เมื่อ ก.พ.อ. ประกาศเป็นระเบียบออกมา แต่ละมหาวิทยาลัย ก็นำไปปฏิบัติ จากการสืบค้น แต่ละมหาวิทยาลัยจะมีรายละเอียดแตกต่างกันพอสมควรในระดับการปฏิบัติระดับหน่วยงาน แต่จะคล้ายกันในระดับสถาบัน ในตอนนี้ผมนำ ระบบและกลไกการประเมินฯ ข้าราชการและพนักงาน สังกัดมหาวิทยาลัยมหาสารคาม มาบันทึกไว้ ให้อ่านๆ ง่ายๆ ครับ
ด้านวัตถุประสงค์ของการประเมิน มมส. ล้อกับวัตถุประสงค์ของ ก.พ.อ. เหมือนกับข้ออื่นๆ เพียงแต่มีการกำหนดรายละเอียดให้ชัดเจนขึ้นดังนี้
ผู้ประเมินผลการปฏิบัติราชการ
ตามประกาศมหาวิทยาลัย เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการและพนักงานในระดับอุดมศึกษา สังกัดมหาวิยาลัยมหาสารคาม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2555 ได้กำหนดแก้ไขผู้ประเมินจากเดิมที่กำหนดให้ผู้บังคับบัญชาโดยตรง เป็นคณะกรรมการ ดังนี้
“ ระดับคณะ หรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ ประกอบด้วยคณบดีหรือผู้ซึ่งคณบดีมอบหมาย เป็นประธานกรรมการ ผู้แทนจากคณะกรรมการประจำคณะจำนวนสองถึงห้าคนเป็นกรรมการ หัวหน้าสำนักงานเลขานุการคณะหรือผู้ซึ่งคณบดีมอบหมาย เป็นเลขานุการ”
เกณฑ์การประเมิน
คะแนน ร้อยละ 90-100 อยู่ในระดับ ดีเด่น
คะแนน ร้อยละ 80-89 อยู่ในระดับ ดีมาก
คะแนน ร้อยละ 70-79 อยู่ในระดับ ดี
คะแนน ร้อยละ 60-69 อยู่ในระดับ พอใช้
ต่ำกว่า ร้อยละ 60 ต้องปรับปรุง
องค์ประกอบของการประเมิน
การประเมินผลการปฏิบัติราชการ ให้ประเมินโดยพิจารณาจากองค์ประกอบของสัดส่วนของการประเมิน ดังนี้
1)ผลสัมฤทธิ์ของงาน (ร้อยละ 70) โดยพิจารณาจาก
- ปริมาณผลงาน
- คุณภาพของงาน
2)พฤติกรรมการปฏิบัติงาน (ร้อยละ 30) โดยพิจารณาจาก
- สมรรถนะหลัก
- สมรรถนะประจำกลุ่มงาน หรือ สมรรถนะทางการบริหาร
กรณีที่อยู่ระหว่างการประเมินผลการทดลองปฏิบัติงาน ให้ประเมินโดยใช้องค์ประกอบและสัดส่วนของการประเมิน 50:50 ดังที่ระเบียบ ก.พ.อ. กำหนด
สมรรถนะสำหรับตำแหน่งข้าราชการและพนังงานสังกัดมหาวิทยาลัยมหาสารคาม สภามหาวิทยาลัยในคราวประชุมครั้งที่ 4/2554 เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2554 มีมติเลือก 5 ด้าน สมรรถะหลัก ได้แก่
1)การมุ่งผลสัมฤทธิ์ (Achievement Motivation)
2)บริการที่ดี (Service Mind)
3)การสั่งสมความเชี่ยวชาญในวิชาชีพ (Expertise)
4)การยึดมั่นในความถูกต้องชอบธรรมและจริยธรรม (Integrity)
5)การทำงานเป็นทีม (Teamwork)
สมรรถนะเฉพาะตามลักษณะของงานที่ปฏิบัติ สภามหาวิทยาลัยในคราวประชุมครั้งที่ 4/2554 เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2554 มีมติเลือก 6 ด้าน ทั้งนี้ได้กำหนดเลือกแล้ว 3 ด้าน
1)การคิดวิเคราะห์ (Analytical Thinking)
9)การดำเนินการเชิงรุก (Proactive ness)
16)การสร้างสัมพันธภาพ (Relationship Building)
อีก 3 ด้านให้เป็นไปตามประกาศมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ว่าด้วยการกำหนดสมรรถนะและระดับสมรรถนะสำหรับข้าราชการและพนักงานของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม พ.ศ. 2554 สำหรับข้าราชการและพนักงานสายวิชาการได้แก่
2)การมองภาพองค์รวม (Conceptual Thinking)
3)การใส่ใจและพัฒนาผู้อื่น (Caring Others)
7)ความเข้าใจผู้อื่น (Interpersonal Understanding)
ส่วนพนักงานสายสนับสนุน จะแตกต่างกันไปตามลักษณะของงานที่กำหนดไว้ในคู่มือ หลักเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการและพนักงาน สังกัดมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งโดยมากจะมีข้อที่เหมือนกันคือ
10)การตรวจสอบความถูกต้องตามกระบวนงาน (Concern for Order)
11)ความมั่นใจในตนเอง (Self Confidence)
สมรรถนะสำหรับข้าราชการตำแหน่งประเภทบริหาร ตามมาตรา 18 (ข) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. 2547 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ให้ประเมินสมรรถนะทางการบริหาร 5 ด้าน ตามที่สภามหาวิทยาลัยในคราวประชุมครั้งที่ 4/2554 เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2554 ได้กำหนด ดังนี้
จะสังเกตเห็นว่า สภามหาวิทยาลัยต้องการคนที่ทำงานแบบ คิดวิเคราะห์ คิดเชิงรุกสร้างสรรค์ ทำงานกับผู้อื่นได้ และมองอย่างเป็นองค์รวม ครับ1)สภาวะผู้นำ (Leadership)
2)วิสัยทัศน์ (Visioning)
3)การวางกลยุทธ์ภาครัฐ (Strategic Orientation)
4)ศักยภาพเพื่อนำการปรับเปลี่ยน (Change Leadership)
5)การสอนงานและการมอบหมายงาน (Coaching and Empowering Others)
ไม่มีความเห็น