การฝึกปฏิบัติเพื่อการตื่นรู้ในปัจจุบันขณะ


การฝึกสติตามแนวทางของหมู่บ้านพลัม

สิ่งที่เรียนรู้ : การมีสติอยู่อยู่กับปัจจุบันขณะตามแนวทาง ติช นัท ฮันห์ แห่ง  หมู่บ้านพลัม

วิธีการเรียนรู้ : การหายใจ  เป็นพื้นฐานของชีวิต นอกจากระบบหมุนเวียนอากาศภายในของเรา ความคิดของเรา อารมณ์อันหลากหลาย  เราจะกลับมาสู่ลมหายใจของเรา เพื่อหยุดและสำรวมจิตใจ

      เราสัมผัสถึงลมหายใจเข้าออกที่กระทบกับจมูกของเรา เราสัมผัสได้ถึงความอ่อนเบาอย่าง ความสงบปิติ จาการกำหนดลมหายใจ

     เราอาจจะท่องจำว่า

     หายใจเข้า ฉันรู้ว่าฉันหายใจเข้า      หายใจออก ฉันรู้ว่าฉันหายใจออก

     เราไม่จำเป็นต้องไปบังคับลมหายใจของเรา สัมผัสถึงลมหายใจก็จะช้าลงและลึกขึ้น อย่างเป็น ธรรมชาติ การตระหนักรู้ลมหายใจเข้าออกอย่างมีสติ

                   การนั่งสมาธิ เราจะนั่งดั่งพระพุทธรูปที่ประดับนั่งบนบัลลังค์ดอกบัว น้อมความคิดให้เปิดกว้าง ทำใจให้เมตตาและอ่อนโยน ทุกครั้งที่่เรานั่งก็เพื่อที่จะนั่ง มิปรารถนาใดอื่น ให้เราน้อมกายใจกลับมาอยู่กับปัจจุบันขณะด้วยการตามรู้ลมหายใจเข้าออก เราจะใช้ลมหายใจเป็นตัวเชื่อมกายกับใจให้เป็นหนึ่งเดียว เราสามารถมีความสุขกับการนั่งสมาธิได้ อย่างสงบและลึกซึ้ง ซึ่งอาจใช้คำภาวนาช่วยได้

            หายใจเข้า ... ฉันเป็นดั่งดอกไม้  หายใจออก...รู้สึกสดชื่น

            หายใจเข้า ... ฉันเป็นดั่งภูผา      หายใจออก...ฉันรู้สึกมั่นคง

            หายใจเข้า ... ฉันเป็นดั่งน้ำใส     หายใจออก...ฉันสะท้อนสรรพสิ่งอย่างที่เป็นอยู่

            หายใจเข้า...ฉันเป็นดั่งท้องทุ่ง    หายใจออก...ฉันเป็นอิสระ

                    การผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์  การพักผ่อนเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิบัติธรรม เราควรได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ เพื่อการผ่อนคลายในระดับลึก อาจจะใช้เวลา 5-10 นาที หรือ 40 นาทีก็ได้ แต่ต้องดื่มด่ำไปกับการปฏิบัติ ก่อนอื่นเราจะต้องนอนราบ ลงพื้นหรือเตียง ทำตัวตามสบาย ให้แขนขาผ่อนคลาย ปลายเท้าห่างกันเล็กน้อย ขณะหายใจเข้า-ออก ให้ตระหนักรู้ถึงทุกส่วนของร่างกาย แต่ละครั้งที่หายใจเข้า-ออกให้รู้สึกตัวว่าเหมือนดิ่งลงไปในพื้นเรื่อยๆ ปล่อยวางความเครียด ความกังวลทั้งปวง จากนั้นให้ณุ้สึกไปที่ท้องว่า พอง-ยุบ แล้วค่อยๆแสกนอวัยวะทุกๆส่วน ส่งพลังแห่งสติและความเมตตาไปทุกส่วนของร่างกาย มีความสุขกับการปฏิบัติ พักผ่อนอย่างแท้จริง เมื่อได้เวลาก็ค่อยๆประคองสติ รักษาความสงบให้นานๆ แล้วลืมตาขึ้น พร้อมกับกิจกรรมใหม่ๆ

