ปล่อยให้ไหม้ถึงสองเดือนเหมือนจะวอด!
ลามตลอดไฟป่าลุกถาโถม!
"พรุควนเค็ง"ผืนสุดท้ายวอดวายโทรม
แรงลุกโหมพระเพลิงคลั่งหลั่งน้ำตา
มันมิใช่ "ไฟป่า"นิจจาเอ๋ย
แต่ก่อนเคยเขียวชอุ่มพุ่มพฤกษา
คือ "ไฟคน"ที่พาวอดตลอดมา
รุกที่ป่าชุ่มน้ำซ้ำปล่อยตาย
กว่าจะเร่งกว่าจะดับก็ยับสิ้น
ร่วงโรยรินสองหมื่นไร่ให้สูญหาย
พัทลุงถึงสงขลาพาวอดวาย
จนตายายสาปแช่งแล้งเหลือทน!
เกิดอาเพศเหตุใดใครรู้บ้าง
พิรุณพร่างพรายมาพายุฝน
ตอนหน้าแล้งกลับกระหน่ำช้ำเหลือทน
ตกเสียจนน้ำท่วมอ่วมฤทัย
พอถึงคราหน้าฝนหาหล่นไม่
ห้าเดือนให้ร้อนระอุป่าพรุไหว
พอไฟติดก็ลุกลามตามกันไป
จนดับไม่ได้แล้วแคล้วหมดกัน
นครศรีธรรมราชพินาศสิ้น
พรุผืนดินชุ่มน้ำตาพาพลิกผัน
รอฝนหลวงมาสลายคลี่คลายพลัน
"พระองค์ท่าน" คือน้ำฟ้ามาชโลม
เมื่อไหร่หนอที่ไฟในมนุษย์
มันจะหยุดทำลายป่าที่ถาโถม
ฟื้นฟูป่าที่มนุษย์ทำทรุดโทรม
ช่วยกันโถมถั่งป่าพากลับคืน!
...มื่อไหร่หนอที่ไฟในมนุษย์ มันจะหยุดทำลายป่าที่ถาโถม ฟื้นฟูป่าที่มนุษย์ทำทรุดโทรม ช่วยกันโถมถั่งป่าพากลับคืน! ...
I wish (as you wish and we wish) that 'man' (I am ashame to be a member of) would stop destroy their (in fact 'our' or 'everyone's) own home.
A wonderful poem! Let's hope we can shine more lights and let the firebugs see.
ภาวนาด้วยคนครับ