ค
ผมเป็นคนประเภทศรัทธาต่อการเรียนรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติ เพราะนั่นคือบ่อเกิดแห่งความรู้ บ่อเกิดแห่งปัญญา
ยิ่งเมื่อในมารับผิดชอบเกี่ยวกับโครงการบริการวิชาการแก่สังคม (1 หลักสูตร 1 ชุมชน) ยิ่งตอกย้ำต่อสิ่งที่ศรัทธา เพราะการบริการวิชาการแก่สังคมในชื่อ “1 หลักสูตร 1 ชุมชน” เสมือนการปฏิรูปการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ยึดชุมชนเป็นห้องเรียนอีกห้องหนึ่งของการเรียนรู้ เพื่อให้นิสิตและอาจารย์ได้นำองค์ความรู้ในภาคทฤษฎีไปสู่การปฏิบัติ หรือแม้แต่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับชาวบ้าน เพื่อจัดการความรู้สู่การยกระดับความรู้ร่วมกัน
ครับ,คำถามเช่นนั้น ชี้ชัดว่าผมเจตนาถามทักถึงนาฏการณ์อันเป็นโลกภายในของผู้ปฏิบัติโดยแท้- ผู้ปฏิบัติอันหมายถึงผู้มีสถานะแห่งการ “เรียนรู้คู่บริการ” อันหมายถึง “นิสิตและอาจารย์”
ผมให้ความสำคัญกับคำถามต่อกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้มาก ส่วนกลุ่มเป้าหมายที่เป็นชาวบ้าน หรือชุมชนนั้น อาจต้องใช้กระบวนการหลากวิธีและใช้ระยะเวลามากเป็นพิเศษ เพราะเรื่องบางเรื่องที่ร่วมเรียนรู้ หรือลงมือทำด้วยกันนั้น อาจยังต้องใช้เวลาอีกพอสมควรสำหรับการถามทักถึงความเข้มแข็งและยั่งยืน ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นเช่นนั้น แต่ผมกลับหลีกหลบที่จะถามถึงเรื่องดังกล่าว -หลีกหลบ แต่ไม่ละเลย เพียงแต่อาจต้องใช้วิธีการและเวลาอีกซักระยะ
กรณีดังกล่าวนี้ ครั้งหนึ่งที่เคยลงพื้นที่เยี่ยมเยียน หรือแม้แต่ร่วมเรียนรู้กับนิสิตและอาจารย์ในโครงการ “ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสร้างอาคารดินอบสมุนไพรเพื่อความยั่งยืนของชุมชนบ้านท่าขอนยาง” ผมก็เคยได้ตั้งคำถามเรื่องนี้กับนิสิตและอาจารย์จินดาพร จำรัสเลิศลักษณ์ ผู้รับผิดชอบด้วยเหมือนกัน
โครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งในโครงการ “1 หลักสูตร 1 ชุมชน” ที่ขับเคลื่อนโดยสาขา (วศ.บ.) วิศวกรรมชีวภาพ ซึ่งดำเนินการสร้างอาคารดินเพื่อเป็นสถานที่บริการเกี่ยวกับอบสมุนไพรให้กับชาวบ้าน ผ่านกลไกการทำงานแบบมีส่วนร่วมระหว่างมหาวิทยาลัยกับชุมชน (นิสิต-อาจารย์-ชาวบ้าน) หรือแม้แต่เครือข่ายอื่นๆ...
