"มุทิตาสักการะ ไหว้พระทางน้ำ"

๖๐ ปี เกษียณอายุราชการ.....อายุเป็นเพียงตัวเลขเท่านั้น "เกษียณตัว ไม่ใช่เกษียณใจ"

โครงการพัฒนาประสิทธิภาพบุคลากรเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต ๑ "มุทิตาสักการะ  ไหว้พระทางน้ำ"  วันที่  ๑๑ - ๑๓  กันยายน  ๒๕๕๕  ณ  แหล่งเรียนรู้ ประจวบคีรีขันธ์  เพชรบุรี กรุงเทพมหานคร  และนครปฐม

 

วันอังคารที่ ๑๑  กันยายน  ๒๕๕๕  เช้าเวลา  ๐๖.๐๐ น.ทุกคน ได้แก่ผู้บริหารสถานศึกษา  ข้าราชการครูและบุคลากร สพป.ชพ.๑ ที่จะเกษียณอายุวันที่ ๓๐  กันยายน  นี้ จำนวน ๓๐ คน และผู้ติดตาม  รวมทั้งสิ้นจำนวน  ๒๓๐  คน  พร้อมกันที่จุดนัดหมายหน้าสพป.ชพ.๑ และตามจุดที่กำหนดนัดหมายให้รถจอดรับ ในการเดินทางครั้งนี้ประกอบด้วยรถบัส  ๕  คัน ตัวเองไปแทนผู้บริหารโรงเรียนเขาจัดให้นั่งคันที่ ๑ นั่งคู่กับผอ.โรงเรียนอนุบาลอำนวยสุข คุณรติกร  ดวงมาลย์

เวลาประมาณ ๐๙.๓๐ น.  เดินทางถึงวัดคลองวาฬ วัดคลองวาฬตั้งอยู่ ณ เลขที่ 449 ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์   วัดคลองวาฬเป็นพระอารามหลวง ที่นี่เริ่มพิธีเปิดโครงการฯ โดยผู้ที่ได้รับมอบหมายจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และพิธีการขอพรจากเจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

 

 เสร็จพิธีการเปิดโครงการฯแล้วเดินทางต่อ เที่ยงแวะรับประทานอาหาร เวลาประมาณ  ๑๓.๐๐ น. ศึกษาดูงาน ณ สพป.ประจวบคีรีขันธ์ เขต ๒ ที่นี่มีการบรรยายพิเศษความเป็นไปและความก้าวหน้าของเขตพื้นที่ที่นี่ ชมกลุ่มงานต่าง และฝ่ายต่าง ๆ ๑๔.๐๐ น. เดินทางต่อมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร ๑๘.๓๐ น.แวะทานอาหารมื้อเย็นร้านบ้านเจ้าจันทร์  เรียบร้อยเดินทางเข้าที่พัก  โรงแรมริเวอร์ไต์  ริมแม่น้ำเจ้าพระยา  เวลา ๒๐.๓๐ น. รับกุญแจห้องพัก  ห้อง ๔๑๙ พักกับคุณครูเจษฎา  อินทรัตน์ คุณครูซึ่งจะเกษียณวันที่ ๓๐  กันยายน นี้  เข้าห้องพักอาบน้ำนอนพัก เหนื่อยมาทั้งวัน

 วันพุธที่ ๑๒  กันยายน  ๒๕๕๕ ตื่นตามเสียงโทรศัพท์ที่ตั้งปลุกไว้  เปิดอินเทอร์เน็ตจาก Tablet อ่านข่าวสารบ้านเมือง อาบน้ำแต่งตัวลงไปห้องอาหารทานอาหารเช้า  เรียบร้อยแล้วออกไปรอขึ้นรถบัส  ระหว่างรอเก็บภาพสวย ๆ หน้าโรงแรมที่พัก

 ๐๘.๐๐ น. ขึ้นรถบัสเดินทางไปไหว้พระ วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานครและลงเรืออังศนา เรืออังสนา เป็นเรือรับรองพิเศษของกองทัพเรือ ที่ถวายให้เป็นเรือพระที่นั่ง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยุ่หัวฯ ในการเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคครั้งนี้ โดยก่อนหน้า เมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เคยประทับบนเรืออังสนา เสด็จฯไปเปิดประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ จังหวัดสมุทรปราการมาแล้ว  เรืออังศนาใช้น้ำมันไบโอดีเซล ๑๐๐%

เรือมุ่งไปสู่เกาะเกร็ดจังหวัดนนทบุรี ตลอดทางได้ชมแม่น้ำเจ้าพระยา มีเรือสินค้า  เรือโดยสาร พักตบชวาลอยเกลื่อน ริมฝั่งมีตึกสูง บ้านเรือนของประชาชน เป็นธรรมชาติที่สวยงามประทับใจมาก ชมเพลิน เรือเข้าสู่จังหวัดนนทบุรี เพื่อไปไหว้พระที่เกาะเกร็ด ที่นี่จะเห็นหมู่บ้านชาวมอญ มีบ้านริมฝั่งน้ำแบบดั้งเดิม  ปลูกผักไว้เขียวชอุ่ม ได้เห็นเจดีย์เอียงวัดเกาะเกร็ด

ถึงเกาะเกร็ดไหว้พระวัดไผ่ล้อม วัดไผ่ล้อม เป็นชื่อสามัญที่มีความพ้องกันหลายวัดหลายสถานที่ แต่ที่นี่คือวัดไผ่ล้อมซึ่งตั้งอยู่บนเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ประวัติความเป็นมาบ้างว่าสร้างตั้งแต่ครั้งสมัยอยุธยาตอนปลาย บ้างก็ว่าสร้างในครั้งสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี จากนั้นเดินชมหมู่บ้านชาวมอญบนเกาะแห่งนี้  ที่นี่มีสินค้าวางจำหน่ายตลอดทาง  มีทั้งสินค้าประเภทเครื่องปั้นดินเผา  ขนมโบราณ ผักสด ๆ งานฝีมือหลากหลายชนิด ไปถึงวัดปรมัยยิกาวาส  วัดปรมัยยิกาวาส ตั้งอยู่ที่ตำลบลเกาะเกร็ด เยื้องท่าเรือสุขาภิบาลปากเกร็ดไปทางใต้ประมาณ ๑ กิโลเมตร และอยู่ตรงข้ามกับท่าเรือวัดสนามเหนือ เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร สร้างแบบรามัญ เดิมวัดนี้เป็นวัดเก่า ชื่อวัดปากอ่าว ในสมัยรัชกาลที่ ๕ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์ใหม่ทั้งวัด และโปรดให้สร้างพระเจดีย์รามัญ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระราชทานนาม "วัดปรมัยยิกาวาส" เนื่องจาก ศิลปะการสร้างมีลักษณะแบบมอญ พระเจดีย์ทุกองค์สร้างแบบมอญ และพระพุทธรูปพระประธาน ในโบสถ์ สลักด้วยหินอ่อนแบบมอญด้วย จึงเรียกกันว่า "วัดมอญ" ภายในวัดมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง และบานประตู หน้าต่างโบสถ์ประดับลายปูนปั้นสวยงาม     วัดปรมัยยิกาวาสเป็นวัดเดียวที่ยังเก็บรักษาพระไตรปิฎกภาษามอญไว้ ถือเป็นวัดศูนย์กลางของชุมชนชาวมอญ และมีโบราณวัตถุสมัยอยุธยาตอนปลาย

 

ลงเรือทานอาหารกลางวันบนเรือ แวะไหว้พระวัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร วัดนี้มีปลาเยอะมาก คุณครูแวะให้อาหารปลาและเข้าไปไหว้พระ ลงเรือเดินทางต่อระหว่างทางบนเรือสนุกสนานร้องคาราโอเกะอย่างมีความสุข หลายคนลืมอายุว่าเป็นครูเกษียณ เข้าทำนอง"เกษียณตัว  ไม่ใช่เกษียณใจ" ชมทิวทัศน์ริมฝั่งเก็บภาพสวย ๆ ไว้ดู แวะไหว้พระอีกวัด ได้แก่ วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร (วัดกัลยา) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งธนบุรี บริเวณปากคลองบางกอกใหญ่ เจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต กัลยาณมิตร) ได้อุทิศบ้านและซื้อที่ดินข้างเคียงเพิ่มเติม สร้างเป็นวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๘ แล้วน้อมเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ พระราชทานนามว่า วัดกัลยาณมิตร และทรงสร้างพระราชทานทั้งพระวิหารหลวงและพระประธานสำหรับพระวิหารหลวง คือ หลวงพ่อโตหรือพระพุทธไตรรัตนนายก โดยทรงมีพระราชประสงค์ให้เป็นพระพุทธรูปใหญ่อยู่ริมแม่น้ำแบบเดียวกันกับที่วัดพนัญเชิง กรุงเก่า  

คลิกอ่านงานมุทิตาจิต.....ต่อไป

 

[ครูแอ๋ม]

เก็บภาพไว้ในความทรงจำเพราะ.....