มือถือสาก ปากถือศีล คื่อวา มือถือสากซิไปตีเขาไห่ตาย ปากก็ถือศีลจิตใจซิไปทำร้ายเขา
ความเดิม.....
“ อีกมุมมองที่ชวนคิด ทำความเข้าใจในการใช้ของสำนวนนี้ กับผู้มาปฏิบัติธรรม
วันนี้ผมขอคำชี้แนะผู้รู้ต่างๆ เท่าที่เวลาจำกัด ผมค้นความหมายของสำนวนนี้บน web ได้ดังนี้
- มือถือสาก ปากถือศีล หมายถึง .............
- ผมสรุปก็คือว่า
“ การทำตัว การแสดงตัว ว่าตนเองเป็นคนดี แต่ลับหลังกลับประพฤติตัวไม่ดี คิดไม่ดี ”
....................................................... “
ต่อ.....
เมื่อวันหยุดยาวผมมีโอกาสไปเติมพลังใจกับหลวงปู่เช่นเคย เห็นผมเขียนเล่าเรื่องชวนยิ้ม เฮฮา ไม่ใช่ว่าผมไม่มีทุกข์นะครับ ถ้าผมไม่มีครูบาอาจารย์ กัลยาณมิตร ค่อยช่วยเหลือในยามที่ผมสับสน ทุกข์แต่ไม่ทน ปานนี้ผมคงไม่ได้มาทำตัวเป็นตัวตลกบน G2K แล้ววววว.....
ต่อ..... (อีกรอบ....ชอบนอกเรื่องตามเคย)
เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมเริ่มมีข้อสงสัยในตัวหลวงปู่ ท่านก็เริ่ม....ปล่อย “หมัด” ใส่ผมทันทีทันควันเหมือนกัน
ช่วงวันหยุด ถ้ามีโอกาสผมก็จะไปอยู่วัดซะหน่อย คอยไปช่วยโน้นนี้ เล็กๆน้อยๆ เช่น หลวงปู่พาคณะพระเณร รวมถึงข้าพเจ้าไปยกก้อนหินทำฐานแท้งค์น้ำ 3000 ลิตร อยู่ทั้งวัน (มีเรื่องให้โม้เยอะเลย....ถ้าไม่ลืมก่อนจะมาเล่าบันทึกไว้นะครับ)
ช่วงวันหยุด จะมีคนมาวัดเยอะหน่อย คราวนี้วันหยุดยาวผมก็มีโอกาสได้กราบ และนั่งข้างๆ หลวงปู่ เคยอุปฐากหลวงปู่ ระหว่างหลวงปู่พูดคุย อบรมญาติโยมที่มากราบท่าน ผมก็นั่งหลับตาสงบข้างๆท่าน ฟังท่านสนทนาธรรมกับญาติโยมไป (จะหยุกๆหยิกๆไม่ได้ครับงานนี้ เดี๋ยวเสียฟอร์มคุณครูหมด...... ไม่ได้ต้องนั่งนิ่งๆ หลับตาด้วยนะครับ....เอาท่าไว้ก่อน พ่อสอนไว้.....<ตอนเล่นเทนนิสนะครับ อิอิ...> )
.....สงสัยว่า ช่วงก่อนที่ผมจะไปวัด นั้นผมมีว่าคิดว่าหลวงปู่ดูต่างจาก พระรูปอื่นยังไงหนอ?? ก็เหมือนพระสงฆ์นักปฏิบัติรูปหนึ่ง ความลังเลสงสัยเกิดในตัวครูบาอาจารย์......???!!!
ระหว่างหลวงปู่พูดคุยกับญาติโยมเรื่องธรรมะอยู่นั้น..... จู่ๆหลวงปู่ก็พูดขึ้นเป็นภาษาอีสานขึ้นมา (ซึ่งก็ไม่ได้เกี่ยวกับบทสนทนาประโยคเมื่อกี่นี้เลยจริงๆ)
“ มือถือสาก ปากถือศีล คื่อวา มือถือสากซิไปตีเขาไห่ตาย (ตีเขาให้ตาย) ปากก็ถือศีลจิตใจซิไป....(จำท่อนนี้ไม่ได้ ต้องขออภัยนะครับ)....ซิไปทำร้ายเขา (อะไรประมาณนี้นะครับ ขออภัยจริงๆ ข้าน้อยจำบ่ได้เด้อ ผมยังต้องฝึก “สติ” อีกเยอะเลย) .....”
แล้วหลวงปู่ก็หยุดพูดไปเฉยๆนี้แหละ.......แล้วท่านก็พูดกับญาติโยมเรื่องอื่นต่อไป.......
อืมมมมม!!!! ผมลืมตาชำเลืองหลวงปู่ ท่านสบตาผมอยู่ในระยะไม่เกิน 1-2 เมตร อืมมมมม!!!! ผมหลับตา.....คิดในใจ
“.....ครับหลวงปู่ ครับ......เรื่องนี้ผมเขียนอยู่บน G2K ครับ ได้พยายามหาความหมายจากแหล่งต่างๆอยู่ครับบบ.....ปล่อย “หมัด” ใส่ผมอีกแล้ววววคร้าบบบบบ”
เออออ.....หรือวัดนี้จะมี Internet WiFi....9G... Free For Monks....ฮิฮิ......^@@:)^
***ความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ ระยะหลังๆ อย่างที่ผมบันทึกไว้ว่า “ผมก็ไม่รู้ว่าจะไปนั่งพิสูจน์ทำไม เรื่องราวมันก็เป็นไป...ตามเหตุตามปัจจัยอยู่เนืองนิจ” ***