การถามทักในครั้งนั้น ช่วยให้ผมค้นพบคำตอบที่เรียบง่าย งดงามและมีพลังอย่างมหัศจรรย์ เพราะอาจารย์และนิสิตต่างสะท้อนคำตอบออกมาในทำนองเดียวกัน ดังว่า
ครับ- ผมเชื่อเหลือเกินว่าคำตอบที่ได้รับมานั้น เป็นคำตอบที่ไม่ได้ตระเตรียมกันมาแต่อย่างใด เนื่องเพราะผมถามทักคนละห้วงเวลา ถามทักคนละมุม คนละสถานที่ หรือเรียกว่า “ถามสด ตอบสด” ก็ไม่ผิด
คำตอบที่ได้รับมานั้น เสมือนการย้ำคิดในวาทกรรม “รู้จักฉันรู้จักเธอ” ที่ผมมักนำมาใช้เป็นกระบวนการเปิดเวทีในการจัดการเรียนรู้ตามที่ต่างๆ หากแต่ครั้งนี้ มีประเด็นสำคัญที่ละข้ามไปไม่ได้ คล้ายการยืนยันให้รู้ว่า การเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริงโดยมีกิจกรรม หรือชุมชนเป็นฐานการเรียนรู้นั้น เป็นกลไกหรือเครื่องมืออันสำคัญที่ช่วยหลอมรวมให้เกิดการเรียนรู้กันและกันมากขึ้น-เรียนรู้โลกภายในอันเร้นลับของแต่ละคน-สะกิดสู่การเปิดใจเปิดรับเพื่อนเข้าเยี่ยมชมโลกภายในของตัวเองไปอย่างละมุมละม่อม...และเป็นธรรมชาติ
เพราะห้วงเวลาในชั้นเรียนที่เต็มไปด้วยการบรรยายภาคทฤษฎี หรือการเรียนรู้ผ่านโลกอินเทอร์เน็ตที่ไร้พรมแดนนั้น เป็นข้อจำกัดที่ทำให้ผู้เรียนยังไม่ “รู้จักฉันรู้จักเธอ” ได้อย่างที่ควรจะเป็น
ด้วยเหตุนี้ คำตอบอันเรียบง่ายและแสนงามที่ได้รับจากอาจารย์และนิสิตผ่านเวทีโครงการ “1 หลักสูตร 1 ชุมชน” จึงถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ความสำเร็จอันเป็นวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายหลักของการดำเนินงานในโครงการ เช่น การสร้างอาคารดิน, การเรียนรู้ร่วมกับชาวบ้าน, การกระตุ้นให้ชาวบ้านพัฒนาศักยภาพของตนเองบนทุนทางสังคมของตนเอง ฯลฯ
ครับ- การลงมือทำกิจกรรมทำให้ “อาจารย์และนิสิต” ได้เรียนรู้ เข้าใจ หรือรู้จักกันมากขึ้นนั้น ผมถือว่าเป็นความสำเร็จที่น่าสนใจ เพราะก่อเกิดเป็นต้นทุนอันสำคัญของการที่จะพัฒนาผู้เรียนให้เติบโตอย่างมีคุณค่า หรือแม้แต่ช่วยให้อาจารย์ได้แตะต้องสัมผัสผู้เรียนด้วยหัวใจของการเป็นครูมากขึ้น ถึงแม้วิชาเรียนจะปิดตัวลง ตัดเกรดเสร็จ รวมถึงโครงการ 1 หลักสูตร 1 ชุมชนปิดตัวลง แต่มิตรภาพของผู้คนที่ใช้ชีวิต –ร่วมชะตากรรมในกิจกรรมเดียวกัน จะยังถักทอเป็นสายใยที่แน่นเหนียว หนุนเสริมเป็นทักษะชีวิตและทักษะการเรียนรู้ร่วมกันไปเรื่อยๆ
รู้จักฉัน รู้จักเธอ ...รู้จักกันและกัน
เหนือสิ่งอื่นใด ในทัศนะส่วนตัวของผมนั้น ความสำเร็จเช่นนี้ ถือเป็นความสำเร็จที่ควรค่าต่อการกล่าวถึง และชื่นชมร่วมกันเป็นที่สุด เป็นความสำเร็จที่ทำให้การบรรลุวัตถุประสงค์หลักในโครงการดูมีค่าและมีมูลค่าอย่างน่าสนใจ
ครับ- รู้จักฉัน รู้จักเธอ ...รู้จักกันและกัน
..บ้านดิน..ในเมืองไทย.มีข้อควรสังเกตุว่า...ควรก่ออิฐดินดิบ..บน..ผนังซีเมนต์หรือหินเป็นต้น..ความสูงก็..คำนวน..ดู..ว่า..น้ำท่วมถึงหรือไม่แค่ไหน..เพราะป้องกัน..ความชื้นเปียก..จากผิวดิน..ระยะหนึ่ง..(ยายธี)
เป็นการปลูกฝังปัญญาให้ผู้เรียนรู้อย่างงดงามมากค่ะ ขอนำไปเป็นตัวอย่าง Happy Brain หนึ่งใน Happy 8 ของโครงการ Happy Ba ค่ะ (Happy เยอะจัง จะกลายเป็น Happy Ha แล้วค่ะ)
ขอปรบมือชื่นชมดังๆ นะคะ กับความงดงามของความพยายามและสามัคคีค่ะ
กิจกรรมที่ดี ถ่ายทอดออกมาได้งดงามมากครับ
สวัสดีครับ คุณยายธี
ขอบพระคุณคำแนะนำดีๆ เหล่านี้นะครับ
ผมเองก็เฝ้าฝันว่าจะนำกระบวนการเหล่านี้ไปใช้ที่บ้านเกิด
ชวนเด็กและเยาวชน -ชาวบ้าน
มาทำบ้านดินเป็นห้องสมุด เป็นโรงภาพยนตร์เล็กๆ
ไว้จัดกิจกรรม สอนหนังสือ ...เหมือนกัน
ขอบพระคุณครับ
สวัสดีครับ พี่Sila Phu-Chaya
จริงๆ เกี่ยวกับเรื่องกิจกรรม "บ้านดิน" ในโครงการ 1 หลักสูตร 1 ชุมชนนั้น มีหลายประเด็นที่สามารถเขียนถึงได้ แต่ผมสัมผัสกับความสุขเล็กๆ นี้ เลยตัดสินใจเขียนถึง เพื่อบันทึกความสำเร็จ หรือผลพวงของการเรียนรู้จากเวทีกิจกรรมไว้ ถึงแม้จะไม่ใช่เป้าหมายหลัก หรือวัตถุประสงค์หลักของการดำเนินการทั้งปวง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า สำคัญอย่างยิ่งเลยสำหรับสิ่งที่ค้นพบ-
สวัสดีครับ พี่ Bright Lily
เห็นด้วยอย่างยิ่งนะครับว่าการงานสำเร็จลงได้ก็เพราะความพยายาม- ความร่วมไม้ร่วมมือ-สามัคคี แต่ในเวทีนั้นๆ สิ่งที่พึงใจที่สุดที่ไม่อาจมองข้ามไปได้ก็คือ ความสุขใจของการเรียนรู้ร่วมกัน ความสุขใจในการได้เห็นคุณค่าของตัวเองและคนอื่น ความสุขใจที่หลอมรวมคุณค่าเหล่านั้นเพื่อสังคมร่วมกัน...
บางทีงานไม่บรรลุเป้าหมายหลัก แต่ได้ผลลัพธ์อย่างอื่นมาชดเชยก็มีให้เห็นบ่อย นี่กระมังครับที่ว่า "หากลงมือทำสิ่งใด ไม่มีการสูญเปล่า เพราะมันคือการเรียนรู้..."
ขอบพระคุณครับ
ปลูกปัญญษ ใช่เป็นวาทกรรม แต่ลงมือทำให้เห็น เชื่อว่าโครงการ หนึ่งหลักสูตร หนึ่งชุมชน ต้นปัญญาก่อเกิดผ่านการบ่มเพาะจากชุมชน
สวัสดีครับ อ.คุณแว้บ
เดิมก็คิดนานเหมือนกันครับว่าจะเขียนประเด็นอะไรดี จะเขียนประเด็นขั้นตอนการทำงาน (บ้านดิน) ขั้นตอนการทำงานกับชุมชน แต่ด้วยเหตุที่ผมไม่ได้ลงพื้นที่ต่อเนื่องเห็นกระบวนการทั้งปวงนั้น จึงหันกลับมายังประเด็นที่ตนเองสัมผัส ซึ่งเป็นประเมินของการประเมินผลเล็กๆ ที่ผมไม่ละเลยที่จะถามถึงในทุกๆ เวที...
คำตอบที่แสนจะเรียนบง่าย
ผมฟังแล้ว ดูมีพลัง งดงาม มากเลยทีเดียวครับ
ครับ พี่วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--
การปฏิบัติ ก่อเกิดเป็นปัญญา
เป็นการหล่อหลอมให้เกิดปัญญา-ทักษะชีวิต
และที่สำคัญ 1 หลักสูตร 1 ชุมชน
คิดบนฐานของ "นิสิตและชุมชน"
คือศูนย์กลาง-คนสำคัญของการเรียนรู้
ครู คือผู้ร่วมเรียนรู้และอำนวยความสะดวกการเรียนรู้ฯ
ขอบพระคุณครับ