บันทึกที่47 ทอดกฐิน ตอนที่1


หลังวันออกพรรษาเดือนหนึ่ง เป็นเทศกาลงานบุญทอดกฐิน ปีนี้ผู้เขียนได้รับคำชักชวนจากคนคุ้นเคยกันว่า ขอเชิญไปเป็นเจ้าภาพทอดกฐินที่จังหวัดสมุทรสงคราม ก็ตกปากรับคำไปทันทีทันใด ด้วยความเต็มใจยิ่ง เพราะวัดนี้เคยอุปถากกันมาแต่ก่อน ตั้งอยู่ที่กิ่งอำเภอวัดเพลง จังหวัดราชบุรี  ที่บ้านไปมีสวนอยู่ก่อนทางเข้าถึงวัด แต่ก่อนชาวบ้านใช้วิธีพายเรือไปวัดเพื่อทำบุญหรือไปที่ถนนใหญ่เพื่อต่อรถไปทำกิจธุระในเมือง ต่อมาชาวบ้านได้มาขอที่สวนของที่บ้านตัดเป็นถนนผ่านเข้าไปในหมู่บ้านด้านในที่ลึกเข้าไปสวน และทางวัดก็ได้มาขอทำสะพานเชิ่อมจากถนนนี้เป็นทางเข้าวัดด้วย จึงวางแผนว่าทำบุญด้วยปัจจัยแล้วจะไปร่วมพิธีถวายผ้ากฐินด้วย

ก่อนถึงวันเดินทางก็โทรไปสอบถามพรรคพวกกันที่บ้านสมุทรสงคราม ไต่ถามกันว่ามีใครจะไปบ้าง งานเริ่มกี่โมงและควรไปถึงกี่โมง เมื่อนัดแนะกันเสร็จสรรพก็วางแผนการเดินทางในวันรุ่งขึ้น    

เช้าวันเสาร์(11 พย.55) ผู้เขียนพร้อมครอบครัว พ่อแม่และลูกอีกหนึ่ง รวม3 คน ออกเดินทางจากบ้านที่กรุงเทพฯตอนแปดโมง มุ่งหน้าไปตามถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี ผ่านจังหวัดนครปฐมและไปทางจังหวัดราชบุรี เช้านี้เป็นเช้าที่อากาศดี รถวิ่งเต็มถนนตลอดทางแต่ไม่ถึงกับติดขัด รถวิ่งทำความเร็วสบายๆที่ 80-100 กม./ชม. แต่ต้องระวังครับ เพราะมีทางแคบ เพราะปิดบางช่องทาง ไม่ช่องซ้ายหรือไม่ก็ขวา กำลังว่อมผิวจราจรเป็นช่วง ตอนนี้กำลังซ่อมช่วงสะพานข้ามแม่น้ำนครชัยศรี

ขณะขับรถรถเพลินคิดไปว่า เพื่อนร่วมถนนที่เห็นนี้ ก็คงเดินทางไปทอดกฐินเช่นเราเหมือนกันกระมัง เพราะระยะเวลาที่กำหนดให้พุทธศาสนิกทอดกฐินมีเพียงเดือนเดียวเท่านั้น และเจ้าภาพกฐินก็เป็นคนทำงาน ไม่ราชการก็ทำธุรกิจ จึ่งมักเลือกทำงานเอาในวันเสาร์หรือไม่ก็วันอาทิตย์เป็นหลัก รถที่วิ่งขวักไขว่จึงน่าเป็นรถของผู้กำลังจะไปทำบุญงานทอดกฐินกระมัง สำนึกบอกว่าอย่างนั้น 

การทำบุญเป็นการสร้างทานบารมีแห่งตนเอง แต่การบอกทางบุญให้แก่เพื่อนร่วมวัฏสังสารให้พ้นทุกข์เป็นบุญที่ยิ่งใหญ่กว่า งานทอดกฐินที่เห็นเป็นส่วนใหญ่เป็นงานกฐินสามัคคี ที่มีเจ้าภาพหลัก และชักชวนใกใล้ชิด ผู้ที่เคารพนับถือ  ญาติสนิทมิตรสหายและหัวหน้าหรือไม่ลูกน้องมาร่วมกันเป็นรองประธานบ้างหรือเป็นกรรมการบ้าง บ้างปีมีชื่ออยู่หลายแห่ง ได้ไปด้วยตนเองบ้างหรือมอบปัจจัยไปทำบุญบ้าง ตามกำลังแห่งศรัทธาของแต่ละท่าน นี่คือศรัทธาแห่งพุทธศาสนิก แต่ทางพระสอนว่า เป็นการสร้างบริวารสมบัติ ต่อไปในภายภพหน้าจะเป็นผู้อุดมด้วยบริวาร

จากกรุงเทพไปตามถนนเพชรเกษม กม 50 จะถึงจังหวัดนครปฐมเบี่ยงออกขวาออกเส้น by pass เพื่อมุ่งหน้าไปราชบุรี  ทาง by pass ที่นครปฐมแปลกกว่าที่อื่น เพราะปกติเส้นเลี่ยงเมือง จะต้องไม่มีแยกหรือแยกน้อยๆ โดยใช้สะพานยกระดับ แต่ที่นครปฐม by pass จะมีไฟแดงถี่มาก ติดไฟแดงเสียหายอยากทุกครั้งที่ไป ผ่านไปได้ ก็บ่ายหน้าเข้าเขตอำเภอบ้านโป่ง ที่ กม.70 ตรงนี้มีรถส่วนหนึ่งแยกขวาเพื่อจังหวัดกาญจนบุรี รถของผู้เขียนยังมุ่งหน้าไปตามเส้นทางเพชรเกษม เข้าสู่อำเภอโพธาราม ผ่านสี่แยกบางแพ ถ้าเลี้ยวขวาจะเข้าอำเภอโพธาราม แต่ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปอำเภอบางแพและอำเภอดำเนินสะดวก รถของเราจะตรงไปเข้าเมืองราชบุรี

ช่วงบ้านโป่งจะมีของดีบ้านโป่งที่ขอแนะนำคือนมสดบ้านโป่ง แถวร้านค้าย่านชุมชนตรงข้ามกับวัดหนองโพ จะมีร้านค้าจำหน่ายนมสดถุง คือนมวัวสดที่ช้าวบ้านเลี้ยงวัวแล้วรีดนมวัวทุกวัน นำมาปรุงรสและจำหน่ายในร้านข้าง เพื่อนของผู้เขียนไปเที่ยวปักษ์ใต้ กลับมาต้องขอให้จอดรถ วิ่งลงไปที่ร้านนี้แหละ แล้วหิ้วนมสดถุงเบ้อเร้อกลับมาทานที่บ้านกรุงเทพ แต่ถ้าช่วงโพธารามนี้ ทั้งข้างซ้ายและขวาจะมีสินค้าขึ้นชื่อของโพธารามคือ ตุ๊กตาผ้า เป็นการนำเศษผ้ามาเย็บเป็นต๊กตาแบบต่างๆ ที่ใช้สำหรับเป็นของขวัญ ผู้เขียนยังเคยซื้อยกโหลมาแจกเป็นของขวัญปีใหม่แก่ลูกน้องบ่อยๆ ตอนหลังไม่กล้าเท่าไร เพราะมีข่าวว่า มีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์เข้ามาเกี่ยวข้อง คือนำการ์ตูนการ์ฟิลด์ มดเอกซ์ หรือ angry birds แล้วเขาจะฟ้องลิขสิทธิเอาแนะ  แต่ถ้า5 กม.ก่อนเข้าตัวเมืองราชบุรี ต้องแวะซื้อ ceramic ของดีเมืองโอ่งราชบุรี ทั้งสองฝั่งขอเชิญชมและแวะซื้อได้ตามอัธยาศัย แต่ถ้าที่ร้านรัตนโกสินทร์ ร้านฝั่งขาออกกรุงเทพมีเตาเผาให้ชมได้ด้วยครับ ส่วนฝั่งขาเข้ามีของสวยงามมากมาย ให้ชมและเลือกซื้อ

ที่ กม.100 ก่อนเข้าเมืองราชบุรี มี by pass เลี่ยงเมือง 2 เส้น เส้นเดิมวิ่งข้ามแม่น้ำแม่กลองเหนือเมือง มีป้ายบอกทางว่าไป จ.เพชรบุรี ด้านนี้มีทางแยกออกไปอำเภอจอมบึงและอำเภอสวนผึ้ง นักเลงดูแกะสวนผึ้งคงรู้จักดี แต่เส้นทางของผู้เขียนต้องใช้ถนนเลี่ยงเมืองเส้นใหม่ คือแยกซ้าย มีป้ายบอกทางว่าไป จ.เพชรบุรีเช่นกัน เพราะจะไปรวมกับเส้นแรก ถนนเลี่ยงเมืองเส้นนี้จะไปข้ามแม่น้ำแม่กลองใต้เมือง

เมื่อรถวิ่งข้ามแม่น้ำไปแล้วจะต้องย้อนกลับมาเข้าเส้นทางราชบุรี-วัดเพลง ไปอีกประมาณ 20 กม. จะถึงวัดที่จะไปทอดกฐินที่ว่า ถ้าใครมาถึงที่เมืองราชบุรี แนะนำว่า มีแหล่งวัฒนธรรมคูบัว ซึ่งเก่าแก่มากในยุคสมัยทวาราวดี สนใจเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์วัดคูบัวให้ชมอยูใกล้ๆกับวัด วิ่งออกจากเมืองไปซัก 5 กม. แต่จะให้สะใจมากกว่าขอแนะนำ ร้านอาหารปลาช่อนลุยสอนร้านเจ๊ออน วัดคูบัว อร่อยแซบอย่างบอกใคร นักท่องเที่ยวรู้จักดี ขอเตือนว่าเสาร์อาทิตย์ต้องยืนรอคิว เปิดดูรายการของร้านได้ในเวบไซต์นะครับ นี่โฆษณาให้โดยไม่มี sponsor

ผู้เขียนแยกออกจากถนนเพชรเกษม ใช้เส้นทาง by[ass เส้นใหม่ รถวิ่งไปอีก 15 นาทีก็แยกเขาวัดเกตุน้อยที่ กม 7 เลี้ยวผ่านวัดเกาะศาลพระ ขับผ่านทะลุหลังวัดเข้าสวนไปอีก 10 นาที จะถึงสวนหน้าวัด ผ่านที่ดินตนเอง เข้าไปในวัด โอ..มาถึงวัดเอา 10.00 น. ได้พบกับพรรคพวกที่นัดกันไว้

[ฉบับพบกับพิธีทอดกฐิน]


 

 

คำสำคัญ (Tags): #classroom#msd
หมายเลขบันทึก: 508394เขียนเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2012 20:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 ธันวาคม 2012 13:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

การทำบุญเป็นการสร้างทานบารมีแห่งตนเอง แต่การบอกทางบุญให้แก่เพื่อนร่วมวัฏสังสารให้พ้นทุกข์เป็นบุญที่ยิ่งใหญ่กว่า เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะท่าน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท