ตามธรรมเนียมทั่วไปสำหรับคนไทย เมื่อจะมีงานการมงคลใดๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ทำบุญวันเกิด บรรพชาอุปสมบท แต่งงาน ฯลฯ ย่อมต้องจัดให้มีการทำบุญสวดมนต์เลี้ยงพระ ร่วมด้วยเสมอ เพื่อความเป็นสิริมงคล อีกทั้งยังถือว่าเป็นการสนับสนุน กิจการของพระพุทธศาสนาทางหนึ่งด้วย เพราะพระสงฆ์สาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อได้มีโอกาสมาในงานชุมนุมหรืองานประเพณีของชาวบ้าน ย่อมสามารถสาธยายธรรมเผยแผ่วัตรข้อปฏิบัติอันประเสริฐ แก่สาธุชนทั่วไป
ดังนั้น แม้ในงานประเพณีอื่นๆที่เป็นอวมงคล เช่น งานศพ งานเกี่ยวกับประเพณีหลังการตาย อันได้แก่ งานทำบุญร้อยวันให้แก่ผู้ที่ล่วงลับ งานสวดทำบุญกระดูก ฯลฯ ก็มีการทำบุญเลี้ยงพระประกอบด้วยเสมอ
อัน พิธีอวมงคล นั้น ตามความหมายก็คือ การทำพิธีให้ร้ายกลับกลายเป็นดี หรือทำให้ความไม่เป็นมงคล เช่น เมื่อมีคนตายในบ้านกลายเป็นสิริมงคล หลังจากทำพิธีทำบุญสวดมนต์เลี้ยงพระ
ระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับการทำบุญเลี้ยงพระ
แม้ว่าในแต่ละท้องถิ่น จะมีความนิยมหรือข้อปลีกย่อยแตกต่างกันไปบ้าง แต่โดยทั่วไปแล้วมีระเบียบปฏิบัติคล้ายกันดังนี้
๑. การกำหนดฤกษ์
๒. การนิมนต์พระ
๓. การบอกข่าวงาน
๔. การเตรียมงานสถานที่
๕. การจัดที่พุทธบูชา
๖. การจัดเตรียมอาสนะหรือที่นั่งของพระสงฆ์
๗. การจัดเตรียมบาตรน้ำพุทธมนต์และเครื่องสระศีรษะ
๘. การจัดเตรียมอาหารสำหรับเลี้ยงพระและผู้มาร่วมงาน
๙. การจัดเตรียมเครื่องไทยธรรมสำหรับถวายพระ
๑๐. การสวดเจริญพระพุทธมนต์
๑๑. การรับ-ส่งพระ
๑๒. การเริ่มพระพุทธมนต์
๑๓. ฯลฯ
ไม่มีความเห็น