แนวโน้มพลังงานอนาคต-พลังงานทางเลือก



.
สำนักข่าว BusinessInsider ตีพิมพ์เรื่อง 'Stunning photos of the world's future energy source'
= "ภาพแหล่งพลังงานโลกอนาคตที่ทำให้ตะลึงงัน(stun = ทำให้ตะลึงงัน แปลกใจ, ทำให้สลบ เช่น ทุบตีจนสลบ ฯลฯ)", ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ
.
เราๆ ท่านๆ คงจะคิดว่า ต่อไปคงจะมีการใช้พลังงานทางเลือกมากจนทดแทนพลังงานฟอสซิล หรือเชื้อเพลิงจากซากพืช-สัตว์ในรูปน้ำมัน-แก๊ส-ถ่านหินได้
.
ทว่า... ประธานฝ่ายบริหาร (CEO) เกร็ก บอยซ์ แห่งบริษัทเหมืองถ่านหินพีบอดี คาดการณ์ไว้สอดคล้องกับรายงานของบริษัทน้ำมัน BP (British Petroleum - บริทิช ปิโตรเลียม) คือ
.
ถ้าการวิจัย-พัฒนา (research & development / R&D) ยังก้าวไปไม่เร็วพอ และต้นทุนพลังงานทางเลือกยังคงสูงอยู่อย่างทุกวันนี้ แนวโน้มคงจะเป็นดังภาพกราฟ คือ ถ่านหินจะเป็นพระเอก และแก๊สธรรมชาติจะเป็นพระรองต่อไปอีกนาน...
.

.
ภาพ: แสดง แนวโน้มสัดส่วนการใช้พลังงานตั้งแต่ช่วงปี 1990-2000-2010-2020-2030/2533-2543-2553-2563-2573 (ภาพซ้ายแสดงยอดการใช้รวม; ภาพขวาแสดงอัตราการเจริญเติบโต-เพิ่มการผลิต) จากรายงาน Energy Outlook 2030 โดยบริษัท BP
  • renewables = พลังงานที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ เช่น แสงแดด ลม ฯลฯ
  • hydro = พลังงานน้ำ เช่น เขื่อน ฯลฯ
  • nuclear (สีเหลือง) = นิวเคลียร์
  • coal (สีเทา) = ถ่านหิน
  • gas (สีแดง) = แก๊ส
  • oil (สีเขียว) = น้ำมัน

.
ถึงแม้โลก จะใช้ถ่านหินผลิตพลังงานในสัดส่วนที่น้อยลง คือ จาก 70% เป็น 55% ในปี 2030/2573, ทว่า... ช่วง 10 ปีแรกจะมีการใช้เพิ่มขึ้น 39% ในทศวรรษ (10 ปีข้างหน้า) และเป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้าอันดับ 1
.
อินเดียจะเป็นผู้ใช้รายใหญ่ที่มีการใช้ถ่านหินในสัดส่วนที่ถูกขึ้น 48% ในช่วง 20 ปีข้างหน้า
.
ประเทศนอกกลุ่ม OECD (non-OECD) หรือประเทศที่ค่อนไปทางยากจน ผลผลิตอุตสาหกรรมน้อยจะมีการใช้ถ่านหินเพิ่มอย่างต่ำ 2.1%/ปี ไปจนถึงปี 2030/2573
.
OECD เป็นองค์กรเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา มีสมาชิกเป็นประเทศที่พัฒนาด้านอุตสาหกรรมไปไกลแล้ว คือ สหรัฐฯ-แคนาดา, ยุโรป, ตุรกี ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ ชิลี
.

.
นั่นคือ ประเทศที่ค่อนไปทางยากจนมีแนวโน้มจะใช้ถ่านหินเพิ่มขึ้นมากกว่าประเทศที่ค่อนไปทางรวย
.
ปัจจัยกำหนดที่สำคัญ คือ ราคาต่อหน่วยล้าน BTU (MMbtu)
  • ถ่านหินราคาต่ำกว่า 3 ดอลลาร์สหรัฐฯ แถมราคายังตกลงไปเรื่อยๆ
  • แก๊ส 10 ดอลลาร์ฯ ในยุโรป, 15 ดอลลาร์ฯ ในเอเชีย
ตอนนี้กระบวน การใช้แรงดันของเหลว(ไฮโดรลิค)กระแทกชั้นหิน (frackling) บ่อน้ำมันเก่าให้แตก เพื่อแยกเก็บแก๊สก้าวไปในไกลในสหรัฐฯ ทำให้จีนกำลังวางแผนทดลองผลิตในประเทศบ้าง
.
เทคโนโลยีนี้ทำให้สหรัฐฯ ผลิตแก๊สได้มากขึ้น และอาจก้าวสู่ผู้ผลิตรายใหญ่แทนรัสเซียในอนาคต
.

.
ถ้าการผลิต แก๊สจากเทคโนโลยีนี้ทำสำเร็จทั่วโลกมากพอ และ/หรือ มีการขุดแก๊สจากแหล่งใหม่ได้ เช่น แหล่งแก๊สยักษ์นอกชายฝั่งอิสราเอล-ซีเรีย (นี่อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดการโค่นอำนาจเก่าในซีเรีย), แหล่งแก๊สในทะเลจีนใต้ (ที่จีน-ญี่ปุ่น-อาเซียนกำลังแย่งกัน) ฯลฯ อาจทำให้แก๊สมีราคาถูกลง และมีที่ใช้มากขึ้นได้
.
รศ.เดวิด ดิสมิวส์ จากมหาวิทยาลัยลุยเซียนา สเตท กล่าวว่า ต้นทุนไฟฟ้านิวเคลียร์ใกล้เคียงกับแก๊ส-น้ำมัน
.
ทุกวันนี้สหรัฐฯ ส่งถ่านหินไปขายยุโรปเป็นหลัก และกำลังหาทางส่งไปขายในจีนเพิ่มขึ้น
.
ตราบใดที่โลกเรายังหาแหล่งพลังงานที่ถูกกว่าถ่านหินได้... ถ่านหินก็จะยังไม่ตาย
.

.
ชาติใดใช้ ถ่านหินสะอาด (ชนิดคุณภาพดีกว่าลิกไนต์) สร้างไฟฟ้าในสัดส่วนสูงมีแนวโน้มจะได้เปรียบในการแข่งขันกับนานาชาติ เนื่องจากต้นทุนพลังงานถูกกว่า
.
ชาติใดไม่ยอมใช้ถ่านหินสะอาดสร้างไฟฟ้า มีแนวโน้มจะเสียเปรียบในการแข่งขันกับนานาชาติ เนื่องจากต้นทุนพลังงานสูงกว่า
.
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
.

> [ Twitter ]

  • ขอขอบพระคุณ >
  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ รพ.ห้างฉัตร ลำปาง. 13 ตุลาคม 55. ยินดีให้ท่านนำบทความไปใช้ได้ โดยอ้างที่มา และไม่จำเป็นต้องขออนุญาต... ขอบคุณครับ > CC: BY-NC-ND.
หมายเลขบันทึก: 505532เขียนเมื่อ 13 ตุลาคม 2012 23:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 ตุลาคม 2012 03:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

Thank you for this info.

From "...กระบวน การใช้แรงดันของเหลว(ไฮโดรลิค)กระแทกชั้นหิน (frackling) บ่อน้ำมันเก่าให้แตก เพื่อแยกเก็บแก๊สก้าวไปในไกลในสหรัฐฯ ทำให้จีนกำลังวางแผนทดลองผลิตในประเทศบ้าง..." I googled "fracking in usa" and read a few pages.

The problems with fracking are the breaking of earth layers and the use of "hazardous chemicals" to drive up gas. The gas can permeate the ground and leak every-which-way (fracking=fracturing=blasting without knowing what and where things break), chemical solutions can then permeate and leak into fractures and underground water sources (springs and underground rivers) making the water poisonous and not usable by any life form.

We may be burning gas quite cleanly. But, we are killing off lives on the planet getting the gas! We can ferment rubbish to generate methane gas to make electricity and clean the planet.

Smart use of "renewable energy" will create "jobs" and save our world.

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท