จดหมายถึงลูก "ภัคร" ฉบับที่ ๑๕


จดหมายถึงลูก "ภัคร" ฉบับที่ ๑๕

 

จดหมายถึงลูก "ภัคร" ฉบับที่ ๑๕

 

ตอน  คิดได้ด้วยตนเอง

 

            เมื่อวานเย็น (วันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๕๕) แม่ได้คุยกับพี่ภัครทางโทรศัพท์ ถามว่า "เรียนเป็นอย่างไรบ้าง? เพราะได้เห็นลูกบ่นว่า "เหนื่อย" ลงบน FB ได้พูดคุยกันก็พอรู้ว่า "พี่ภัครเหนื่อยเพราะเร่งเขียนบทความส่งอาจารย์" เนื่องจากกลัวว่าจะไม่ผ่าน + กับความวิตกกังวลต่าง ๆ นา นา แต่สุดท้ายพี่ภัครก็บอกแม่ว่า "ผ่านแล้วแม่" แม่ก็ได้แต่บอกพี่ภัครว่าให้ "อดทน" เพราะทุกสิ่งบนโลกนี้ ไม่มีอะไรที่จะได้มาด้วยความสะดวกสบาย มันมีทั้ง "เหนื่อยกาย + เหนื่อยใจ" ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียนหรือเรื่องการทำงาน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่พี่ภัครจะต้องพบเจอเสมอตลอดชีวิตนี้ นั่นคือ "การอดทน"

            เย็นนี้ แม่ได้คุยกับพี่ภัครทาง FB ได้ถามว่า "พี่ภัครได้ถามพ่อเรหรือยังว่า พี่ภัครจะขอทำวิทยานิพนธ์ อีก ๑ ปี คือ พี่ภัครเรียนปริญญาโทจะครบ ๒ ปี ในปีนี้ สำหรับเทอมนี้พี่ภัครจะขอส่งเค้าโครงให้เสร็จ ส่วนวิทยานิพนธ์พี่ภัครบอกว่า "ขอทำให้ได้คุณภาพจริง ๆ จึงจะขอจบ คิดว่าอีก ๑ ปี"...ปัญหามีอยู่ว่า ถ้าพี่ภัครขออยู่ที่ กทม. อีก ๑ ปี ในปีหน้า ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ พ่อเร ต้องส่งให้หนูอีก คิดเป็นเงินก็คงอีกหลายบาท...แม่ถามพี่ภัครว่า "แล้วจะทำอย่างไร?" พ่อเรบอกว่า..."ส่งให้เรียนอีกถึงเดือนมีนาคม ๒๕๕๖" แม่ถามพี่ภัครว่า "เร่งทำวิทยานิพนธ์ไม่ได้หรือ?" พี่ภัครบอกแม่ว่า "ต้องการทำวิทยานิพนธ์ให้มีคุณภาพจริง ๆ เพราะจะได้นำไปสอนนักศึกษาด้วย...ไม่ต้องการทำวิทยานิพนธ์เสร็จแล้วก็ไม่สามารถเปิดดูหรือนำมาใช้ประโยชน์ได้อีก...ต้องการให้มันมีคุณภาพ + นำประโยชน์ที่จะได้รับและนำมาใช้ได้จริง ๆ"

              แม่คิดในใจว่า "พี่ภัครนี่เหมือนแม่จัง!!! ถ้าลงจะทำแล้วก็ขอทำให้ดี ๆ มีคุณภาพและนำมาใช้ประโยชน์จริง ๆ ได้"...แม่ถามพี่ภัครต่อว่า "แล้วจะทำอย่างไร?" (สำหรับใจจริงแล้ว แม่แกล้งลองถามพี่ภัครไปว่าจะตอบแม่มาว่าอย่างไร? ส่วนแม่นั้นก็มีให้พี่ภัครอยู่แล้ว)...พี่ภัครตอบแม่มาว่า...ไม่เป็นไร "เทอมหน้าภัครจะเป็น TA ต่อ เพราะเทอมนี้พี่ภัครได้เป็น TA ด้วย"...(การเป็น TA พี่ภัครก็จะได้เงินเป็นค่าตอบแทนด้วย)... แต่ใจจริง ๆ พี่ภัครเคยบอกแม่ว่า ไม่อยากเป็น TA แล้ว เพราะเหนื่อยมาก...(อาจเป็นเพราะเทอมนี้หนูเรียนด้วยแล้วก็เป็น TA ด้วย)...แม่ถามต่อว่า "แล้วจะไหวรึ?" พี่ภัครตอบว่า "ไหว...แม่ไม่ต้องห่วงภัครหรอก สงสารแม่ + พ่อเร ให้เงินภัครมามากแล้ว ตอนนี้ภัครเริ่มช่วยตัวเองได้บ้างแล้ว...อีกอย่างตอนนี้ภัครจะลองสอบที่ต่าง ๆ ดู เพราะเหลือวิทยานิพนธ์อีกอย่างเดียว...ถ้าได้ก็จะได้เบาแรงจากพ่อเร + แม่"

             เหตุผลเพียงเท่านี้...แม่ก็พอทราบแล้วว่า "ลูกของแม่ โตขึ้นมากเลย รู้จักคิดได้ด้วยตัวเอง มีเหตุ มีผล"...สิ่งนี้เองที่แม่อยากเห็นจากหนูมานาน ๆ มาก เกือบ ๒๕ ปีทีเดียว เพราะในระยะเวลาที่ผ่านมา หนูอยากได้อะไร พ่อเร + แม่ ก็ให้ลูกเสมอมา ด้วยหนูเป็นคนที่รู้จักใช้เงิน ไม่ฟุ่มเฟือย อีกอย่างแม่เลี้ยงหนูแบบเป็นเด็กที่ไม่เคยลำบาก ให้เรียนอย่างเดียว...ซึ่งหนูก็ยังไม่เคยหาเงินด้วยตนเองสักที อาจเป็นเพราะไม่รู้จักแหล่งที่จะหาเงิน นั่นเองหรืออาจหมายถึงว่า "ในชีวิตนี้หนูไม่เคยลำบากเลยก็ว่าได้"...แต่เมื่อเทอมนี้ หนูได้เป็น TA แล้ว สามารถหาเงินได้บ้างแล้ว อาจเป็นสาเหตุทำให้หนูบอกแม่ว่า "หนูสามารถช่วยเหลือตัวเองได้บ้างแล้ว"...เท่านี้ ก็ทำให้แม่รู้ว่า "ลูกของแม่โตขึ้น มีความคิดมากขึ้น และสามารถช่วยเหลือตัวเองได้บ้างแล้ว"...เป็นความคิดที่เกิดขึ้นจาก "ความคิดของตัวหนูเอง" เรียกว่า "คิดได้ด้วยตนเอง" ซึ่งแม่ว่า มันมีค่ามากกว่าสิ่งอื่นใด ที่แม่ต้องการเห็นในตัวของหนูเอง...

 

ท่านสามารถอ่าน จดหมายถึงลูก ทุกฉบับ ได้จากที่นี่...

"จดหมายถึงลูก"

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 502939เขียนเมื่อ 20 กันยายน 2012 20:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 พฤศจิกายน 2013 15:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท