เติมเต็มเรียนเรื่องอาเซียนตอน2
บันทึกนี้เล่าเรื่องโดยย่อจากการเข้าสัมมนา“รู้ลึกรู้จริง ก่อนประเทศไทยก้าวสู่ประชาคมอาเซียน” ที่ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา มอบหมายให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผ่านกองพัฒนานักศึกษา สำนักงานมหาวิทยาลัย ดำเนินการขับเคลื่อนความรู้ให้กับบุคลากรในแวดวงการศึกษาในเขตภาคเหนือค่ะ
เรื่องราวความรู้อาเซียนเสาหลักด้านเศรษฐกิจ ได้ คุณณรงค์ ตนานุวัฒน์ ประธานกลุ่มบริษัทตนานุวัฒน์ ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เป็นวิทยากร เริ่มต้นถ่ายทอดเรื่องเล่าเร้าพลังจากประสบการณ์จริง ที่ฟังแล้วเข้าใจแจ่มแจ้งก่อนจะลงลึกสาระวิชาการ หัวข้อบรรยายพิเศษเรื่อง "โอกาสของประเทศไทยต่อการค้าการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน" การเล่าเรื่องราวประสบการณ์ที่เป็น Bad Practice สู่ Best Practice เป็นแบบอย่างที่น่าสนใจสำหรับนักธุรกิจที่คิดจะก้าวเข้าไปสู่ประเทศในกลุ่มอาเซียนค่ะ โดยสรุปแล้ว ในแวดวงเรื่องอาเซียน วิทยากรมองว่า การพัฒนาเสาอื่นๆ ก่อน แล้วเสาเศรษฐกิจจะดีตามมา โตและสมดุล เราได้ฟังกรณีศึกษานักธุรกิจเชียงใหม่ เล่าความล้มเหลวก่อนประสบ ความสำเร็จ จากธุรกิจในเชียงใหม่-จีน-ลาว ธุรกิจล่าสุด ที่ลาว เมือง Land Lock ที่เปลี่ยนเป็น Land link ( ร้าอาหาร กู๊ดวิว สู่โขงวิว) การคิดจะทำอะไร ต้องดู สถานที่ตั้ง หุ้นส่วน ไปขยายธุรกิจในประเทศลาว ศึกษาประเทศเพื่อนบ้าน ดูอาณาเขตพรมแดนติดไทย ขนาดของประเทศในอาเซียนตอนบน ข้อมูลสังคม เศรษฐกิจการเมือง แล้วค่อยมาถอดรหัสการทำธุรกิจ นอกจากนั้นยังได้ฟังเรื่องเล่าเศรษฐกิจในแต่ละประเทศอาเซียน ฟังวิทยากรจนจบด้วยความอิ่มใจค่ะ (เอกสารประกอบการบรรยาย ที่นี่ ค่ะ)
จากเสาหลักการเมือง และเศรษฐกิจผ่านไปแล้ว ยังเหลือเรื่องสังคมและวัฒนธรรม รวมเลยไปถึงเรื่องการศึกษา ทำให้สติเผลอไผลในระหว่างการเข้าร่วมฟังการบรรยายไปว่า นานแค่ไหนแล้วที่ได้นั่งเรียนวิชาประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ วัฒนธรรมประเพณีและวรรณคดี ผู้จัดสัมมนาได้สร้างบรรยากาศไม่ให้น่าเบื่อเรื่องวิชาการล้วน จึงมีการสลับให้นักศึกษาที่มาจากประเทศสมาชิกอาเซียนมายึดเวทีคุยเรื่องภาษากันค่ะ
"เรียนรู้ 10 ภาษา ประเทศในประชาคมอาเซียน" โดยนักศึกษาแต่ละประเทศ ผ่านชมรมนักศึกษานานาชาติ เด็กๆ (นักศึกษาปริญญาโท) มาเล่าและสอนภาษาพื้นฐานให้ฟังและฝึกออกเสียง เช่น เรื่องคำทักทาย สวัสดี สบายดีไหม ลาก่อน 1-2-3-4-5-6-7..100 การเรียนรู้ผ่านการฝึกปฏิบัติอย่างสนุกสนานก็ทำให้เราจำ คำสำคัญๆ ได้นะคะ
จบจากความเฮฮาสร้างบรรยากาศของนักศึกษาจากประเทศไทย ลาว เมียนมาร์ อินโดนีเซีย เวียดนามและกัมพูชา แล้ว เราได้พบบรรยากาศ “ตระการตา ศาสนา พัสตราภรณ์ ศิลปวัฒนธรรม ของชาติในอาเซียน” โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ มาณพ มานะแซม รองผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อาจารย์เล่าเส้นทางการค้าขาย ในอดีต ทางน้ำ ทางบก เชื่อมโยงมายังเมืองเชียงใหม่
มีเรื่องศาสนา ความเชื่อติดตามเข้ามาสู่ชนชั้นปกครอง มีพระพรหม พระศิวะ พระนารายณ์ ความเชื่อเรื่องผีที่ปะปนมาพร้อมการค้าขาย เช่น ปู่แสะย่าแสะ (เชียงใหม่มีที่เชิงดอยวัดพระธาตุดอยคำ ต.แม่เหียะ) และอาจารย์ยังได้นำแฟชั่นโชว์แสดงเครื่องแต่งกายของสิบประเทศในอาเซียน ซึ่งแสดงแบบโดยนักศึกษาที่ผ่านเวทีประกวดดาวเดือนมหาวิทยาลัยมาสดๆ ร้อนๆ (การประกวดวันที่ 29 สิงหาคม 2555)
ชั่วโมงอาเซียนนี้เราสนุกกับเรื่องราววรรณคดีที่สำคัญ ที่มีคล้ายคลึงกันไปทั่วอาเซียน คือ รามเกียรติ์ ที่มีมานานกว่า 2000 ปี ในไทย ลาว เขมร มาเลเซีย และอินโดนีเซีย มีท่ารำต่างๆ มีโขนเป็นจุดร่วมทางวัฒนธรรมอาเซียน เมื่อหลังรับอารยธรรมอินเดียราว พ.ศ. 1000 การแต่งกาย ที่แต่ละชาติสร้างเป็นชุดประจำชาติ เป็นความหลากหลายที่มีอัตลักษณ์ เกี่ยวกับเครื่องแต่งกายแต่ละประเทศ แม้มีความแตกต่าง แต่วัฒนธรรมการกินอยู่ การแต่งกายก็มีเหมือนๆ กัน (เอกสารประกอบการบรรยาย ที่นี่ ค่ะ)
สรุปอีกครั้งกับการสัมมนาวันแรก เราเรียนรู้เพิ่มเติมหัวใจหลักของการรู้ให้ลึกรู้ให้จริง โดยหลักๆ เราควรได้รู้เรื่องอะไรบ้างเกี่ยวกับประชาคมอาเซียน นั่นคือ สามเสาหลัก เสาการเมือง ได้รู้การเมืองในแต่ละประเทศ เช่น พัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวาย เสาเศรษฐกิจ เล่าการทำธุรกิจในลาวของไทย การศึกษาในพม่า ส่วนเสาการศึกษา เรื่องการเรียนรู้ในภาษาประเทศในอาเซียน ด้านวัฒนธรรม ความเชื่อ การแต่งกาย ที่ล้วนมีรากฐานมาจากที่แห่งเดียวกัน แต่ยังมีความรู้จากการสัมมนาในวันที่สองรออยู่ค่ะ เป็นเรื่องของการศึกษาล้วนๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งสำหรับเราเองแล้วเชื่อ ณ เวลานี้ว่าความรู้อาเซียนสองวันจะให้เราพอรู้ลึก รู้จริงก่อนประเทศไทยเราเข้าสู่ประชาคมอาเซียน สมดังเจตนารมณ์ของคณะผู้จัดสัมมนาค่ะ
(ยังมีต่อ)
ความเห็น (2)
สวัสดีครับ
อาเซียนนั้นมีพื้นที่กว้างขวางมโหฬาร เรียนรู้อย่างไรก็ไม่หมด
จะรู้จักกว้างๆ ก็ไม่ลึก รู้ลึกๆ ก็ไม่กว้าง
อาจต้องให้กลยุทธ์ทะลวงทีละด้าน ได้ทั้งกว้าง ทั้งลึก
เชิญชวนวันที่ 16 กย.55 นี้ไปได้ไหมค่ะ
ย้อนความสุขของเราิีกครั้ง