                    การรับประทานอาหารอย่างมีสติ  เมื่อเราตักอาหารเราก็เริ่มต้นการฝึก เราตระหนักถึงธาตุต่างๆ เช่น สายฝน แสงแดด ผืนแผ่นดิน อากาศ และความรัก มาประกอบรวมกันเป็นอาหารอันมหัศจรรย์มื้อนี้ ที่จริงแล้วจากอาหารมื้อนี้ เรามองเห็นถึงจักรวาลทั้งมวลเกื้อหนุนการดำรงอยู่ของเรา

     เมื่อตักอาหาร เราควรตักในปริมาณพอดี ก่อนรับประทาน ระฆังแห่งสติจะถูกเชิญสามครั้ง เราสามารถเบิกบานกับการหายใจเข้าออกด้วยคำอธิษฐาน 5 ประการ

     1. อาหารนี้เป็นของกำนัลแห่งจักรวาล ท้องฟ้า แผ่นดิน และ การตรากตรำทำงานหนัก ด้วยความรักความเมตตา

     2. ขอให้เรารับประทานและดำเนินชีวิตอย่างมีสติ เพื่อให้เรามีชีวิตที่คุ้มค่า

     3. ขอให้เราเปลี่ยนแปรสภาวะจิตที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ และเรียนรู้ที่จะรับประทานอาหาร อย่างพอประมาณ

     4. ขอให้เรารับแต่อาหารที่บำรุงหล่อเลี้ยงร่างกายจิตใจ และป้องกันการเจ็บไข้ได้ป่วย

     5. เรายอมรับอาหารนี้ เพื่อที่จะตระหนักรู้หนทางแห่งการปฏิบัติ ในวิถีทางแห่งความรัก ความเมตตา และความเข้าใจ

     เราควรเคี้ยวอาหารอย่างน้อย 30 ครั้งต่อคำ จนกระทั่งอาหารละเอียด ซึ่งช่วยระบบย่อย อาหารได้ ทำให้เราเบิกบาน ในแต่ละคำของอาหารและการรับประทานร่วมกันของกัลยาณมิตร ให้เรารู้ตัวทั่วพร้อมในปัจจุบันขณะ การรับประทานอาหารด้วยวิธีนี้นั้น มั่นคง เบิกบานและสงบสันติ

           ผลการเรียนรู้ : มีความสุข ความสงบ มากยิ่งขึ้น เมื่อรู้สึกว่าหมดพลังก็ทำให้มีพลังจากการตื่นรู้มากขึ้น สามารถทำกิจกรรมต่างๆอย่างมีความสุขและมีสติ

           ข้อคิดที่ได้จากประสบการณ์ : การทำกิจกรรมต่างๆของเราควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของการมีสติ และอยู่กับปัจจุบันขณะ เพื่อที่เราจะสามารถทำกิจกรรมนั้นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีประสิทธิผล

           เอกสารอ้างอิง : www.thaiplumvillage.org

                                 www.plumvillage.org

 

                                 

หมายเลขบันทึก: 497749เขียนเมื่อ 8 สิงหาคม 2012 21:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 สิงหาคม 2012 00:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (19)

ไม่น่าล่ะ ถึงได้เป็นเฮดโอดอด ^^

ไม่น่าเชื่อว่า'นาวจะมีสติกับเค้าด้วย :))

การช่วยให้รู้สติมีประโยชน์หลายด้านมากๆ เป็นวิธีการที่ดีมากเลยคับ : ))

มีสติ ถือว่าดี มีประโยชน์ มากจร้า

สงสัยคงต้องลองทำซะแล้ว :D

ดีอ่ะ ต้องลองทำซะแล้ว จะได้มีสมาธิเวลาเรียนมากขึ้น

ดีมากๆ อ่านแล้วได้ประโยชน์มากๆจ้า :)

ดีมากๆ คนเราต้องมีสติ

ดีมากๆเลย สิ่งที่เราละเลย เช่นการหายใจ กลับเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีชีวิตอยู่ได้ทุกวัน

ยุบหนอ พองหนอ มีสติหนอ ดีจริงๆหนอ

ต้องลองทำตามดูซะแล้ว ขอบคุณสำหรับบทความดีๆจ้าาา ^^

การมีสติในการทำสิ่งต่างๆ จะทำให้เราทำกิจกรมนั้นได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้น และเกิดข้ผิดพลาดจะแก้ไขได้อย่างถูกต้องและเป็นระบบ จึงเป็นการแนะนำที่น่าสนใจจริงๆ จะลองนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตนะครับ

ดีครับ แต่ไม่ค่อยเข้ากับหน้าคนทำเท่าไหร่ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท