ยังคงสามารถซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยบางอย่างได้อย่างไม่กระทบกระเทือน และสิ่งหนึ่งที่เห็นชัดจากงานวิจัยในกลุ่มประเทศอาเซียนตอนบน(CLMV+Thailand) รวมไปถึงประเทศไทยว่าเราเปิดรับการเข้ามาของตราสินค้าจากต่างประเทศเสมอ มีความจงรักภักดีต่อตราสินค้าใดสินค้าหนึ่งต่ำ และเปลี่ยนไปได้ตามกาลเวลาอยู่ตลอด เกริ่นนำมายาวมากขนาดนี้เพื่อจะสรุปว่ามีนักลงทุนและเจ้าของตราสินค้าจากทั่วทุกมุมโลกที่เล็งเห็นถึงโอกาสการเปิดตลาดและขยายตลาดเข้ามาในภูมิภาคเอเชียรวมถึงในประเทศไทย ถ้าเป็นนักลงทุนหรือเจ้าของตราสินค้าใหญ่ๆ การเข้ามาบุกตลาดในประเทศไทยก็คงไม่ยากในการจัดตั้งบริษัทสำนักงานสาขาในประเทศไทย หรือ จ้างตัวแทนจำหน่ายใหญ่ๆ ในสายของสินค้านั้นๆ เพื่อผลักดันสินค้าของตนเองเข้าตลาด แต่ยังมีนักลงทุนหรือเจ้าของตราสินค้าขนาดกลางและขนาดเล็กอยู่ไม่น้อยที่ตามหาผู้เชี่ยวชาญในตลาด หรือ คนที่ไว้ใจได้ที่จะช่วยถ่ายทอดความรู้ในการเข้าตลาดหรือเป็นพี่เลี้ยงในการทำตลาดในประเทศไทยให้เขา ได้อ่านมาถึงตรงนี้แล้วเห็นโอกาสที่เกิดขึ้นเหมือนผู้เขียนไหมคะ เราเหลือเวลาอีก 2 ปีในการเตรียมตัวและสร้างช่องทางของตัวเองในการทำงานในระดับนานาชาติเมื่อเกิดการเปิดเสรีอาเซียนอย่างแท้จริงค่ะ ภาษา และ การลับอาวุธในเรื่องที่เราถนัดและเชี่ยวชาญยังคงต้องทำอยู่เสมอก่อนจะถึงเวลาลงสนามจริง สำหรับใครที่คิดว่าตัวเองพร้อมแล้วกับการเป็นที่ปรึกษาในเรื่องที่ตัวเองถนัดและเชี่ยวชาญ ในบางสาขาวิชามีเวทีให้ขึ้นทะเบียนรับรองเป็นที่ปรึกษาที่ได้รับการรับรองในนามรัฐบาลไทยค่ะ เช่น ที่ปรึกษาที่ขึ้นทะเบียนในนามกระทรวงอุตสาหกรรม หรือ กระทรวงการต่างประเทศ เป็นต้น อยากให้คนที่มองเห็นโอกาสเหมือนที่ผู้เขียนเห็นในการเติบโตของการค้าการลงทุนของตลาดเอเชียหรือในประเทศไทย กลับมาสร้างโอกาสให้ตัวเอง ทำผู้ลงทุนหรือเจ้าของตราสินค้าจากต่างประเทศมองเห็นเราได้ชัดเจนขึ้นค่ะ

ใดๆ ก็ดีสำหรับการทำงานของที่ปรึกษาในประเทศ เรายังมีมุมกลับกันให้ทำงานในการส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการไทยเพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ และการสร้างพันธมิตรในการส่งเสริมการทำงานของผู้ประกอบการไทยในต่างประเทศด้วยเช่นกันค่ะ มีเวลาแล้วจะมาเขียนกันยาวๆ อีกทีนะคะ




หมายเลขบันทึก: 508654เขียนเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2012 20:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 ธันวาคม 2012 12:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท